วันที่นำเข้าข้อมูล 13 พ.ย. 2563
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565
นายกรัฐมนตรีย้ำความสำคัญของความมั่นคงด้านสุขภาพ การค้าพหุภาคี การสานต่อความร่วมมือเศรษฐกิจดิจิทัลระหว่างอาเซียน-จีน และสนับสนุนให้ปี ๒๕๖๔ เป็นปีแห่งความร่วมมือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนอาเซียน-จีน พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทุกประเทศ " แสวงหาจุดร่วม สงวนจุดต่าง" เพื่อความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน-จีน ครั้งที่ ๒๓
เมื่อวันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ เวลา ๑๓.๐๐ น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-จีน ครั้งที่ ๒๓ ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยที่ประชุมได้ให้ความสำคัญกับความร่วมมือเพื่อรับมือกับโควิด-๑๙ และการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ตลอดจนแนวทางขยายความร่วมมืออาเซียน-จีน ในฐานะหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ โดยอาเซียนยินดีต่อความช่วยเหลือที่จีนให้ผ่านการสนับสนุนเงินจำนวน ๑ ล้านดอลลาร์สหรัฐแก่กองทุนอาเซียนโควิด-๑๙ และมุ่งหวังให้จีนสนับสนุนการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูที่ครอบคลุมของอาเซียน พร้อมทั้งยินดีที่จีนให้คำมั่นว่า วัคซีนโควิด-๑๙ เป็นสินค้าสาธารณะ และอาเซียนจะได้รับการแจกจ่ายวัคซีนเป็นลำดับต้น ซึ่งฝ่ายจีนเน้นย้ำว่า วัคซีนโควิด-๑๙ เป็นประเด็นที่สำคัญที่สุดในขณะนี้ และจะจัดทำข้อริเริ่มความร่วมมือด้านสาธารณสุขกับอาเซียนต่อไป
นายกรัฐมนตรีได้เสนอแนวทางในการฟื้นฟูภูมิภาคให้กลับมาเข้มแข็งกว่าเดิม ด้วยการกำหนดอนาคตร่วมกัน ได้แก่
๑) อนาคตทางสาธารณสุข ด้วยการร่วมมือกันเสริมสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก โดยไทยพร้อมที่จะร่วมมือกับมิตรประเทศในการพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนร่วมทำวิจัย พัฒนา และผลิตยา เพื่อแจกจ่ายให้แก่ประเทศในภูมิภาค ภายใต้ศักยภาพทางการแพทย์และโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณสุขที่มีคุณภาพของไทย
๒) อนาคตทางเศรษฐกิจ ด้วยการร่วมมือกันเสริมสร้างความแข็งแกร่งบนพื้นฐานของการพึ่งพาระหว่างกันทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้น การยึดมั่นในระบบการค้าพหุภาคีที่เปิดกว้างและเสรี และการหารือเพื่อกำหนดมาตรการอำนวยความสะดวกในการเดินทางระหว่างประเทศที่ปลอดภัย เพื่อให้เศรษฐกิจสามารถฟื้นตัวได้ดี ควบคู่กับการรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคอย่างมีประสิทธิภาพ
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำความจำเป็นในการสานต่อผลสำเร็จของความร่วมมือภายใต้ปีแห่งความร่วมมือด้านเศรษฐกิจดิจิทัลระหว่างอาเซียน-จีนในปีนี้ โดยมุ่งเน้นการเสริมสร้างขีดความสามารถของผู้ประกอบการ MSMEs start-ups และผู้ประกอบการท้องถิ่น ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนและพัฒนาทักษะที่จำเป็น
๓) อนาคตที่ยั่งยืน ด้วยการร่วมมือกันเสริมสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่ไทยผลักดันในช่วงการเป็นประธานอาเซียนปี ๒๕๖๒ โดยนายกรัฐมนตรีร่วมประกาศให้ปี ๒๕๖๔ เป็นปีแห่งความร่วมมือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนอาเซียน-จีน และในฐานะผู้ประสานงานของอาเซียนเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืน ไทยจะสานต่อความร่วมมือในเรื่องนี้ให้เป็นรูปธรรมต่อไป
๔) อนาคตที่มั่นคงร่วมกัน ด้วยการแสวงหาจุดร่วม และสงวนจุดต่าง ใช้ความยับยั้งชั่งใจ หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และหันมาหารือเพื่อเสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจทางยุทธศาสตร์ระหว่างกัน โดยไทยมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายอย่างสร้างสรรค์ อาทิ การปกป้องสิ่งแวดล้อมทางทะเล และสานต่อการเจรจาจัดทำ COC ที่มีประสิทธิภาพ มีเนื้อหาที่ครอบคลุม และสอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ
อนึ่ง ที่ประชุมได้รับรองเอกสารผลลัพธ์คือ แผนปฏิบัติการอาเซียน-จีนฯ ค.ศ. ๒๐๒๑ - ๒๐๒๕
รูปภาพประกอบ
วันทำการ : จันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.30 - 16.30 น.
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
งานรับ-ส่งหนังสือ และงานสารบรรณ:
อีเมล [email protected]
เว็บไซต์นี้ได้รับการออกแบบเพื่ออำนวยความสะดวกให้ทุกคนเข้าถึงเว็บไซต์ได้และมีมาตรฐาน WCAG 2.0 ระดับ AA
** เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุดควรใช้ Chrome เวอร์ชั่น 76 ขึ้นไป **