การประชุม Political Consultation ไทย - ฟินแลนด์ ครั้งที่ ๑

การประชุม Political Consultation ไทย - ฟินแลนด์ ครั้งที่ ๑

วันที่นำเข้าข้อมูล 3 มิ.ย. 2556

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 28 พ.ย. 2565

| 3,750 view

เมื่อวันที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๕๖ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และนายเปอร์ติ ตอร์สติล่า (Pertti Torstila) ปลัดกระทรวงการต่างประเทศฟินแลนด์ เป็นประธานร่วมในการประชุม Political Consultation ไทย – ฟินแลนด์ ครั้งที่ ๑ เพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นความสัมพันธ์ทวิภาคีและแลกเปลี่ยนทัศนะในประเด็นภูมิภาคและประเด็นระหว่างประเทศที่ทั้งสองฝ่ายมีความสนใจร่วมกัน

ปลัดกระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจของไทยที่มีเสถียรภาพภายหลังเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองและมหาอุทกภัยเมื่อปี ๒๕๕๔ โดยรัฐบาลมีกำหนดจะจัดปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “ประเทศไทย รวมพลังสู่อนาคต (Thailand: Uniting for the Future) ในเดือนกันยายน ๒๕๕๖ เพื่อเป็นเวทีสร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชนไทยให้เห็นความสำคัญของการก้าวข้ามความขัดแย้ง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศต่อไป นอกจากนี้ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศชี้แจงถึงสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการพูดคุยเพื่อสันติภาพกับกลุ่ม BRN ตามนโยบายแก้ไขปัญหาโดยวิธีสันติ ซึ่งกระบวนการพูดคุยดังกล่าวเปิดกว้างให้กลุ่มผู้ที่มีความคิดเห็นและอุดมการณ์แตกต่างจากรัฐกลุ่มอื่น ๆ เข้ามาร่วมพูดคุยด้วย ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศได้กล่าวเชิญฟินแลนด์ให้ร่วมลงทุนในโครงการลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของไทยมูลค่า ๒.๒ ล้านล้านบาท (ประมาณ ๖.๖ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และการร่วมลงทุนในโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายประเทศเมียนมาร์ โดยฟินแลนด์มีความสนใจที่จะร่วมมือกับไทยในการให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาเมียนมาร์อีกด้วย

ปลัดกระทรวงการต่างประเทศฟินแลนด์ได้แสดงความยินดีต่อการเจริญเติบโตของภูมิภาคอาเซียนในช่วงที่ผ่านมา และชื่นชมรัฐบาลไทยที่ผลักดันการเจรจาสร้างความปรองดองทางการเมืองและแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี นอกจากนี้ยังกล่าวย้ำว่า บริษัทในฟินแลนด์หลายแห่งได้แสดงความสนใจที่จะลงทุนในไทย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพ เทคโนโลยีสะอาด ธุรกิจบริการด้าน ICT ซึ่งฟินแลนด์ต้องการแสวงหาตลาดการลงทุนเพิ่มเติม และพร้อมที่จะเข้ามาลงทุนในภูมิภาคอาเซียนมากขึ้น

ไทยและฟินแลนด์ได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันตั้งแต่ปี ๒๔๖๒ ในปี ๒๕๕๕ มีมูลค่าการค้าระหว่างกันรวม ๕๒๔ ล้านยูโร (ประมาณ ๒.๘ หมื่นล้านบาท) การประชุมครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจของทั้งสองฝ่ายที่จะเพิ่มพูนปฏิสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกันให้ใกล้ชิดมากขึ้น โดยเฉพาะด้านการใช้พลังงานสะอาดการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (สินค้าของไทย) และการศึกษา

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ