รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีกรอบความร่วมมือเอเชีย ครั้งที่ ๑๖ ณ กรุงโดฮา รัฐกาตาร์

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีกรอบความร่วมมือเอเชีย ครั้งที่ ๑๖ ณ กรุงโดฮา รัฐกาตาร์

วันที่นำเข้าข้อมูล 2 พ.ค. 2562

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565

| 1,695 view

เมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีกรอบความร่วมมือเอเชีย (ACD Ministerial Meeting) ครั้งที่ ๑๖ ณ กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ ภายใต้หัวข้อ “หุ้นส่วนที่กำลังก้าวหน้า” (Partners in Progress)

การประชุมในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมจาก ๓๓ ประเทศสมาชิก ประกอบด้วยผู้แทนระดับรัฐมนตรีจาก ๙ ประเทศ (เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ๗ ประเทศ) ระดับรัฐมนตรีช่วยและระดับสูงอื่น ๆ จาก ๑๒ ประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหารือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในการกำหนดแนวทางความร่วมมือของภูมิภาคเอเชียให้เป็นประโยชน์และเป็นรูปธรรมเพื่อนำไปสู่การสร้างประชาคมเอเชียในปี ค.ศ. ๒๐๓๐ โดยใช้จุดแข็งและศักยภาพที่หลากหลายของเอเชียและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน

ในระหว่างการประชุม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้กล่าวถ้อยแถลงแสดงวิสัยทัศน์ โดยยืนยันความสำคัญที่ไทยให้ต่อความร่วมมือในกรอบ ACD ซึ่งเป็นกรอบความร่วมมือใหญ่ที่สุดในเอเชีย และเน้นหลักสำคัญของการเป็นหุ้นส่วนที่แท้จริง คือทุกประเทศต้องมีความรู้สึกเป็นเจ้าของ (sense of ownership) เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยผลักดันนโยบายของ ACD รวมทั้งขอให้ทุกประเทศ โดยเฉพาะประเทศผู้ขับเคลื่อนหลักและประเทศผู้ร่วมขับเคลื่อน ร่วมกันขับเคลื่อน ๖ เสาความร่วมมือมากขึ้นผ่านการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้ ACD เป็นที่รู้จักมากขึ้นในเวทีโลก ทั้งนี้ ไทยได้ประกาศจะจัด ๔ กิจกรรม ในช่วงปี ๒๕๖๒ - ๒๕๖๓

นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวถึงบทบาทของไทยในการส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะใน ๕ องค์ประกอบหลักของการพัฒนาที่ยั่งยืน (5Ps of Sustainable Development) ได้แก่ People, Partnership, Peace, Prosperity, Planet ในฐานะประธานอาเซียน และประธาน APEC และ BIMSTEC ปี ค.ศ. ๒๐๒๒ พร้อมเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกส่งเสริมหุ้นส่วนเพื่อความยั่งยืน และทำให้ ACD เป็นที่กล่าวขานมากขึ้น ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า ไทยจะจัดกิจกรรมคู่ขนานกับการประชุม High-Level Political Forum ของสหประชาชาติที่กรุงเทพฯ เพื่อแลกเปลี่ยนหลักปฏิบัติท้องถิ่นของไทย (home-grown approaches) กับประเทศในภูมิภาคเอเซียในเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืนด้วย

ที่ประชุมครั้งนี้ได้รับรองเอกสารผลลัพธ์ ๑ ฉบับ คือปฏิญญาโดฮา (Doha Declaration) ผู้แทนประเทศสมาชิกต่างชื่นชมบทบาทไทยใน ACD ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งและมีบทบาทแข็งขันมาตลอด โดยเฉพาะบทบาทใน การสร้างความเข้มแข็งให้กับสำนักเลขาธิการ ACD เพื่อให้สามารถส่งเสริมงานของ ACD อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น

ทั้งนี้ ภายหลังการประชุม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เข้าพบหารือทวิภาคีกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกาตาร์ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้แสดงความยินดีที่ความสัมพันธ์ไทย – กาตาร์ มีความก้าวหน้าในทุกมิติ โดยเฉพาะในด้านการท่องเที่ยว ซึ่งไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของชาวกาตาร์จำนวนมาก และในด้านการค้าการลงทุน ซึ่งล่าสุดได้มีการลงนามระหว่างบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) กับกาตาร์ เพื่อซื้อขายผลิตภัณฑ์น้ำมัน โดยในโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เชิญชวนกาตาร์มาลงทุนในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ของไทยด้วย ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกาตาร์ได้กล่าวเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเยือนกาตาร์อย่างเป็นทางการ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในด้านต่าง ๆ อาทิ การท่องเที่ยว การคมนาคม โครงสร้างพื้นฐาน พลังงาน และโทรคมนาคม ซึ่งทั้งสองฝ่ายสามารถขยายความร่วมมือระหว่างกันได้

อนึ่ง กรอบความร่วมมือเอเชีย จัดตั้งขึ้นเมื่อปี ๒๕๔๕ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีหารือระดับนโยบายและความร่วมมือระหว่างประเทศในเอเชียเพื่อส่งเสริมความเข้าใจ ความไว้เนื้อเชื่อใจ และความร่วมมือร่วมกัน โดยใช้ประโยชน์จากจุดแข็งและศักยภาพที่หลากหลายของประเทศสมาชิก ปัจจุบันมีสมาชิก ๓๔ ประเทศ จากทุกอนุภูมิภาคในเอเชีย มีความร่วมมือ ๖ เสาหลัก ได้แก่ (๑) ความเชื่อมโยง (๒) วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (๓) การศึกษาและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (๔) ความเชื่อมโยงระหว่างความมั่นคงทางอาหาร พลังงาน และน้ำ  (๕) วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว และ (๖) การส่งเสริมแนวทางไปสู่การพัฒนาอย่างทั่วถึงและยั่งยืน

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ