สรุปการแถลงข่าวประจำสัปดาห์
วันศุกร์ที่ 10 มกราคม 2568 เวลา 11.30 น. ณ ห้องบัวแก้ว
และทาง Facebook/TIKTOK live กระทรวงการต่างประเทศ
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (AMM Retreat) ณ เมืองลังกาวี มาเลเซีย (17-19 มกราคม 2568)
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมีกำหนดเดินทางไปเข้าร่วม การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (ASEAN Foreign Ministers’ Retreat: AMM Retreat) ระหว่างวันที่ 18 - 19 มกราคม 2568 ที่เกาะลังกาวี มาเลเซีย ตามคำเชิญของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซีย ประธานอาเซียนในปี 2568
- การประชุม AMM Retreat เป็นการประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนครั้งแรกของปี 2568 ภายใต้วาระประธานอาเซียนของมาเลเซีย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันกำหนดทิศทางการดำเนินการของอาเซียนตลอดปี 2568 ภายใต้แนวคิดหลัก คือ “การมีส่วนร่วมอย่างทั่วถึงและความยั่งยืน (Inclusivity and Sustainability)” อีกทั้งเป็นการติดตามผลการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 44 และ ครั้งที่ 45 เมื่อเดือนตุลาคม 2567 ที่เวียงจันทน์ สปป.ลาว
- ในโอกาสนี้ ที่ประชุมจะแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างประเทศและในภูมิภาคที่มีผลกระทบต่ออาเซียนด้วย
- ประเทศไทยเริ่มดำรงตำแหน่งสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (Human Rights Council: HRC) วาระปี ค.ศ. 2025 - 2027
- ตามที่เมื่อเดือนตุลาคมปี 2567 ประเทศไทยได้รับเลือกตั้งให้เป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (United Nations Human Rights Council: UNHRC) วาระปี ค.ศ. 2025 - 2027 ด้วยคะแนนเสียง 177 เสียง ซึ่งเป็นที่ประเทศที่ได้รับคะแนนสูงสุดในกลุ่มเอเชีย - แปซิฟิก โดยเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2568 ประเทศไทยได้เริ่มรับวาระการเป็นสมาชิกดังกล่าวแล้ว
- เพื่อเตรียมการให้ท่าทีและการดำเนินการของไทยเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2568 กระทรวงการต่างประเทศ ได้จัดการประชุมเตรียมการสำหรับการทำหน้าที่เป็นสมาชิก HRC ของไทย โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าร่วม นอกจากนี้ กระทรวงฯ จะหารือกับภาคส่วนอื่น ๆ อาทิ ภาควิชาการ ภาคประชาสังคม รวมถึงคณะทูตานุทูตและองค์การระหว่างประเทศต่อไป
- ประเด็นสำคัญและข้อริเริ่มที่ไทยประสงค์ผลักดันและขับเคลื่อนใน HRC คือ การสานต่องานที่ไทยได้มีบทบาทนำที่ผ่านมา เช่น เด็ก สตรี กลุ่มเปราะบาง สาธารณสุข กระบวนการยุติธรรม ธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน และความช่วยเหลือทางวิชาการ รวมถึงพิจารณาประเด็นความท้าทายใหม่ที่เชื่อมโยงกับสิทธิมนุษยชน เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โรคระบาด และเทคโนโลยีดิจิทัล
- ประเทศไทยจะนำจุดยืนทางการต่างประเทศของไทยที่พร้อมเป็นสะพานเชื่อม (bridge builder) ช่วยประสานความแตกต่างของท่าทีประเทศสมาชิกในการช่วยหาทางออก ตามที่จุดยืนที่ประเทศไทยรณรงค์การรับสมัครเลือกตั้งสมาชิก HRC มา โดยอาศัยจุดแข็งที่ไทยมีมุมมองหลายเรื่องที่ก้าวหน้าคล้ายกับประเทศที่พัฒนาแล้ว ในขณะเดียวกันก็มีความเข้าใจในบริบททางสังคม ศาสนาและวัฒนธรรมของประเทศกำลังพัฒนา
- การที่ไทยได้ทำหน้าที่ใน HRC ได้ช่วยผลักดันประเด็นที่ไทยให้ความสนใจและให้ความสำคัญแล้ว และยังช่วยยกระดับบทบาทของไทยในเวทีระหว่างประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรมด้วยอีกทางหนึ่ง
- การประชุม Saudi-Thai Coordination Council (STCC) ครั้งที่ 1
- กระทรวงการต่างประเทศจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสภาความร่วมมือซาอุดี – ไทย (Saudi - Thai Coordination Council: STCC) ครั้งที่ 1 ที่กระทรวงการต่างประเทศ
- ในวันที่ 16 มกราคม 2568 โดยมีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและเจ้าชายไฟศ็อล บิน ฟัรฮาน อาล ซะอูด (His Highness Prince Faisal bin Farhan Al-Saud) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของซาอุดีอาระเบียเป็นประธานร่วม
- ไทยและซาอุดีอาระเบียได้จัดตั้งสภาความร่วมมือซาอุดี - ไทย (Saudi-Thai Coordination Council: STCC) เพื่อเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนความร่วมมือในทุกมิติ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทั้งสองฝ่ายเป็นประธานและมีคณะกรรมการ 5 คณะ ดูแลความร่วมมือในสาขาต่าง ๆ ได้แก่
- (1) การเมืองและการกงสุล
- (2) ความมั่นคงและการทหาร
- (3) เศรษฐกิจและการค้า
- (4) การลงทุน
- (5) วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว
- ในช่วงที่ผ่านมา คณะกรรมการทั้ง 5 คณะ ได้จัดการประชุมกับฝ่ายซาอุดีอาระเบียและได้ให้ความเห็นชอบร่วมกันต่อร่างข้อริเริ่มความร่วมมือ (Initiative Card) รวมจำนวน 78 ฉบับ เพื่อรอเสนอต่อที่ประชุมสภาความร่วมมือฯ ครั้งที่ 1
- ทั้งนี้ ภายหลังจากที่ไทยและซาอุดีอาระเบียได้ปรับความสัมพันธ์ทางการทูตตั้งแต่ปี 2565 ได้มีการส่งเสริมความสัมพันธ์กันในหลายมิติ ทั้งผ่านการเยือนระดับสูง และกิจกรรมทางธุรกิจ ที่สำคัญ เช่น การเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของเจ้าชาย Mohammed bin Salman bin Abdulaziz Al Saud มกุฎราชกุมารและนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และการจัด Thai - Saudi Investment Forum เมื่อปี 2565 โดยการประชุมสภาความร่วมมือฯ ในครั้งนี้ก็จะเป็นอีกก้าวหนึ่งที่สำคัญเพื่อสร้างพลวัตในทางบวกระหว่างกันและนำไปสู่ความร่วมมือที่เข้มข้นยิ่งขึ้นในอนาคตครับ
- เหตุไฟป่าในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ
- ตามที่ได้เกิดเหตุไฟป่าอย่างรุนแรงในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ เผาผลาญบ้านเรือนและสิ่งก่อสร้างจำนวนมาก โดยส่งผลต่อประชาชนในพื้นที่ในวงกว้าง สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแองเจลิส ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงได้ออกประกาศเตือนคนไทย และจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินในการช่วยเหลือคนไทยด้วยแล้ว จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่าคนไทยได้รับผลกระทบโดยตรงจากเหตุดังกล่าว
- อย่างไรก็ตาม หากมีผู้ประสบภัย สามารถติดต่อศูนย์ปฏิบัติการของสถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ที่หมายเลข 323-962-9574 หรือที่หมายเลขฉุกเฉิน 323-580-4222 ตลอด 24 ชั่วโมง
- ทั้งนี้ สถานกงสุลใหญ่ฯ ขอให้คนไทยในพื้นที่ประเมินสถานการณ์หากต้องเตรียมการอพยพออกจากพื้นที่รับฟังข่าวสารจากทางราชการ รวมถึงนำเอกสารหรือสิ่งของสำคัญไว้ในกระเป๋าเดินทางมีความพร้อมหากต้องอพยพออกจากพื้นที่
รับชมย้อนหลังได้ที่: https://www.facebook.com/share/v/1WSvPdhaU2/