เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2567 น.ส.ประเพ็ญพิมพ์ ประจนปัจจนึก กงสุลใหญ่ ณ นครมิวนิก เป็นประธานงานเลี้ยงรับรองเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ ณ โรงแรม Vier Jahreszeiten Kempinski มิวนิก โดยมีนายโทเบียส ก็อตธาร์ต รัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงเศรษฐกิจ การพัฒนาภูมิภาค และพลังงานแห่งรัฐไบเอิร์น (Mr. Tobias Gotthardt, State Secretary for Economic Affairs, Regional Development and Energy of the Free State of Bavaria) เป็นผู้แทนรัฐบาลรัฐไบเอิร์นเข้าร่วมในฐานะแขกเกียรติยศและมีคณะกงสุลต่างประเทศ ผู้แทนภาคราชการ ภาคเอกชน ภาควิชาการ Friends of Thailand และชุมชนไทยในรัฐไบเอิร์นและรัฐบาเดิน-เวือร์ทเทิมแบร์ค เข้าร่วมกว่า 250 คน

ภายในงาน กงสุลใหญ่ฯ ได้กล่าวสุนทรพจน์ถึงความสำคัญของวันที่ 5 ธันวาคม โดยปี 2567 เป็นปีพิเศษเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา และแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รวมถึงพระราชปนิธานของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในการสืบสาน รักษาและต่อยอดสิ่งที่พระราชบิดาได้ทรงริเริ่มไว้ รวมทั้งได้เชิญชวนแขกผู้มีเกียรติทุกคนในงานร่วมถวายพระพรและอวยพรแด่ประมุขของทั้งสองประเทศ

ในโอกาสนี้ ชุมชนไทยและวัดไทยในรัฐไบเอิร์นและรัฐบาเดิน-เวือร์ทเทิมแบร์คที่มีศักยภาพ ได้ร่วมนำเสนอแนวคิดหลักของงานเรื่องการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมเมืองน่าเที่ยว ผ่านการแสดงรำถวายพระพร โนรา รวมทั้ง การสาธิตไหว้ครูและแม่ไม้มวยไทย การสาธิตอาหารไทยภาคใต้ การแกะสลักผักผลไม้ และการแต่งกายชุดผ้าไทยซึ่งได้รับความสนใจและคำชื่นชมอย่างมากจากผู้เข้าร่วมงาน

สถานกงสุลใหญ่ ณ นครมิวนิกให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของชุมชนไทยและผู้แทนชุมชนที่มีศักยภาพด้านซอฟพาวเวอร์ไทยในเขตกงสุล ในฐานะตัวแทนในการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยด้านต่าง ๆ ทั้งนี้ ศิลปวัฒนธรรมไทย นอกจากจะเป็นต้นทุนที่สำคัญของคนไทยในต่างแดนที่จะใช้ประกอบสัมมาชีพ และหารายได้เพื่อเลี้ยงตนเองและครอบครัวแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงความรักและหวงแหนในรากเหง้าทางวัฒนธรรมของคนไทยและแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของชุมชนไทยด้วย