เมื่อวันที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๕๗ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน – สหภาพยุโรป (ASEAN – EU Ministerial Meeting: AEMM) ครั้งที่ ๒๐ ณ กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม ร่วมกับหัวหน้าคณะผู้แทน ๓๘ ประเทศ สาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้

ที่ประชุมได้พูดคุยกันถึงพัฒนาการทั้งของอาเซียนและสหภาพยุโรป ความคืบหน้าของความร่วมมือในด้านต่างๆ รวมทั้งสถานการณ์ในภูมิภาค ทั้งสถานการณ์ในเอเชียตะวันออก ยูเครน และแอฟริกาเหนือ ทั้งนี้ ที่ประชุมยังได้หยิบยกประเด็นด้านความมั่นคงใหม่ๆ อาทิ ความมั่นคงทางทะเล และภัยพิบัติ

ที่ประชุมยังได้หารือกันว่า ในขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับสหภาพยุโรป เนื่องจากสหภาพยุโรปกำลังมีความพยายามในการรวมตัวด้านการเงินการธนาคาร ขณะที่อาเซียนกำลัง  ก้าวเข้าสู่การรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจ ดังนั้น ความร่วมมือระหว่างสองฝ่ายและการเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์จึงมีความสำคัญ ทั้งนี้ สหภาพยุโรปได้แสดงความพร้อมที่จะร่วมมือกับอาเซียนในด้านการค้าโดยเฉพาะการเจรจาเขตการค้าเสรีรายประเทศที่จะเป็นบันไดไปสู่เขตการค้าเสรีอาเซียน – สหภาพยุโรป และแสดงความต้องการที่จะมีบทบาทในอาเซียนในสถาปัตยกรรมความมั่นคงในภูมิภาค อาทิ อาเซียน + ๑, ASEAN Regional Forum (ARF), และ EAS นอกจากนี้ ในการรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจนั้น อาเซียนจะต้องเผชิญกับปัญหาท้าทายใหม่ๆ อาทิ อาชญากรรมข้ามชาติ ยาเสพติด การค้ามนุษย์ และการก่อการร้าย ซึ่งสหภาพยุโรปที่มีประสบการณ์แก้ปัญหามามากจะสามารถให้การช่วยเหลือสนับสนุนได้

ปลัดกระรวงการต่างประเทศได้ใช้โอกาสดังกล่าวชี้แจงสถานการณ์และพัฒนาการทางการเมืองของไทย เพื่อให้ประเทศต่างๆ ทั้งในอาเซียนและสหภาพยุโรปเข้าใจความเป็นไปที่แท้จริง ซึ่งสำหรับประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่มีการชี้แจงจากคณะผู้แทนไทย มิใช่การรายงานจากสถานเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยหรือจากการรายงานของสื่อมวลชน โดยปลัดกระทรวงการต่างประเทศอธิบายถึงภูมิหลังของความขัดแย้งทางการเมืองไทย รวมทั้งแนวโน้มที่จะมีการเผชิญหน้าของกลุ่มต่างๆ ที่จะนำมาซึ่งการนองเลือกและอาจส่งผลต่อบทบาทของไทยในภูมิภาค ดังนั้น จึงอยากให้ประเทศต่างๆ เข้าใจบริบทการเมืองไทยและการเข้ามาบริหารประเทศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นั้น เป็นไปเพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายลง

ปลัดกระทรวงการต่างประเทศย้ำว่า ไทยยังยึดมั่นในค่านิยมประชาธิปไตยเช่นเดียวกับที่ฝ่ายสหภาพยุโรปยึดมั่น โดยในขณะนี้ไทยมีแผนการ Road Map และสิ่งที่ไทยต้องการคือการที่นานาประเทศมีความเข้าใจสถานการณ์และแนวทางที่ประเทศไทยกำลังดำเนินอยู่ รวมทั้งให้พื้นที่และเวลากับไทยเพื่อให้ประชาธิปไตยกลับคืนมาอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน ทั้งนี้ ไทยมีความเข้าใจและเคารพในท่าทีของประเทศต่างๆ ที่มีต่อไทย อย่างไรก็ตาม ไทยก็ขอให้นานาประเทศเข้าใจถึงความพยายามของไทยภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน รวมทั้งยังคงไว้ซึ่งปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันจนกว่าไทยจะผ่านพ้นช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน เพราะไทยยังคงมีศักยภาพในด้านต่างๆ โดยเฉพาะการมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองในอาเซียน การที่นักลงทุนยังมีความเชื่อมั่น และการที่ไทยยังคงบทบาทที่แข็งขันในอาเซียนต่อไป นอกจากนี้ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศได้แสดงความพร้อมของไทยในการทำหน้าที่ผู้ประสานงานอาเซียน – สหภาพยุโรปในวาระต่อไป และในการเป็นเจ้าภาพการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน – สหภาพยุโรปในปี ๒๕๕๙

ภายหลังจากการชี้แจง ผู้แทนจากประเทศต่างๆ อาทิ สหราชอาณาจักร โปแลนด์ ฟินแลนด์ โครเอเชีย สโลวีเนีย ฝรั่งเศส และเบลเยียม ได้แสดงท่าทีขอบคุณที่ไทยชี้แจงอย่างตรงไปตรงมา รวมทั้งแสดงความเข้าใจถึงความจำเป็นในการเข้ามาบริหารประเทศของ คสช. ซึ่งหลายประเทศก็แสดงความปรารถนาดีต่อไทย โดยคาดหวังให้ไทยกลับสู่ประชาธิปไตยโดยเร็ว