การประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี ไทย - เมียนมาร์ ครั้งที่ 8 วันที่ 28 กรกฎาคม 2558 ณ เชียงใหม่ ประเทศไทย

การประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี ไทย - เมียนมาร์ ครั้งที่ 8 วันที่ 28 กรกฎาคม 2558 ณ เชียงใหม่ ประเทศไทย

วันที่นำเข้าข้อมูล 28 ก.ค. 2558

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 27 พ.ย. 2565

| 5,067 view

การประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี (JC)

ไทย – เมียนมาร์ ครั้งที่ ๘

๒๗ – ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๘ เชียงใหม่ ประเทศไทย

 

                        เมื่อวันที่ ๒๗ - ๒๘ ก.ค. ๒๕๕๘ ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี (JC) ไทย – เมียนมาร์ ครั้งที่ ๘ ที่ จ.เชียงใหม่ โดยมีพลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย และนายวันนะ หม่อง ลวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเมียนมาร์ เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนเมียนมาร์ และมีผู้แทนหน่วยงานต่าง ๆ ของไทยและเมียนมาร์เข้าร่วมประชุมด้วย 

                        ในช่วงเปิดประชุมฯ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้กล่าวแสดงความมุ่งมั่นที่จะกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยขยายผลความร่วมมือในทุกมิติ ซึ่งจะเกื้อกูลต่อการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียนใน ๒๕๕๘ ด้วย โดยเน้นความเชื่อมโยงและการไปมาหาสู่ระหว่างประชาชนถึงประชาชน เพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศอยู่ร่วมกันอย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรี ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเมียนมาร์ ได้กล่าวว่า  ประธานาธิปดีเมียนมาร์ถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถให้ทั้งสองพระองค์มีพระพลานามัยที่แข็งแรง ในการประชุม สองฝ่ายได้ทบทวนกิจกรรมความร่วมมือที่กำลังดำเนินการร่วมกัน และหาแนวทางในการเพิ่มพูนความร่วมมือทวิภาคีในทุกมิติ บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและผลประโยชน์ร่วมกัน สองฝ่ายยินดีต่อการเสด็จฯ เยือนเมียนมาร์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในเดือน ต.ค. ๒๕๕๘ ซึ่งฝ่ายเมียนมาร์แจ้งว่าพร้อมที่จะรับเสด็จฯ อย่างสมพระเกียรติ เพราะมีความสำคัญอย่างมากในการยกระดับความสัมพันธ์ไทย – เมียนมาร์

                        ในมิติด้านการเมืองและความมั่นคง ฝ่ายไทยยืนยันเจตนารมณ์ที่จะสนับสนุนการปฏิรูปและกระบวนการสันติภาพในเมียนมาร์ ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือเรื่องการยกระดับจุดผ่านแดน การเตรียมการส่งกลับผู้หนีภัยจากการสู้รบไปเมียนมาร์เมื่อมีความพร้อม ความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กลไกความร่วมมือด้านการทหาร และความร่วมมือในด้านการปราบปรามการค้ามนุษย์ด้วย

                        ในมิติทางเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับแนวทางในการส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างกันและตั้งเป้าหมายในการเพิ่มมูลค่าการค้ารวมเป็น ๑๐ – ๑๒ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี ๒๕๖๐ โดยมุ่งเน้นการค้าและการลงทุนบริเวณชายแดน สองฝ่ายหารือแนวทางในการส่งเสริมความเชื่อมโยงทางคมนาคม การจัดตั้งคณะทำงานด้านความเชื่อมโยงทางบก และการริเริ่มเจรจาจัดทำความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามแดนและบันทึกความเข้าใจเรื่องการเดินรถโดยสารระหว่างประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยว รวมทั้งเห็นพ้องเร่งรัดสรุปการเจรจาความตกลงข้ามแดน สำหรับความร่วมมือด้านการเงินและการธนาคาร ฝ่ายเมียนมาร์อนุญาตให้สามารถแลกเงินบาทเป็นเงินจั๊ตได้โดยตรง และเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา และฝ่ายเมียนมาร์ได้ให้ใบอนุญาตแก่ธนาคารกรุงเทพในการเปิดสาขาเพื่อดำเนินธุรกรรมของธนาคารในกรุงย่างกุ้งแล้ว

                        สองฝ่ายหารือเกี่ยวกับแนวทางในการเพิ่มพูนความร่วมมือในด้านแรงงาน และการส่งเสริมความร่วมมือในสาขาการพัฒนาและการจัดการด้านประมงอย่างยั่งยืน ฝ่ายเมียนมาร์ยินดีต่ออายุสิทธิทำประมงแก่ผู้ประกอบการประมงไทยที่ได้รับการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย นอกจากนี้ สองฝ่ายยังย้ำถึงความสำคัญการพัฒนาโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายด้วย ในการดังกล่าว เพื่อรองรับจำนวนคนที่จะเพิ่มมากขึ้นเมื่อเขตเศรษฐกิจทวายได้รับการจัดตั้ง ฝ่ายไทยพร้อมที่จะสนับสนุนการปรับปรุงแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลทวาย และฝ่ายไทยพร้อมที่จะดำเนินการทันทีเมื่อฝ่ายเมียนมาร์เห็นชอบรายละเอียดโครงการฯ 

                        ในมิติทางสังคม วัฒนธรรม และความร่วมมือเพื่อการพัฒนา ฝ่ายไทยยินดีให้ความร่วมมือในด้านการศึกษา สาธารณสุข และการท่องเที่ยว และความร่วมมือเพื่อการพัฒนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการเสริมสร้างขีดความสามารถขององค์กรและทรัพยากรมนุษย์ และการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืนในรัฐยะไข่ ภายหลังการประชุมฯ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเมียนมาร์ได้ร่วมลงนามในความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาแก่ผู้ที่เดินทางโดยเครื่องบิน โดยจะมีผลใช้บังคับในวันที่ ๑๑ ส.ค. ๒๕๕๘ ทั้งสองฝ่ายเชื่อมั่นว่า ความตกลงดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมความเชื่อมโยงและอำนวยความสะดวกประชาชนของทั้งสองประเทศให้เดินทางไปมาหาสู่กันได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

                        ในระหว่างการประชุมครั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเมียนมาร์จะเป็นประธานร่วมในพิธีเปิดสถานกุลใหญ่เมียนมาร์ ณ จ.เชียงใหม่ ในวันที่ ๒๙ ก.ค. ด้วย

                        การประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี (JC) เป็นหนึ่งในกลไกการหารือระดับทวิภาคีที่สำคัญของไทยกับเมียนมาร์ในการกำหนดทิศทางการดำเนินความสัมพันธ์และร่วมมือของทั้งสองประเทศ ทั้งสองฝ่ายเห็นควรให้จัดการประชุมครั้งต่อไปที่เมียนมาร์ ในปี ๒๕๕๙ 

* * * * * * * * *

๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๘

 

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ