เมื่อวันที่ ๒๒ – ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ นายอภิชาติ ชินวรรโณ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้เข้าร่วมคณะของพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี (ฝ่ายเศรษฐกิจ) ในการเดินทางเยือนสหพันธรัฐรัสเซียอย่างเป็นทางการ ในฐานะผู้แทนพิเศษของนายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นการผลักดันความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศให้มีผลเป็นรูปธรรม และเป็นการเตรียมการสำหรับการเยือนสหพันธรัฐรัสเซียอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมการประชุมอาเซียน – รัสเซีย สมัยพิเศษ (ASEAN – Russia Commemorative Summit) ระหว่างวันที่ ๑๙ – ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ณ เมืองโซชิ สหพันธรัฐรัสเซีย

         ในการเยือนครั้งนี้ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้เข้าพบหารือกับ นายดมิทรี โรโกซิน รองนายกรัฐมนตรี ดูแลด้านความมั่นคงและอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ นายเซอร์เกย์ โชยกู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายนิโคไล ปาตรูเชฟ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะกระชับความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การแลกเปลี่ยนข่าวสาร ความร่วมมือด้านการต่อต้านการก่อการร้าย และอาชญากรรมข้ามชาติ

         ในด้านเศรษฐกิจ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้พบหารือกับนายอีกอร์ ชูวาลอฟ รองนายกรัฐมนตรีคนที่ ๑ และนายอาร์คาดี ดวอร์โควิช รองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลด้านเกษตรกรรม การขนส่ง พลังงาน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือทางด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว พลังงาน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นอกจากนี้ ฝ่ายไทยยังมีความสนใจที่จะมีความร่วมมือในสาขาที่รัสเซียมีความถนัด เช่น อุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูง เทคโนโลยีสารสนเทศ เศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล การบินและอวกาศ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ เทคโนโลยีด้านการเกษตร และการผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ

         รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจยังได้พบหารือกับผู้แทนจากบริษัทขนาดใหญ่ของรัสเซีย ๔ บริษัท คือ บริษัท Group IB บริษัท Sistema บริษัท FESCO Integrated Transport และ บริษัท OJSC Magnit Hypermarket Group ซึ่งสนใจจะทำธุรกิจกับไทย นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนยังได้จัดกิจกรรมสัมมนาโต๊ะกลมทางเศรษฐกิจไทย-รัสเซีย ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกว่า ๕๐ ราย โดยฝ่ายรัสเซียมีทั้งผู้แทนภาครัฐและบริษัทจากหลายสาขาที่สนใจการลงทุนในไทย เช่น  พลังงาน อากาศยาน อิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง  ซอฟต์แวร์ เป็นต้น การประชุมครั้งนี้เป็นเวทีเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ภาคธุรกิจรัสเซียได้ทราบถึงโอกาสและลู่ทางการลงทุนในไทยและส่งเสริมความร่วมมือระหว่างนักธุรกิจไทยและรัสเซีย รวมทั้งเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนด้วย

         นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังได้จัดกิจกรรมการจับคู่ทางธุรกิจ (business matching) ซึ่งผู้ประกอบการจากฝั่งไทยเข้าร่วม ๖๗ บริษัท และจากฝั่งรัสเซีย ๙๔ บริษัทในสาขาอาหาร แฟชั่น อัญมณี สปา ของตกแต่งบ้าน เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ เครื่องสำอาง วัสดุก่อสร้าง และชิ้นส่วนยานยนต์  คาดว่าจะมีมูลค่าการซื้อขายจากการเจรจาครั้งนี้ประมาณ ๘๐-๑๐๐ ล้านบาท

         การเยือนครั้งนี้เป็นยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างไทย-รัสเซีย โดยช่วยส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างไทย-รัสเซียในทุกมิติ ซึ่งรวมถึงการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว พลังงาน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตลอดจนความร่วมมือในการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ การก่อการร้ายและความร่วมมือด้านความมั่นคง