วันที่นำเข้าข้อมูล 2 มี.ค. 2560
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565
เมื่อวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้กล่าวถ้อยแถลงในช่วงการประชุมระดับสูงของการประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ ๓๔ ณ สำนักงานสหประชาชาติ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ร่วมกับผู้นำและรัฐมนตรีของประเทศต่าง ๆ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้กล่าวถึงแนวโน้มและสิ่งท้าทายของโลกในการรักษาและเคารพสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะการจัดการกับวิกฤตการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ ในโอกาสนี้ ได้นำเสนอแนวคิดในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนผ่านการหารืออย่างสร้างสรรค์เพื่อแสวงหาความร่วมมือการเสริมสร้างทัศนคติที่ดีในการเคารพสิทธิมนุษยชนโดยเฉพาะในเยาวชน การใช้ประโยชน์จากสื่อสังคมออนไลน์เพื่อให้สร้างความกลมเกลียวแทนความแตกแยกและเพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ด้านสิทธิมนุษยชน การสนับสนุนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคธุรกิจและภาคประชาสังคม เพื่อร่วมกันส่งเสริมการเคารพสิทธิมนุษยชน ส่งเสริมให้เกิดการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย การแบ่งปันประสบการณ์ และเสริมสร้างขีดความสามารถในการปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน
ในโอกาสเดียวกัน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งที่ประชุมถึงพัฒนาการต่าง ๆ ของไทย ซึ่งรวมถึงการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ผลักดันการพัฒนาโดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง การลดความเหลื่อมล้ำในสังคม และการส่งเสริมการเข้าถึงโอกาสทางสังคมและกระบวนการยุติธรรม โดยหลังจากไทยได้ผ่านกระบวนการทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชน (ยูพีอาร์) รอบที่ ๒ คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบแผนปฏิบัติการเพื่อผลักดันการปฏิบัติตามข้อเสนอแนะที่ไทยได้ตอบรับพร้อมคำมั่นโดยสมัครใจต่อไป
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้กล่าวถึงพัฒนาการอย่างต่อเนื่องในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิของไทย อาทิ (๑) การถอนข้อสงวนข้อ ๔ ของอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติในทุกรูปแบบ (๒) การดำเนินโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้าและโครงการการศึกษาภาคบังคับฟรีถ้วนหน้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้พยายามขยายโอกาสให้ครอบคลุมไปถึงผู้โยกย้ายถิ่นฐานด้วย (๓) มติคณะรัฐมนตรี เกี่ยวกับแนวทางและมาตรการแก้ไขปัญหาสถานะบุคคลและคนไร้สัญชาติในประเทศไทยเมื่อเดือนธันวาคม ๒๕๕๙ ซึ่งทำให้เด็กไร้สัญชาติกว่า ๘๐,๐๐๐ คน สามารถยื่นขอสัญชาติไทยได้ตามกฎหมาย และ (๔) คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหลักการแก้ไขพระราชบัญญัติว่าด้วยคนเข้าเมืองและการจัดตั้งระบบคัดกรองเพื่อให้สามารถแยกกลุ่มและให้การดูแลผู้ที่จำเป็นต้องได้รับความคุ้มครองอย่างแท้จริงได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งได้รับการรับรองโดยการลงประชามติของประชาชน ยังเน้นย้ำหลักการของสิทธิมนุษยชนด้านต่าง ๆ ที่รวมถึงความเท่าเทียมและการได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย การไม่เลือกปฏิบัติ การห้ามการทรมาน และเสรีภาพในการนับถือศาสนา
รูปภาพประกอบ
วันทำการ : จันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.30 - 16.30 น.
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
งานรับ-ส่งหนังสือ และงานสารบรรณ:
อีเมล [email protected]
เว็บไซต์นี้ได้รับการออกแบบเพื่ออำนวยความสะดวกให้ทุกคนเข้าถึงเว็บไซต์ได้และมีมาตรฐาน WCAG 2.0 ระดับ AA
** เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุดควรใช้ Chrome เวอร์ชั่น 76 ขึ้นไป **