สรุปการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2567

สรุปการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2567

วันที่นำเข้าข้อมูล 8 พ.ย. 2567

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 8 พ.ย. 2567

| 978 view

สรุปการแถลงข่าวประจำสัปดาห์

วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2567 เวลา 11.00 น. ณ ห้องบัวแก้ว
 และทาง Facebook/TIKTOK live กระทรวงการต่างประเทศ

 

  1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธานการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ภูมิภาคเอเชียใต้
  • เมื่อวันที่1 - 3 พฤศจิกายน 2567 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เดินทางเยือนอินเดีย เพื่อเป็นประธานในการเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปทอดถวาย ณ วัดมหาโพธิวิหาร กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย  
  • ในโอกาสนี้ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 รัฐมนตรีฯ ได้เป็นประธานการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ภูมิภาคเอเชียใต้ โดยมีเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ไทยในภูมิภาคเอเชียใต้เข้าร่วม ประกอบด้วย เอกอัครราชทูตและว่าที่เอกอัครราชทูตจากอินเดีย ปากีสถาน บังกลาเทศ ศรีลังกา และเนปาล รวมถึงกงสุลใหญ่ไทยจากมุมไบ เจนไน กัลกัตตา และการาจีโดยรัฐมนตรีฯ ได้มอบนโยบายให้ผลักดันความร่วมมือระหว่างไทยกับประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียใต้ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีความสำคัญมากขึ้นในบริบทภูมิรัฐศาสตร์และภูมิเศรษฐศาสตร์ เนื่องจากเป็นจุดเชื่อมโยงทางบกและทางทะเลกับภูมิภาคต่าง ๆ ทั้งยังเป็นทางผ่านของการค้าทางทะเลกว่าร้อยละ 50 ของโลกและเป็นตลาดขนาดใหญ่จากจำนวนประชากรกว่า 9 พันล้านคน ซึ่งมีศักยภาพสูงจากการขยายตัวของกลุ่มชนชั้นกลางและจำนวนประชากรวัยทำงานจำนวนมาก
  • นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ยังได้แลกเปลี่ยนข้อมูลและข้อคิดเห็นเกี่ยวกับพัฒนาการของประเทศ ต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียใต้ โดยเห็นพ้องว่า ภูมิภาคเอเชียใต้มีศักยภาพในหลากหลายสาขา โดยเฉพาะในด้านการค้าและการลงทุน การท่องเที่ยว ความเชื่อมโยง และการแลกเปลี่ยนในระดับประชาชนจากความใกล้ชิดทางศาสนาและวัฒนธรรม

  1. การหารือระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินเดีย
  • เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2567 รัฐมนตรีฯ ได้พบหารือกับนายสุพรหมณยัม ชัยศังกระ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นการพบกันครั้งที่ 3 ตั้งแต่รัฐมนตรีฯ เข้ารับตำแหน่ง
  • ทั้งสองฝ่ายหารือในประเด็นความสัมพันธ์ทวิภาคีไทย-อินเดีย และความร่วมมือ ด้านอุตสาหกรรมทหารซึ่งเป็นสาขาศักยภาพที่ทั้งสองฝ่ายสามารถร่วมมือกันได้ตลอดจนบทบาทไทยและอินเดียที่สร้างสรรค์ในการขับเคลื่อนกรอบความร่วมมือพหุภาคี โดยเฉพาะ BIMSTEC และความร่วมมือลุ่มแม่น้ำโขง-คงคา (Mekong-Ganga Cooperation: MGC) รวมทั้งหารือถึงสถานการณ์ในภูมิภาคซึ่งเป็นประเด็นที่อยู่ในความสนใจร่วมกัน โดยไทยและอินเดียพร้อมที่จะร่วมมือกันเพื่อการรับมือและแก้ไขปัญหา ซึ่งรวมถึงอาชญากรรมข้ามชาติ การค้ามนุษย์ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ และการส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างกัน นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องที่จะผลักดันการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงเพื่อรักษาความต่อเนื่องของการดำเนินความสัมพันธ์ไทย-อินเดียต่อไป
  1. ผลการประชุม Greater Mekong Subregion (GMS) Summit ครั้งที่ 8 และ Ayeyawady-Chao Phraya-Mekong Economic Cooperation Strategy (ACMECS) Summit ครั้งที่ 10
  • เมื่อวันที่ 6 - 7 พฤศจิกายน 2567 รัฐมนตรีฯ ได้ติดตามนายกรัฐมนตรี ไปเข้าร่วมการประชุม GMS Summit ครั้งที่ 8 และ ACMECS Summit ครั้งที่ 10 ณ นครคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน
  • ก่อนการประชุม เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 รัฐมนตรีฯ ได้เข้าร่วมการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีกับนายมาซาสึกุ อะซาคาวา ประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank - ADB) ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณ ADB สำหรับความช่วยเหลือและการสนับสนุนด้านการพัฒนาของไทยมาโดยตลอด โดยเฉพาะด้านสาธารณสุขในช่วง COVID-19 และการฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจหลังจากสถานการณ์คลี่คลาย ขณะที่ประธาน ADB ย้ำถึงความสำคัญของ ADB ต่อไทย รวมถึงการยืนยันความพร้อมที่จะเดินหน้าสนับสนุนไทยอย่างต่อเนื่องต่อไป ทั้งยังได้หารือกันถึงความร่วมมือในการก่อสร้างทางหลวงในไทย สถาบันการเงินและ SMEs กองทุนสีเขียว การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ สิ่งแวดล้อม และความร่วมมือทางวิชาการต่าง ๆ ด้วย
  • ต่อมา เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 รัฐมนตรีฯ ได้ติดตามนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุม GMS Summit ครั้งที่ 8 ที่จีนเป็นเจ้าภาพและประธานภายใต้หัวข้อ “มุ่งสู่การเป็นประชาคมที่ดีกว่าเดิม ด้วยการพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม” (Toward a Better Community Through Innovation-driven Development) ” ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ย้ำความมุ่งมั่นของไทยตาม 3 แนวทางการพัฒนาของ GMS ดังนี้ (1) ความเชื่อมโยง (Connectivity) ผ่านการเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการค้าการลงทุน ซึ่งรวมถึงการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารระหว่างประเทศ (2) ความสามารถในการแข่งขัน (Competitiveness) ผ่านการแบ่งปันความสำเร็จในการเข้าสู่สังคมไร้เงินสดข้ามพรมแดนและการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของไทย และ (3) การเป็นประชาคม (Community) ผ่านการส่งเสริมการพัฒนาอย่างครอบคลุม ทั้งการศึกษาและสวัสดิการสาธารณสุขที่เท่าเทียมและมีคุณภาพ รวมไปถึงลดช่องว่างทางเทคโนโลยีที่ส่งผลต่อกลุ่มคนเปราะบางและคนที่ขาดโอกาส พร้อมเสนอแนวทางการพัฒนา “นวัตกรรมที่ครอบคลุมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”
  • ในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน รัฐมนตรีฯ ได้ติดตามนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุม ACMECS Summit ครั้งที่ 10 ที่ สปป. ลาว เป็นเจ้าภาพและประธานภายใต้หัวข้อ “มุ่งสู่ความเชื่อมโยงแบบไร้รอยต่อเพื่อการรวมตัวของอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง” (Towards Seamless Connectivity for Mekong Sub-regional Integration) โดยนายกรัฐมนตรีได้ย้ำถึงความร่วมมือในการส่งเสริมผลประโยชน์และศักยภาพของอนุภูมิภาค โดยเน้นความพยายามร่วมกันรับมือกับความท้าทายและภัยคุกคามที่สำคัญต่าง ๆ ทั้งอาชญากรรมข้ามพรมแดน โดยเฉพาะการค้ายาเสพติดและอาชญากรรมทางไซเบอร์ มลพิษทางอากาศ และภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งไทยได้เสนอเอกสารแนวคิดเรื่องการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง เพื่อเป็นแนวทางในการเสริมสร้างความร่วมมือและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำร่วมกันต่อไป
  • ในห้วงเดียวกัน รัฐมนตรีฯ ได้เข้าร่วมการหารือระหว่างอาหารกลางวันที่ผู้ว่าการมณฑลยูนนานเป็นเจ้าภาพเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีด้วย โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันและหารือถึงการส่งเสริมความร่วมมือในด้านที่ทั้งสองฝ่ายมีผลประโยชน์และสนใจร่วมกัน อาทิ การค้า เส้นทางขนส่งสินค้าเกษตร ตลาดสินค้าคุณภาพสูง การดูแลคนชาติและการยกระดับการท่องเที่ยว รวมถึงกิจกรรมในโอกาสครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ในปีหน้า (2568)

 

  1. นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มีกำหนดเข้าร่วมการประชุม APEC Summit ที่กรุงลิมา เปรู
  • ระหว่างวันที่ 14 - 16 พฤศจิกายน 2567 รัฐมนตรีฯ จะติดตามนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการการประชุม APEC Summit ที่กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู
  • ก่อนหน้านั้น ระหว่างวันที่ 11 - 13 พฤศจิกายน 2567 นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีฯ จะเดินทางเยือนนครลอสแอนเจลิเพื่อ (1) นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ประจำภูมิภาคอเมริกา (2) พบปะชุมชนไทยในพื้นที่ และ (3) พบหารือกับผู้แทนระดับสูงของบริษัทเอกเอกชนที่สำคัญ อาทิ Western Digital / Motion Picture Association และบริษัทสร้างภาพยนตร์ เพื่อเชิญชวนให้มาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น
  • ในห้วงการประชุม APEC รัฐมนตรีฯ มีกำหนดเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเอเปคครั้งที่ 35 ร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และจะกล่าวถ้อยแถลงรวมถึงร่วมกิจกรรมการประชุมการประกาศผลรางวัล APEC BCG Award (APEC Bio-Circular-Green Awar) ซึ่งยกย่องผู้ที่ประสบความสำเร็จในการขับเคลื่อนแนวคิดเศรษฐกิจ BCG จนสำเร็จ และนำไปปรับใช้ได้ใน 3 สาขา ได้แก่ สตรี เยาวชน และ SMEs ซึ่งเป็นข้อริเริ่มของไทยเมื่อเป็นเจ้าภาพ APEC ที่กรุงเทพฯ เมื่อปี 2565
  • นายกรัฐมนตรีมีกำหนดเข้าร่วมการประชุมที่สำคัญในกรอบเอเปค อาทิ (1) การประชุม APEC Summit (2) การหารือกับสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจ APEC (APEC Business Advisory Council - ABAC) (3) การประชุม APEC Economic Leaders’ Retreat และกิจกรรมคู่ขนานอืื่น ๆ รวมถึงการหารือทวิภาคีกับเขตเศรษฐกิจ APEC เช่น ประธานาธิบดีเปรู ประธานาธิบดีชิลี และการพบกับบริษัทภาคเอกชนชั้นนำ เช่น TikTok / Microsoft / Google
  • เปรูจะเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปคภายใต้หัวข้อ “Empower. Include. Grow.” (เสริมสร้างพลัง มีส่วนร่วม และเติบโตอย่างยั่งยืน) ซึ่งสอดคล้องกับแนวนโยบายหลักของรัฐบาล โดยเฉพาะการมุ่งขยายโอกาสทางเศรษฐกิจให้ประชาชน ซึ่งไทยจะใช้โอกาสนี้ผลักดันเขตการค้าเสรีเอเชียแปซิฟิก (FTAAP) ที่เน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน มีนวัตกรรม และครอบคลุมมากยิ่งขึ้น รวมถึงมุ่งส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจในระบบผ่านการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม นอกจากนี้ ในการหารือทวิภาคีกับเขตเศรษฐกิจต่าง ๆ โดยเฉพาะกลุ่มลาตินอเมริกา ไทยจะมุ่งเน้นการขยายโอกาสการค้าการลงทุนไปยังตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ อีกทั้งจะผลักดันการส่งเสริมความสัมพันธ์ระดับประชาชน โดยผ่านอุตสาหกรรมบันเทิงและซอฟต์พาวเวอร์ของไทยด้วย

  1. ความคืบหน้ากรณีคนไทยเสียชีวิต 4 ราย ที่อิสราเอล เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2567
  • สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ และทางการอิสราเอล ได้ดำเนินการในส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และส่งร่างของทั้ง 4 รายกลับประเทศไทย โดยสายการบิน El Al เที่ยวบินที่ LY081 ออกจากกรุงเทลอาวีฟ เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 เวลา 55 น. และถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิวันนี้ (8 พฤศจิกายน) เวลา 14.05 น. ซึ่งร่างของทั้ง 4 รายจะได้รับการนำส่งไปบำเพ็ญกุศลที่ภูมิลำเนาของแต่ละคน กระทรวงการต่างประเทศขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ท่านอีกครั้ง

 

รับชมแถลงข่าวย้อนหลัง: https://www.facebook.com/share/v/19TKCGU2Et/?

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ