เมื่อวันเสาร์ที่ ๒๑ – วันอาทิตย์ที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๙ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว เอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส พร้อมภริยา นางศริกานต์ พลมณี อัครราชทูต และนางเพ็ญแข อินทรสุวรรณ ที่ปรึกษา ได้เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมสามัญประจำปี ๒๕๕๙ และการอบรมทางวิชาการ ของสมาพันธ์ครูภาษาไทยและวัฒนธรรมไทยในยุโรป ซึ่งในปีนี้จัดที่เมืองมาร์แซยย์ (Marseille) โดยสมาคมไทย-โพรวองซ์ เป็นผู้จัด
โดยในช่วงเช้าวันเสาร์ที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๕๙ เวลา ๘.๓๐ น. ซึ่งเริ่มพิธีเปิดการประชุมฯ นั้น นางศริกานต์ พลมณี ได้กล่าว (แทนเอกอัครราชทูตฯ ซึ่งติดภารกิจ) ถึงความสำคัญของภาษาไทย และชื่นชมความเสียสละและความตั้งใจจริงของเหล่าครูอาสาสมัครที่ช่วยกันเผยแพร่ภาษาไทยและวัฒนธรรมไทยให้กับลูกหลานไทยที่เกิดและเติบโตในต่างแดน และชาวต่างชาติที่มีความสนใจภาษาไทย พร้อมให้กำลังใจและการสนับสนุนจากสถานเอกอัครราชทูตฯ ในภารกิจของครูอาสาชาวไทยในการอนุรักษ์ภาษาไทยให้ลูกหลานไทยในต่างแดนต่อไป
ต่อมา ในช่วงเย็นวันเดียวกัน นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว เอกอัครราชทูตฯ และภริยา ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำในฐานะแขกเกียรติยศ จัดโดยนางน้ำทิพย์ เสน่หา ฟิโชท์ ประธานสมาพันธ์ครูภาษาไทยฯ และประธานร่วมสมาคมไทย-โพรวองซ์ โดยเอกอัครราชทูตฯ ได้กล่าวแก่ผู้เข้าร่วม สรุปได้ดังนี้
๑. ภาษาไทยเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย และเป็นเครื่องแสดงอารยธรรมว่าประเทศไทยเป็น
ชนชาติที่มีอารยธรรมเป็นของตนเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวต่างชาติชื่นชม และคนไทยควรมีความภาคภูมิใจ นอกจากภาษาไทยแล้ว เอกลักษณ์ที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ อาหารไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวต่างชาติทั่วไปรู้จักและชื่นชอบ
๒. ชื่นชมความตั้งมั่นของเหล่าครูภาษาไทยที่ช่วยกันทำกิจกรรมสอนภาษาไทยให้กับเด็กไทยใน
ต่างแดน และชาวต่างชาติ ซึ่งจากประสบการณ์ของเอกอัครราชทูตฯ ที่เดินทางไปเมืองต่างๆ ของฝรั่งเศส ทำให้เห็นว่าชาวต่างชาติที่ทำงานบนสายการบินก็ดี หรือคนที่ท่านทูตฯ พบปะก็ดี สามารถพูดภาษาไทยได้อย่างน้อยคำศัพท์ง่ายๆ เช่น สวัสดี ขอบคุณ ซึ่งเป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นถึงความนิยมชมชอบในประเทศไทยและคนไทย
๓. สถานเอกอัครราชทูตฯ ยินดีสนับสนุนกิจกรรมที่เป็นการเผยแพร่ภาษาไทยและวัฒนธรรมไทย และ
ในโอกาสที่นางน้ำทิพย์ดำรงตำแหน่งทั้งประธานสมาพันธ์ครูภาษาไทยฯ และประธานร่วมของสมาคมไทย-โพรวองซ์ ในโอกาสเดียวกันนี้ ได้มอบงบประมาณสนับสนุนเพื่อเป็นส่วนช่วยการดำเนินกิจกรรมของสมาคมฯ
ในวันอาทิตย์ที่ ๒๒ พ.ค. ๒๕๕๙ สมาพันธ์ฯ ได้จัดทัศนศึกษา ณ เมือง Cassis โดย นาง Danielle Milon
นายกเทศมนตรีเมือง Cassis กล่าวต้อนรับเอกอัครราชทูตฯ ภริยา และสมาชิกสมาพันธ์ครูภาษาไทยฯ โดยได้กล่าวถึงความสำคัญของเมือง Cassis ในฐานะเมืองท่าเรือที่เก่าแก่ตั้งแต่ศตวรรษที่ ๑๓ เป็นหนึ่งใน ๙๒ เมืองในระดับเทศบาล (commune) ของจังหวัดมาร์แซยย์ ขนาดพื้นที่ ๒๖๐๐ เฮกตาร์ มีพื้นที่อุทยานแห่งชาติโอบล้อมจังหวัดมาร์แซยย์ โดยธุรกิจที่สำคัญของเมืองคือการท่องเที่ยวและการผลิตไวน์
ในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตฯ ได้กล่าวขอบคุณนายกเทศมนตรีเมือง Cassis ที่ได้ให้การต้อนรับที่อบอุ่น
กับรู้สึกยินดีที่ได้มาเยือนเมือง Cassis ที่มีชื่อเสียง รวมทั้งได้กล่าวถึงลู่ทางการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเมือง Cassis กับบางจังหวัดของประเทศไทยในลักษณะ Sister Cities ในอนาคต