เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2558 กระทรวงการต่างประเทศและสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทยจัดงาน Make in India and Business Opportunities in Thailand ณ โรงแรมดุสิตธานี โดยมีหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนของไทยและอินเดียเข้าร่วมงานประมาณ 250 คน ทั้งนี้ เอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี กงสุลใหญ่ ณ เมืองมุมไบ กงสุลใหญ่ ณ เมืองกัลกัตตา และรักษาการกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจนไน ได้เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวด้วย
        นายนภดล เทพพิทักษ์ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมงาน และกล่าวถึงภาพรวมความสัมพันธ์ไทย-อินเดีย ตลอดจนภูมิหลังการจัดงานฯ ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากการเยือนอินเดียอย่างเป็นทางการของพลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในขณะนั้น เมื่อเดือนมีนาคม 2558 ซึ่งได้เสนอให้ Department of Industrial Policy and Promotion (DIPP) จัดกิจกรรม Make in India Roadshow ในประเทศไทย เพื่อประชาสัมพันธ์นโยบายดังกล่าว ในขณะที่เอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทยได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอินเดียอย่างรอบด้าน และการที่ส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกัน อาทิ การจัดทำความตกลงเขตการค้าเสรีระหว่างไทย-อินเดีย ความร่วมมือด้านความเชื่อมโยง ศักยภาพด้านการค้าและการลงทุนของอินเดีย และนโยบายส่งเสริมการลงทุนของอินเดีย
         นอกจากนี้ นางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้กล่าวสุนทรพจน์ โดยเน้นประเด็นด้านความร่วมมือและความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุนในปัจจุบันและศักยภาพของการส่งเสริมความร่วมมือและความสัมพันธ์ระหว่างไทย-อินเดีย ในขณะที่นายอมิตาบฮ์ คานท์ เลขาธิการ DIPP ได้กล่าวปาฐกถาเกี่ยวกับนโยบาย Make in India ซึ่งเป็นนโยบายส่งเสริมการลงทุนของอินเดีย
         ผู้แทนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้ร่วมบรรยายสรุปเกี่ยวกับนโยบายการลงทุนในประเทศไทย การลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษของไทย รวมถึงการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษและท่าเรือน้ำลึกทวาย โดยมุ่งหวังเพื่อให้ข้อมูลแก่ผู้ร่วมงานและภาคเอกชนอินเดียที่เดินทางมาไทย และภาคเอกชนที่ได้ลงทุนในประเทศไทยแล้ว
        ภายหลังเสร็จสิ้นการบรรยายดังกล่าว อธิบดีกรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลางและแอฟริกา ได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวัน เพื่อเป็นเกียรติแก่นายคานท์ ในขณะที่ภาคเอกชนไทยและอินเดียได้ร่วมกิจกรรมจับคู่ทางเศรษฐกิจ (business matching) ในหลายสาขา อาทิ การเกษตรและอาหาร การก่อสร้าง การขนส่ง และเทคโนโลยีสารสนเทศ
        อนึ่ง นโยบาย Make in India เป็นหนึ่งในนโยบายทางเศรษฐกิจที่สำคัญของนายนเรนทร โมที นายกรัฐมนตรีอินเดียที่ริเริ่มเมื่อเดือนกันยายน 2557 มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาอินเดียให้เป็นศูนย์กลางการผลิตของโลก โดยการดึงดูดให้บริษัทอินเดียและบริษัทต่างชาติเข้ามาลงทุนและสร้างโรงงานผลิตในอินเดีย โดยปัจจุบันบริษัทต่างชาติต่าง ๆ เข้ามาลงทุนในอินเดียภายใต้นโยบายดังกล่าว อาทิ CISCO  LG  IKEA  Samsung และ Mercedes-Benz