รัฐบาลไทยมีความมุ่งมั่นที่จะป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสิทธิและสวัสดิภาพของแรงงานบนเรืออย่างจริงจัง โดยร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งองค์กรต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๖๐ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน ได้ขึ้นตรวจสภาพการจ้างและสภาพการทำงานบนเรือ Asian Warrior ซึ่งเป็นเรือขนส่งสะเบียงชักธงต่างชาติ ซึ่งได้เข้าจอดทอดสมอบริเวณเมืองท่า จังหวัดสงขลา และพบว่าเจ้าของเรือค้างจ่ายค่าจ้างคนประจำเรือ สัญชาติฟิลิปปินส์ จำนวน ๘ คน และคนประจำเรือสัญชาติอินโดนีเซีย จำนวน ๒ คน รวมทั้งหมด ๑๐ คน ซึ่งเป็นการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องตามพระราชบัญญัติแรงงานทางทะเล พ.ศ. ๒๕๕๘ มาตรา ๔๙ เรื่องการค้างจ่ายค่าจ้าง และไม่สอดคล้องกับอนุสัญญาแรงงานทางทะเล พ.ศ. ๒๕๔๙

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จึงได้ออกคำสั่งให้นายเรือจ่ายค่าจ้างค้างจ่ายให้แก่คนประจำเรือในอัตราค่าจ้างและระยะเวลาการค้างจ่ายค่าจ้างที่แตกต่างกัน ตั้งแต่วันที่ ๓ มิถุนายน – ๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๐ และได้สนับสนุนอาหารและยา พร้อมทั้งได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่จากองค์กร Stella Maris ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไร ในการร่วมตรวจสภาพความเป็นอยู่ของคนประจำเรือ และประสานไปยังสหพันธ์แรงงานขนส่งระหว่างประเทศ เพื่อให้ความช่วยเหลือคนประจำเรือดังกล่าวให้ได้รับการปกป้องสิทธิและได้รับการจ่ายค่าจ้างคืนอีกทางหนึ่ง

ต่อมาเมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๖๐ กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม ได้ส่งเจ้าหน้าที่ขึ้นไปตรวจควบคุมเรือในเมืองท่า โดยจะยังไม่อนุญาตให้เรือ Asian Warrior ออกเดินทางจนกว่าบริษัทเจ้าของเรือจะดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาลูกเรือที่ได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ได้ประสานไปยังรัฐเจ้าของธงรวมทั้งประเทศที่เกี่ยวข้องให้ทราบเรื่องดังกล่าว เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่คนประจำเรือสัญชาติประเทศตนและดำเนินการให้เจ้าของเรือจ่ายค่าจ้างค้างจ่ายให้กับคนประจำเรือต่อไป

อนึ่ง รัฐบาลไทยได้เข้าเป็นภาคีอนุสัญญาแรงงานทางทะเล พ.ศ. ๒๕๔๙ เมื่อวันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๕๙ และได้ออกพระราชบัญญัติแรงงานทางทะเล พ.ศ. ๒๕๕๘ เพื่อรองรับการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาดังกล่าว การให้ความช่วยเหลือคนประจำเรือ Asian Warrior เป็นการปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาฯ เพื่อให้สภาพการทำงานและความเป็นอยู่ของคนทำงานบนเรือสอดคล้องกับมาตรฐานแรงงานระหว่างประเทศ โดยรัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งองค์กรต่าง ๆ ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสิทธิและสวัสดิภาพของแรงงานบนเรืออย่างจริงจังและต่อเนื่องต่อไป