การเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) ในโอกาสเยือนไทยอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ ๒๖ - ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๔

การเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) ในโอกาสเยือนไทยอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ ๒๖ - ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๔

วันที่นำเข้าข้อมูล 2 ก.ย. 2564

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 5,679 view

เมื่อวันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๖๔ นายชอง อึย-ยง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) ได้เข้าเยี่ยมคารวะพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทำเนียบรัฐบาล เนื่องในโอกาสเยือนไทยอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ ๒๖ - ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๔

นายกรัฐมนตรียินดีกับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับเกาหลีใต้และความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างกัน และแจ้งความพร้อมของไทยที่ร่วมมือกับเกาหลีใต้ในการส่งเสริมความร่วมมือให้ก้าวหน้าในทุกมิติ รวมทั้งสนับสนุนนโยบายมุ่งใต้ใหม่ (New Southern Policy) และนโยบายมุ่งใต้ใหม่พลัส (New Southern Policy Plus) ของเกาหลีใต้ ในการนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะร่วมมือกันผลักดันความเป็นหุ้นส่วน ๓ สาขาหลัก ได้แก่ เศรษฐกิจสีเขียว อุตสาหกรรมแห่งอนาคต และสาธารณสุข เพื่อให้เกิดผลเป็น
รูปธรรมตามผลการหารือทางโทรศัพท์ระหว่างนายกรัฐมนตรีกับนายมุน แช-อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่า ในด้านเศรษฐกิจสีเขียว ไทยกับเกาหลีใต้สามารถร่วมมือกันผ่านการเชื่อมโยงนโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy - BCG) ของไทยกับนโยบาย Green New Deal ของเกาหลีใต้ เพื่อนำไปสู่การเจริญเติบโตที่สมดุลและการพัฒนาที่ยั่งยืน
ในด้านอุตสาหกรรมแห่งอนาคต โดยนายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนภาคเอกชนเกาหลีใต้เข้ามาลงทุนในเขตพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต เซมิคอนดักเตอร์ และไบโอเฮลท์ (Bio Health) ซึ่งฝ่ายเกาหลีใต้แสดงความสนใจ นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยินดีที่เกาหลีใต้เป็นนักลงทุนอันดับหนึ่งในไทยในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ซึ่งยังมีโอกาสและศักยภาพในการส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างกันอีกมาก และเห็นพ้องถึงศักยภาพในการขยายความร่วมมือ
ด้านสาธารณสุขระหว่างกัน โดยนายกรัฐมนตรีชื่นชมความสำเร็จของรัฐบาลเกาหลีใต้ในการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ และนโยบายของประธานาธิบดีมุนฯ ในการกำหนดเป้าหมายให้เกาหลีใต้เป็นศูนย์กลางการผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-๑๙ ของโลกภายในปี ๒๕๖๘ ซึ่งทั้งสองฝ่ายหวังที่จะมีความร่วมมือด้านวัคซีนป้องกันโควิด-๑๙ กันต่อไป


ทั้งสองฝ่ายยินดีที่ไทยและเกาหลีใต้มีความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและความสัมพันธ์ระดับประชาชนที่ใกล้ชิด ซึ่งนายกรัฐมนตรีหวังว่าไทยและเกาหลีใต้จะเดินทางท่องเที่ยวระหว่างกันมากขึ้นเมื่อสถานการณ์โควิด-๑๙ คลี่คลาย และขอบคุณรัฐบาลเกาหลีใต้ที่มีนโยบายฉีดวัคซีนให้กับคนไทยที่อาศัยอยู่ในเกาหลีใต้ซึ่งครอบคลุมกลุ่มแรงงานไทยด้วย รวมทั้งยืนยันความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยในการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-๑๙ ให้แก่ชาวต่างชาติรวมทั้งชาวเกาหลีใต้ที่อาศัยในประเทศไทยอย่างรวดเร็วและทั่วถึง
เช่นกัน

นอกจากนี้ ในประเด็นระดับภูมิภาค นายกรัฐมนตรีได้กล่าวชื่นชมบทบาทเชิงสร้างสรรค์ของเกาหลีใต้ในกรอบอาเซียน ความร่วมมือในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงและ ACMECS ด้วย

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ