เมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๘ ไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประสานงานระหว่างอาเซียนกับสหภาพยุโรป (ASEAN-EU Coordinating Meeting) ที่กรุงเทพฯ โดยมีนายนภดล เทพพิทักษ์ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และนาย Ugo Astuto รักษาการอธิบดีกรมเอเชีย-แปซิฟิก กระทรวงการต่างประเทศสหภาพยุโรป (อียู) เป็นประธานร่วมในที่ประชุม

ที่ประชุมยินดีกับความคืบหน้าของความร่วมมือระหว่างอาเซียนและอียูซึ่งเป็น “หุ้นส่วนที่เพิ่มพูน” มากขึ้นในด้านการเมือง-ความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคม-วัฒนธรรม และทิศทางความร่วมมือในอนาคต โดยเฉพาะแนวทางการพิจารณาจัดทำเอกสาร Roadmap ในการไปสู่ความเป็น “หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์” ซึ่งเป็นไปตามมติที่ประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียน-อียู ครั้งที่ ๒๐ เมื่อวันที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๕๗ และการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียน-อียู เมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๕๘ ที่กรุงบรัสเซลส์ นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกันที่จะดำเนินการตามแผนปฏิบัติการบันดาร์เสรีเบกาวันอย่างเข้มข้นมากขึ้น 

ในการหารือครั้งนี้ อาเซียนและอียูเน้นประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายมีความสนใจและประโยชน์ร่วมกัน เช่น ความร่วมมือทางทะเล การต่อต้านการก่อการร้ายข้ามชาติ การเชื่อมโยงโดยเฉพาะการบริหารจัดการชายแดน การรื้อฟื้นการเจรจาจัดทำเขตการค้าเสรีระหว่างอาเซียนและอียู การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อม การจัดการภัยพิบัติ รวมถึงความสนใจเป็นพิเศษต่อประเด็นการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ ซึ่งได้กลายเป็นปัญหาสำคัญทั้งของภูมิภาคและของโลก

อาเซียนและอียูเห็นพ้องว่า การเติบโตทางการค้าการลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างสองภูมิภาคนั้นมีพัฒนาการที่ดี อียูได้เน้นว่า อียูเป็นคู่ค้าอันดับสองและเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดของอาเซียน ทั้งสองฝ่ายได้ย้ำความสำคัญของของการส่งเสริมความเชื่อมโยงในอาเซียนโดยเฉพาะการดำเนินการตามแผนแม่บทว่าด้วยความเชื่อมโยงอาเซียน (Master Plan on ASEAN Connectivity – MPAC) อย่างเข้มข้นขึ้นผ่านการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และบทเรียนทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการบริหารจัดการชายแดน

ในระยะเวลา ๓ ปีข้างหน้า ไทยในฐานะประเทศผู้ประสานงานอาเซียนกับอียูสำหรับความสัมพันธ์อาเซียนจะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อทำให้ความสัมพันธ์อาเซียน-อียู มีความแข็งแกร่งมากขึ้น และได้รับผลประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย