เมื่อวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ และนายอาร์มันโด ราอุล ปาตินโญ อัลบิสตูร (H.E. Mr. Armando Raúl Patiño Alvístur) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเปรู เป็นประธานร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมเพื่อความร่วมมือทวิภาคีไทย - เปรู ครั้งที่ ๔ ที่กระทรวงการต่างประเทศ

          ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องถึงความสัมพันธ์อันใกล้ชิดที่มีพลวัตอย่างต่อเนื่อง โดยไทยและเปรูได้เฉลิมฉลองโอกาสการครบรอบ ๕๐ ปี ของความสัมพันธ์เมื่อเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๘ และทั้งสองฝ่ายมุ่งหวังที่จะพัฒนาให้ความสัมพันธ์เป็นแบบหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์และมีผลเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น

          ทั้งสองฝ่ายต่างเห็นพ้องว่า ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของไทยและเปรูเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคของตนและได้แสดงความพร้อมที่จะเป็นประตู (gateway) เข้าสู่ภูมิภาคของกันและกัน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ซึ่งไทยและเปรูควรส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกันให้มากขึ้น และจะพยายามผลักดันให้มีการลงนาม

          ความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-เปรู ในช่วงการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคที่เปรู ในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๙ โดยฝ่ายเปรูยินดีที่นายกรัฐมนตรีจะไปเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว และเห็นพ้องในหลักการว่าควรจัดให้ผู้นำทั้งสองฝ่ายได้หารือทวิภาคีในโอกาสดังกล่าวด้วย

          ทั้งสองฝ่ายยินดีที่จะมีความร่วมมือทางวิชาการอย่างเป็นรูปธรรม โดยเมื่อวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ ได้มีการประชุมความร่วมมือทางวิชาการไทย – เปรู ครั้งที่ ๓ เพื่อหารือเกี่ยวกับแผนการดำเนินกิจกรรมในปี ๒๕๖๐ - ๒๕๖๑ ภายใต้ ๔ สาขาที่มีความสนใจร่วมกัน ได้แก่ เหมืองแร่ ประมง การท่องเที่ยว และ SMEs

          ที่ประชุมยังได้หารือเกี่ยวกับความสำคัญของการส่งเสริมความสัมพันธ์ระดับประชาชน โดยอาศัยกลไกความร่วมมือด้านวัฒนธรรม การศึกษา และกีฬา โดยเฉพาะมวยไทย รวมถึงได้หารือเกี่ยวกับสาขาความร่วมมืออื่นๆ เช่น ความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม การท่องเที่ยว และด้านกงสุล นอกจากนี้ ที่ประชุมได้หารือถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการเจรจาจัดทำความตกลงต่างๆ โดยทั้งสองฝ่ายหวังว่าที่จะให้การเจรจาแล้วเสร็จโดยเร็วเพื่อต่อยอดความสัมพันธ์ระหว่างกันต่อไป

          ทั้งสองฝ่ายยินดีที่จะร่วมมือกันในเวทีพหุภาคีต่างๆ โดยเฉพาะในปี ๒๕๕๙ ที่ไทยเป็นประธานกลุ่ม ๗๗ และเปรูเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปค โดยต่างยกประเด็นการพัฒนาอย่างยั่งยืนเป็นหัวข้อหลักในทั้งสองเวทีซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวคิดที่ตรงกัน นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยกับกลุ่มพันธมิตรแปซิฟิก และระหว่างอาเซียนกับกลุ่มพันธมิตรแปซิฟิก โดยผลักดันให้มีการประชุมระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศสมาชิกอาเซียนกับกลุ่มพันธมิตรแปซิฟิกในระหว่างการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์กในเดือนกันยายน ๒๕๕๙ นอกจากนี้ ฝ่ายเปรูยังชื่นชมในบทบาทที่แข็งขันของไทยในเวทีความร่วมมือระหว่างเอเชียตะวันออกกับลาตินอเมริกา (FEALAC) และยินดีที่จะร่วมมือกันในกรอบดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง

          ทั้งนี้ ก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมฯ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเปรูได้แลกเปลี่ยนสัตยาบันสารเพื่ออนุวัติให้สนธิสัญญาโอนตัวผู้กระทำผิดและความร่วมมือในการบังคับให้เป็นไปตามคำพิพากษาคดีอาญาระหว่างไทยกับเปรู ซึ่งทำให้สนธิสัญญาฯ มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ เป็นต้นไป