เมื่อวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๖.๓๐ น. นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ และนายมานพชัย วงศ์ภักดี อธิบดีกรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลางและแอฟริกา หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือคนไทยในลิเบีย ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเกี่ยวกับความคืบหน้าในการช่วยเหลือคนไทย ดังนี้

เมื่อค่ำวานนี้ นายธงชัย ชาสวัสดิ์ อธิบดีกรมการกงสุลได้นำคณะเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงแรงงาน จำนวน ๗ คน เดินทางออกจากกรุงเทพฯ ไปยัง กรุงตูนิส ประเทศตูนีเซีย เพื่อไปจัดตั้งสำนักงานชั่วคราวในการช่วยเหลือคนไทยที่กรุงตูนิสและเมือง Djerba คณะเจ้าหน้าที่กลุ่มนี้จะเดินทางถึงกรุงตูนิสในวันที่ ๑ สิงหาคม เวลาประมาณ ๑๘.๐๐ น. ตามเวลาท้องถิ่น

นายมานพชัยฯ กล่าวถึงความคืบหน้าในการช่วยเหลือคนไทยว่า นักเรียนไทยจำนวน ๘ คน ได้เดินทางออกจากกรุงตริโปลีเและเดินทางถึงตูนีเซียแล้วเมื่อวานนี้ โดยนักเรียนที่คงเหลืออยู่ที่กรุงตริโปลีอีก ๓ คนได้ขอใช้เวลาในการจัดการเรื่องการเรียนกับสถานศึกษาและจะเดินทางออกจากกรุงตริโปลีในโอกาสต่อไป ทั้งนี้ นักเรียนไทย ๘ คนแรก จะเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ ในวันที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๒.๒๕ น. โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบิน EK 384 (บินผ่านดูไบ) ซึ่งเมื่อเดินทางถึงประเทศไทยแล้ว กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะดำเนินการเรื่องการจัดส่งนักเรียนกลับภูมิลำเนาต่อไป ซึ่งส่วนใหญ่มีภูมิลำเนาอยู่ในภาคใต้จึงจะใช้เวลาในการเดินทางระยะหนึ่ง

ส่วนการอพยพแรงงานที่ทำงานที่บริเวณกรุงตริโปลีซึ่งอยู่ทางภาคตะวันตกของลิเบีย จะดำเนินการตามแผนอพยพทั้งทางบกและทางเรือตามที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงตริโปลีได้เตรียมไว้ เมื่อคณะเจ้าหน้าที่จากประเทศไทยไปถึง จะเริ่มอำนวยความสะดวกแก่แรงงานไทยที่ข้ามแดนมาตูนีเซียโดยทันที โดยกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงแรงงานเห็นพ้องที่ดำเนินการอย่างอพยพคนไทยโดยเร่งด่วนเนื่องจากสถานการณ์ยังอยู่ในความไม่สงบ และสถานเอกอัครราชทูตหลายประเทศได้ปิดสำนักงานไปแล้ว โดยกระทรวงการต่างประเทศจะแจ้งเที่ยวบินที่คนไทยและแรงงานไทยจะเดินทางมาถึงประเทศไทยให้สาธารณชนทราบเป็นระยะๆ ต่อไป

สำหรับกลุ่มแรงงานไทยที่ทำงานบริเวณเมืองเบงกาซี ทางตะวันออกของประเทศลิเบีย คาดว่าจะออกเดินทางโดยเครื่องบินโดยสารจากสนามบินที่เมืองอัลเบด้าในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ โดยจะเดินทางโดยเครื่องบินไปที่กรุงตูนิสและจะต่อเครื่องบินโดยสารที่เมืองดูไบเพื่อเดินทางกลับประเทศไทยต่อไป และแรงงานอีกกลุ่มจะเดินทางออกโดยเครื่องบินโดยสารจากกรุงไคโร ทั้งนี้ กรมการจัดหางานจะเข้าไปดูแลเรื่องสิทธิประโยชน์แรงงาน กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะดำเนินการเรื่องการเยียวยา ต่อไป

เมื่อวานนี้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศได้หารือกับเอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์ประจำประเทศไทย โดยรัฐบาลฟิลิปปินส์จะให้การช่วยเหลือในการอพยพแรงงานอย่างเต็มที่และจะมีการแบ่งความรับผิดชอบเรื่องค้าใช้จ่าย ซึ่งจะมีการหารือเรื่องรายละเอียดการอพยพกับฟิลิปปินส์ในพื้นที่

ทั้งนี้สถานเอกอัครราชทูตฯ ยังไม่ได้ปิดสำนักงานถาวรแต่เป็นการย้ายสำนักงานชั่วคราวด้วยเหตุผลทางด้านความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และเพื่อการอำนวยความสะดวกแก่คนไทย