เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2567 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง ได้จัดงานเลี้ยงรับรองเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ ประจำปี 2567 ณ โรงแรม China World โดยนายซุน เว่ยตง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนเป็นแขกเกียรติยศ และมีนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเดินทางมาราชการที่กรุงปักกิ่ง เป็นประธานกล่าวเปิดงาน
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวในพิธีเปิดว่า วันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปีเป็นวาระสำคัญของชาติ 3 ประการ ได้แก่ วันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ รวมทั้งการที่ทรงอุทิศพระองค์ต่อการอนุรักษ์ดินและการพัฒนาที่ยั่งยืน องค์การสหประชาชาติจึงได้ประกาศให้วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปีเป็น “วันดินโลก” ซึ่งเป็นมรดกที่พระองค์พระราชทานไว้ ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ทรงมีคุณูปการต่อมิตรภาพระหว่างไทยและจีน อาทิ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งดำรงพระราชอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศจีนหลายครั้ง และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทุกมณฑลของจีน
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่า “จีน - ไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” โดยความสัมพันธ์ไทย - จีน สะท้อนได้จากหลายมิติ อาทิ จีนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย จีนลงทุนในไทยมากเป็นอันดับ 1 นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยมากที่สุด อีกทั้งความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราที่ทั้งสองประเทศได้ลงนามเมื่อต้นปี 2567 ได้ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนอย่างมาก นอกจากนี้ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำครั้งที่ 8 แผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) ที่นครคุนหมิง ซึ่งถือเป็นการเยือนจีนครั้งแรกในฐานะหัวหน้ารัฐบาล โดยในเดือนเดียวกัน ในห้วงการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (APEC) ที่กรุงลิมา นายกรัฐมนตรียังได้พบหารือประธานาธิบดีสี จิ้นผิง โดยผู้นำทั้งสองได้แสดงความมุ่งมั่นต่อการพัฒนาโลกาภิวัตน์ ความเชื่อมโยง และการบูรณาการทางเศรษฐกิจ
โดยในปี 2568 จะเป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองการครบรอบ 50 ปีของสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - จีน ภายใต้แนวคิด “ปีทองแห่งมิตรภาพไทย - จีน” ซึ่งมีตราสัญลักษณ์เป็นรูปพญานาคและมังกร เป็นตัวแทนของไทยและจีน โดยสัตว์ทั้งสองกำลังเอื้อมไปยังดวงแก้วสีเหลือง แสดงถึงความปรารถนาที่จะร่วมกันสร้าง “ประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนยิ่งขึ้น”
นอกจากนี้ ในวันที่ 4 ธันวาคม 2567 รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังเป็นผู้แทนมาอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากวัดหลิงกวง กรุงปักกิ่งไปประดิษฐานที่ไทย เป็นเวลา 73 วัน เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และการครบรอบ 50 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - จีน
กิจกรรมภายในงานวันชาติประกอบด้วย นิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมทั้งการบรรเลงบทเพลงพระราชนิพนธ์ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระอัจฉริยภาพและพระมหากรุณาธิคุณ รวมทั้งเผยแพร่พระราชกรณียกิจของทั้งสองพระองค์ให้เป็นที่ประจักษ์
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการสาธิตการทำขนมไทย การจัดซุ้มอาหารไทยโดยร้านอาหารไทยในกรุงปักกิ่ง และการเสิร์ฟเครื่องดื่มแบรนด์ไทย รวม 20 ร้านค้า รวมทั้งการแสดงรำไทยโดยนักศึกษาไทย เพื่อแสดงถึงอัตลักษณ์และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทยให้เป็นที่นิยมในประชาชนจีนและกลุ่มมิตรประเทศของไทย (Friends of Thailand) ในวงกว้าง