นายธีรัตถ์  รัตนเสวี  โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเดินทางเพื่อร่วมฉลอง ๒๖๐ ปี แห่งการสถาปนานิกายสยามวงศ์ในศรีลังกาของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคณะ ถือเป็นการเชื่อมโยงและต่อยอดความสัมพันธ์ไทย-ศรีลังกาที่มีรากฐานทางพระพุทธศาสนาร่วมกันอย่างลึกซึ้ง

เมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๖  นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางถึงเมืองแคนดี้ เพื่อเข้าร่วมการเฉลิมฉลอง ๒๖๐ ปี แห่งการสถาปนานิกายสยามวงศ์ในศรีลังกา ซึ่งทางรัฐบาลศรีลังกามีความตั้งใจจัดขึ้นเพื่อต้อนรับคณะของนายกรัฐมนตรีเป็นกรณีพิเศษ ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินทางไปยังวัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว เพื่อร่วมชมพิธีอุปสัมปทาพระภิกษุ ๒ รูปจากฝ่ายมัลวัตตะ และฝ่ายอัสกิริยะ โดยไวยาวัจกรจะสวมชฎาให้แก่พระภิกษุบวชใหม่ พร้อมทั้งร่วมการสาธิตขบวนแห่พระธาตุเขี้ยวแก้ว และร่วมถวายดอกไม้บูชาพระธาตุเขี้ยวแก้ว สิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญสูงสุดทางพระพุทธศาสนา ประจำเมืองแคนดี้และประเทศศรีลังกา และในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานในพิธีเปิดนิทรรศการฉลองครบรอบ ๒๖๐ ปี การประดิษฐานพระพุทธศาสนานิกายสยามวงศ์ ของมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ณ พิพิธภัณฑ์พระพุทธศาสนานานาชาติ และได้เยี่ยมชมนิทรรศการพระพุทธศาสนาในประเทศไทย ซึ่งปรับปรุงโดยกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ภายในพิพิธภัณฑ์อีกด้วย

ทั้งนี้ ในวันรุ่งขึ้น นายกรัฐมนตรีจะเข้ากราบนมัสการพระมหานยกฝ่ายมัลวัตตะ (คามวาสี) และฝ่ายอัสกิริยะ (อรัญวาสี) ซึ่งทั้ง ๒ วัดอยู่ในนิกายสยามวงศ์ ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งสยามได้จัดส่งพระธรรมทูตไปให้บรรพชาอุปสมบทแก่กุลบุตรชาวศรีลังกา ก่อเกิดเป็นนิกายสยามวงศ์ครั้งแรกเมื่อ ๒๖๐ ปีก่อน ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ร่วมถวายชฎา บาตร และปัจจัยแด่วัดทั้งสอง เพื่อเป็นการฟื้นฟูขนบธรรมเนียมทางพระพุทธศาสนาในศรีลังกา ภายหลังธรรมเนียมบางอย่างได้ลดหายไปในช่วงความขัดแย้งทางการเมืองของประเทศ ภายหลังเสร็จสิ้นกำหนดการ นายกรัฐมนตรีเดินทางกลับกรุงโคลัมโบ เพื่อเดินทางต่อไปยังมัลดีฟส์