เมื่อวันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ นายซาอูล อารานา กัสเตยอน เอกอัครราชทูตนิการากัวประจำประเทศไทย ถิ่นพำนัก ณ กรุงโตเกียว และผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศนิการากัว ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ  ในโอกาสที่เดินทางเยือนประเทศไทย

ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคีอย่างกว้างขวางและเห็นพ้องว่า จะร่วมมือกันส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกัน เนื่องจากมีศักยภาพที่จะขยายตัวได้อีกมาก โดยฝ่ายนิการากัวได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับศักยภาพและนโยบายทางเศรษฐกิจของนิการากัวและการบูรณาการภายในภูมิภาคลาตินอเมริกาผ่านกรอบความร่วมมือต่าง ๆ ทั้งนี้ นิการากัวกำลังดำเนินโครงการก่อสร้างคลองนิการากัว ซึ่งเป็น Mega Project ที่จะนำมาซึ่งการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และการสร้างงานให้แก่ชาวนิการากัวได้อีกมากในอนาคต ซึ่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า พัฒนาการในลาตินอเมริกาน่าสนใจมาก ฝ่ายไทยจะติดตามพัฒนาการต่าง ๆ อย่างใกล้ชิดต่อไป ในขณะเดียวกัน รัฐบาลไทยก็กำลังดำเนินการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษบริเวณชายแดน ซึ่งอาจเป็นที่สนใจของนักลงทุนจากลาตินอเมริกาเช่นกัน

นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตนิการากัวฯ แจ้งว่า กงสุลกิตติมศักดิ์นิการากัวประจำกรุงเทพฯ จะนำคณะนักธุรกิจไทยเดินทางเยือนนิการากัวเพื่อศึกษาลู่ทางทางธุรกิจ ในขณะที่เอกอัครราชทูตนิการากัวฯ ก็จะหารือกับ ProNicaragua ซึ่งเป็นหน่วยงานส่งเสริมการค้าการลงทุนของนิการากัวในการส่งเสริมความร่วมมือกับภูมิภาคเอเชียให้มากขึ้น เอกอัครราชทูตนิการากัวฯ กล่าวด้วยว่า มีความสนใจที่จะเรียนรู้วิธีการเพิ่มมูลค่าของสินค้าเกษตรของไทย เพื่อนำไปปรับใช้กับผลผลิตของนิการากัวซึ่งมีระบบเศรษฐกิจที่พึ่งพาการเกษตรเป็นหลัก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า ฝ่ายไทยยินดีที่จะให้ความร่วมมือ และหวังว่าสินค้าข้าวของไทยจะสามารถเข้าสู่ตลาดนิการากัวได้อีกครั้งในเร็ว ๆ นี้

ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องถึงความสำคัญของเวทีความร่วมมือระหว่างเอเชียตะวันออกกับลาตินอเมริกา (Forum for East Asia - Latin America Cooperation : FEALAC) ซึ่งไทยจะเป็นประธานร่วมของการประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศ FEALAC ครั้งที่ ๗ ที่คอสตาริกาจะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นในเดือนสิงหาคม ๒๕๕๘

อนึ่ง เอกอัครราชทูตนิการากัวฯ ได้กล่าวถึงการเจรจาจัดทำความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและราชการระหว่างไทยกับนิการากัว ซึ่งจะเป็นความตกลงทวิภาคีระดับรัฐบาลฉบับแรกระหว่างไทยกับนิการากัว และได้ขอให้ฝ่ายไทยพิจารณาขยายเขตกงสุลของกงสุลกิตติมศักดิ์นิการากัว จากกรุงเทพฯ เป็นประเทศไทย ซึ่งฝ่ายไทยยินดีพิจารณาข้อเสนอดังกล่าว