นายกรัฐมนตรีเยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ

นายกรัฐมนตรีเยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ

วันที่นำเข้าข้อมูล 11 มิ.ย. 2558

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 28 พ.ย. 2565

| 3,916 view
ระหว่างวันที่ 11-12  มิถุนายน 2558 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้เดินทางเยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ โดยในวันที่ 11 มิถุนายน 2558 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ ณ ทำเนียบประธานาธิบดีสิงคโปร์ (Istana) จากนั้นนายกรัฐมนตรีเข้าเยี่ยมคารวะนายโทนี่ ตัน เค็ง ยัม ประธานาธิบดีสิงคโปร์ และได้เข้าร่วมการประชุม Leader’s Retreat กับนายลี เซียน ลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นางกอบกาญจน์ วัฒนงรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม นายกรัฐมนตรีได้แถลงข่าวร่วมกับนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์เกี่ยวกับผลการการประชุม โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
 
นายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลสิงคโปร์ที่ได้เชิญเยือนอย่างเป็นทางการ และให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ทั้งนี้รู้สึกยินดีที่ได้มาสิงคโปร์ในปีนี้ ซึ่งถือเป็นปีที่มีความสำคัญสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ในโอกาสที่ครบรอบ 50 ปี การสถาปนาประเทศสิงคโปร์และการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-สิงคโปร์ ไทยต้องการเพิ่มความสัมพันธ์ทางการทูตให้มากขึ้น อีกทั้งยังอยู่ในระหว่างที่สิงคโปร์เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน SEA Games ครั้งที่ 28 ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความยินดีกับความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพจัดงานสำคัญของภูมิภาคครั้งนี้ อยากให้กีฬาทำให้สองประเทศมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดมากขึ้น
 
ทั้งสองฝ่ายยินดีที่ได้มีการลงนามความตกลง 4 ฉบับ ซึ่งถือเป็นผลสำเร็จจากการเยือนในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงการขยายความร่วมมือระหว่างกัน โดยความตกลงดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมและอำนวยความสะดวกด้านการลงทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน การส่งเสริมการท่องเที่ยวทางเรือ และความร่วมมือด้าน Digital Content การยกเว้นภาษีซ้อน ภาคอุตสาหกรรม โดยนายกรัฐมนตรีให้คำมั่นจะทำความตกลงทั้ง 4 ฉบับ บรรลุให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว
 
ความสัมพันธ์ไทย-สิงคโปร์ ครั้งนี้เป็นการพบกันอย่างเป็นทางการครั้งที่ 2 ไทยและสิงคโปร์มีความใกล้ชิด แน่นแฟ้น และครอบคลุมในทุกมิติ โดยทั้งสองประเทศเห็นพ้องว่า ในโอกาสที่ความสัมพันธ์ทวิภาคีกำลังย่างเข้าสู่ทศวรรษที่ 6 และการเป็นประชาคมอาเซียนในปีนี้ ทั้งสองประเทศจะต้องร่วมมือกันเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ และให้กับประชาคมอาเซียน จากความสามารถและภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์จะทำให้อาเซียนประสบความสำเร็จ
 
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวเพิ่มเติมถึงสถานการณ์การเมืองของไทยในขณะนี้ว่า กลับสู่เสถียรภาพแล้ว โดยรัฐบาลให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนไปข้างหน้าการวางรากฐานที่มั่นคงให้กับการพัฒนาประชาธิปไตยอย่างยั่งยืน และกำลังเดินหน้าตามโรดแมป คาดว่าจะสามารถจัดการเลือกตั้งทั่วไปได้ในปี 2559 ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลสิงคโปร์สำหรับความเข้าใจ
 
ด้านการค้าและการลงทุน ประเทศสิงคโปร์เป็นคู่ค้าอันดับ 2 และเป็นประเทศที่เข้ามาลงทุนในไทยเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน ซึ่งนายกรัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่า ไทยและสิงคโปร์มีศักยภาพที่จะส่งเสริมการค้าการลงทุนในระดับทวิภาคี และสนับสนุนการเป็นประชาคมอาเซียนและความเชื่อมโยงในภูมิภาค ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวเชิญภาคเอกชนสิงคโปร์ให้เข้ามาร่วมลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ บริเวณชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ของไทย
 
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีทั้งสองหวังขับเคลื่อนความร่วมมือในด้านต่างๆ ให้มีความคืบหน้า และเป็นรูปธรรม ซึ่งในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีแจ้งถึงความพร้อมของไทยในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมกลไกทวิภาคี กรอบโครงการความร่วมมือระหว่างหน่วยราชการไทยกับสิงคโปร์ (การประชุม Civil SERVICE Exchange Programme (CSEP) ในปี 2558 และการประชุม Singapore-Thailand Enhanced Economic Relationship (STEER) ครั้งที่ 4 ในปี 2558
 
สำหรับความร่วมมือด้านความมั่นคง ไทย-สิงคโปร์พร้อมร่วมมือในทุกมิติ ทั้งทวิภาคี ภูมิภาคและประชาคมโลก นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ยังได้แสดงความชื่นชมที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเรื่อง illegal migrant อีกด้วย
 
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาค โดยเฉพาะระหว่างอาเซียนกับจีนในสถานการณ์ทะเลจีนใต้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีแจ้งความพร้อมของไทยที่จะสนับสนุนสิงคโปร์อย่างเต็มที่ในการรับหน้าที่ประเทศผู้ประสานงานอาเซียน-จีน ต่อจากไทยในช่วงกลางปีนี้
 
โดยในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลสิงคโปร์ สำหรับมิตรภาพและความเชื่อมั่นในประเทศไทย และไทยพร้อมที่จะให้ร่วมมืออย่างเต็มที่ เพื่อผลักดันผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ และของอาเซียนโดยรวม นายกรัฐมนตรีขอบคุณสำหรับการต้อนรับ นายกรัฐมนตรีเห็นว่าความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ไทย-สิงคโปร์ ถือเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่ดีที่สุดในโลก
 
ภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความตกลงและบันทึกความเข้าใจ 4 ฉบับ ได้แก่ ความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนระหว่างไทยกับสิงคโปร์ (ฉบับแก้ไข) บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการท่องเที่ยวทางเรือ บันทึกความเข้าใจสำหรับความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูล ประสบการณ์ และการเข้าร่วมกิจกรรมด้านการผลิตและการตลาด สินค้าประเภท Digital Content ระหว่างสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์กรมหาชน) และ Media Development AUTHORITY(MIDA) และบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยกับ Singapore Manufacturing Federation (SMF)
 
การประชุม Leaders’ Retreat หรือ Prime Ministers’ Retreat เป็นกลไกความร่วมมือ ทวิภาคีระดับสูงสุดระหว่างไทยกับสิงคโปร์ เกิดจากผลการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยกับสิงคโปร์ในระหว่างการเยือนไทยของนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ (นายโก๊ะ จ๊ก ตง) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความคุ้นเคยระดับผู้นำและรัฐมนตรีของไทยกับสิงคโปร์ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นด้านทวิภาคี ภูมิภาค และระหว่างประเทศที่ทั้งสองฝ่ายสนใจร่วมกัน รวมถึงเป็นการติดตามความร่วมมือต่างๆ ในบรรยากาศที่ไม่เป็นทางการ โดยที่ผ่านมาการประชุม Leaders’ Retreat ได้ประชุมไปแล้ว 4 ครั้ง (1) วันที่ 10-12 มกราคม 2546 ณ จังหวัดภูเก็ต (2) วันที่ 5-7 กันยายน 2546 ที่สิงคโปร์ (3) วันที่ 2-3 กันยายน 2548 ที่จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นก็ได้ว่างเว้นการประชุมมาเป็นเวลากว่า 10 ปี
 
ที่มา สำนักโฆษก สำนักนายกรัฐมนตรี

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ