นายกรัฐมนตรีเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ

นายกรัฐมนตรีเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ

วันที่นำเข้าข้อมูล 24 เม.ย. 2568

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 24 เม.ย. 2568

| 177 view

เมื่อวันที่ 23-24 เมษายน 2568 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนด นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา

การเยือนดังกล่าวเป็นการเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการครั้งแรกของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ซึ่งเกิดขึ้นในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - กัมพูชา

ระหว่างการเยือน นายกรัฐมนตรีได้เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และพบหารือกับสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนด นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา สมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ประธานวุฒิสภา และสมเด็จมหารัฐสภาธิการธิบดี ควน โซะดารี ประธานสภาแห่งชาติ

 

นายกรัฐมนตรีไทยและกัมพูชาเน้นย้ำความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมร่วมมือทวิภาคีในทุกมิติ บนพื้นฐานของความไว้เนื้อเชื่อใจ ความเคารพ และผลประโยชน์ร่วมกัน

 

ทั้งสองฝ่ายย้ำความมุ่งมั่นต่อความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ และยินดีที่จะมีการจัดทำแผนปฏิบัติการร่วมเพื่อให้การยกระดับความสัมพันธ์ดังกล่าวก่อประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมให้แก่ประชาชน

 

ทั้งสองฝ่ายยินดีต่อการเปิดสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเสียมราฐ และสถานกงสุลใหญ่กัมพูชา ณ จังหวัดสงขลา ที่จะเปิดทำการในอีกไม่นานนี้ ซึ่งสะท้อนความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างทั้งสองประเทศ


ในด้านความมั่นคง นายกรัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายเห็นชอบที่จะส่งเสริมความร่วมมือทางทหารในทุกระดับเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและเสถียรภาพตามแนวชายแดน

 

นายกรัฐมนตรีไทยและกัมพูชายินดีต่อความร่วมมือระหว่างหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของทั้งสองฝ่ายในการต่อสู้กับอาชญากรรมออนไลน์ และตั้งมั่นที่จะร่วมมืออย่างใกล้ชิดมากขึ้นในการแบ่งปันหลักฐานและการป้องกันไม่ให้เครือข่ายหลอกลวงออนไลน์นำสัญญาณโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ตไปใช้ในการก่ออาชญากรรม

นายกรัฐมนตรีทั้งสองยินดีต่อการลงนามบันทึกความเข้าใจ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในการต่อต้านมลภาวะสิ่งแวดล้อม รวมทั้งมลพิษหมอกควัน โดยการพัฒนาระบบการติดตามและเฝ้าระวังร่วมกัน และข้อเสนอต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่าย

 

ในด้านเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรีทั้งสองยินดีต่อมูลค่าการค้าทวิภาคีที่สูงกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรกในปี 2567 และแสดงความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกันเพื่อบรรลุเป้าหมายการค้า 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2570

 

ฝ่ายไทยยินดีที่ปัจจุบันนักลงทุนไทยเป็นกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 9 ในกัมพูชา และขอให้รัฐบาลกัมพูชาสนับสนุนกลุ่มนักลงทุนไทยต่อไป

 

ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะประสานงานกันภายในกรอบอาเซียนอย่างใกล้ชิด เพื่อส่งเสริมการรวมตัวทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค และส่งเสริมความเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้นในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนของสถานการณ์เศรษฐกิจโลก

 

ทั้งสองฝ่ายมุ่งมั่นที่จะเร่งรัดการเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา เพื่อส่งเสริมการพัฒนาพื้นชายแดน และยังเห็นชอบที่จะเชื่อมโยงเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษบริเวณชายแดนของทั้งสองประเทศ

 

ทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันเพื่อเจรจาความตกลงว่าด้วยการขนส่งทางถนนระหว่างกันให้ได้ข้อสรุป เพื่อให้รถยนต์ส่วนบุคคลสามารถข้ามแดนได้ รวมทั้งพัฒนาบริการขนส่งสินค้าข้ามแดนทางราง เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่ง

 

ในด้านการท่องเที่ยว ทั้งสองฝ่ายได้หารือแนวทางในการส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวข้ามแดน ผ่านการขับเคลื่อนข้อริเริ่ม “หกประเทศ หนึ่งจุดหมายปลายทาง” ให้มีความคืบหน้า รวมทั้งจะปรับปรุงความตกลงว่าด้วยการข้ามแดนเพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทางข้ามแดนเพื่อการท่องเที่ยวยิ่งขึ้น

 

ทั้งสองฝ่ายจะทำงานร่วมกันเพื่อส่งเสริมให้มีการจ้างแรงงานชาวกัมพูชาในประเทศไทยผ่านช่องทางที่ถูกกฎหมายเท่านั้น เพื่อให้แรงงานเหล่านี้สามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์และสวัสดิการที่เหมาะสม

 

ในด้านการเสริมสร้างมิตรภาพระหว่างประชาชน ทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันจัดกิจกรรมฉลอง 75 ปีความสัมพันธ์ตลอดทั้งปี เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระดับประชาชน

 

ฝ่ายไทยตั้งมั่นที่จะเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาที่แข็งแกร่งของกัมพูชาอย่างต่อเนื่องต่อไป โดยเฉพาะในด้านการศึกษา การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งนี้ ไทยจะสนับสนุนการก่อสร้างอาคารแห่งใหม่ที่ศูนย์สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานกัมพูชา - ไทย ใกล้กรุงพนมเปญ

 

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศได้ร่วมกันเปิดตัวตราสัญลักษณ์ฉลองโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต และร่วมกันเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามและแลกเปลี่ยนเอกสารสำคัญจำนวน 7 ฉบับ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในมิติที่หลากหลาย ได้แก่

  1. ความตกลงว่าด้วยการบริหาร การบำรุงรักษา และการใช้ สะพานมิตรภาพ ไทย - กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน - สตึงบท)

  2. บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมข้ามแดน

  3. หนังสือแลกเปลี่ยนเพื่อปรับเปลี่ยนสาระสำคัญของความตกลงว่าด้วยการจัดตั้งศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานกัมพูชา - ไทย

  4. บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงาน

  5. บันทึกข้อตกลงด้านการจ้างแรงงาน

  6. บันทึกการหารือสำหรับการให้ความช่วยเหลือทางวิชาการแก่ราชอาณาจักรกัมพูชา สำหรับงานออกแบบรายละเอียดโครงการปรับปรุงถนนหมายเลข 57 (บ้านผักกาด - บ้านปรม จังหวัดไพลิน - ถนนหมายเลข 5 จังหวัดพระตะบอง) ราชอาณาจักรกัมพูชา

  7. ความตกลงว่าด้วยการก่อสร้างสะพานข้ามพรมแดนแห่งใหม่ ณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี


ไทยพร้อมจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมอย่างไม่เป็นทางการครั้งที่ 4 บริเวณพื้่นที่ชายแดน ในโอกาสที่จะมีการเปิดสะพานมิตรภาพไทย - กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน - สตึงบท) อย่างเป็นทางการเพื่อติดตามข้อริเริ่มที่ได้หารือกัน โดยเฉพาะในประเด็นความมั่นคงและการพัฒนาพื้นที่ชายแดน

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ

ข่าวใกล้เคียง

ข่าวใกล้เคียง