การเตรียมความพร้อมประเทศไทยในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

การเตรียมความพร้อมประเทศไทยในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

วันที่นำเข้าข้อมูล 11 พ.ค. 2558

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565

| 5,810 view

         เมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๕๘ นายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานในการบรรยายสรุปเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมประเทศไทยในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ณ ตึกสันติไมตรีหลังใน ทำเนียบรัฐบาล โดยมีพลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายการต่างประเทศ ในฐานะประธานคณะกรรมการศูนย์อำนวยการเตรียมความพร้อมประเทศไทย
ในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ม.ร.ว. ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายสังคม รัฐมนตรีและผู้บริหารระดับสูงจากทุกกระทรวง และทุกหน่วยงาน รวมทั้งภาคเอกชน เข้าร่วม
         การบรรยายสรุปในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อรายงานความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมของไทยในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยเฉพาะความคืบหน้าของการดำเนินงานในแต่ละเสา ได้แก่ เสาการเมืองและความมั่นคง เสาเศรษฐกิจ และเสาสังคมและวัฒนธรรม รวมทั้งการดำเนินการด้านประชาสัมพันธ์และด้านกฎหมายแก่นายกรัฐมนตรี
         สำหรับความคืบหน้าในการดำเนินการในเสาการเมืองและความมั่นคง ได้มีการจัดตั้ง ๑) ศูนย์อาเซียนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อบูรณาการข้อมูลการเดินทางเข้า-ออกของบุคคลและยานพาหนะ ๒) ศูนย์ ASEAN-NARCO ที่สำนักงาน ป.ป.ส.  ๓) ศูนย์แพทย์ทหารอาเซียนที่กรมการแพทย์ทหารบก ในส่วนของเสาเศรษฐกิจ มีการจัดทำแผนงานเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยภายใต้กรอบประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ระยะ ๕-๑๐ ปี) โดยกำหนดให้ไทยเป็นชาติแห่งการค้า ความเชื่อมโยง และสังคมดิจิทัล และเสาสังคม-วัฒนธรรม อาทิ การจัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมอาเซียน ณ หอศิลป์ร่วมสมัย และการเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์
         ด้านกฎหมายได้เริ่มดำเนินการรวบรวมกฎหมายในส่วนที่ต้องเร่งรัดผลักดันให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ ซึ่งเป็นไปตามพันธกรณี และในส่วนที่จะจัดทำขึ้นเพื่อให้ไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น สำหรับด้านประชาสัมพันธ์ ได้มีการกำหนดแผนงานการดำเนินงานประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประชาคมอาเซียนแก่กลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ รวมทั้งการจัดทำแผนบูรณาการด้านประชาสัมพันธ์และการจัดตั้งศูนย์ประชาสัมพันธ์อาเซียน นอกจากนี้ แต่ละเสายังมีการนำเสนอแผนงานระยะ ๕ ปี (๒๕๕๙-๒๕๖๓) เพื่อกำหนดแนวทางในการดำเนินงานภายหลังการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน 

          นายกรัฐมนตรีได้ให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินงานเพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียนทั้งสามเสา โดยมุ่งเน้นให้ส่วนราชการต่าง ๆ บูรณาการการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และวางแผนโดยมีเป้าหมายและวิสัยทัศน์ระยะยาวที่ชัดเจน เน้นผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรมและการนำไปสู่การปฏิบัติ รวมทั้งได้เน้นย้ำให้ส่วนราชการต่าง ๆ ดำเนินงานโดยคำนึงถึงประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับจากการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนอย่างเป็นรูปธรรม สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับประชาคมอาเซียนอย่างรอบด้านเพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์จากการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนอย่างเต็มที่ และสามารถรับมือกับผลกระทบจากการรวมตัวเป็นประชาคมอย่างทันท่วงที

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ