เมื่อวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๗ นายจักร บุญ-หลง เอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนผ่านระบบโทรศัพท์ทางไกลเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือแรงงานไทยในอิสราเอล สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

เอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ กล่าวว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้ประชาสัมพันธ์กับแรงงานไทยในอิสราเอลให้ใช้ความระมัดระวังสืบเนื่องจากเหตุปะทะในบริเวณฉนวนกาซา รวมทั้งขอให้แรงงานไทยจำนวน ๕๐๐ คน ในบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยในรัศมี ๒๐ กิโลเมตรจากชายแดนฉนวนกาซา หยุดงานโดยไม่มีข้อแม้ และอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย

ทั้งนี้ แรงงานที่ประสงค์จะย้ายงานชั่วคราว สามารถแจ้งความประสงค์กับสถานเอกอัครราชทูตฯ เพื่อที่ฝ่ายแรงงานประจำสถานเอกอัครราชทูตฯ จะได้ประสานจัดหางานชั่วคราวและดำเนินการเคลื่อนย้ายแรงงานดังกล่าวออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเมื่อเหตุการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ แรงงานดังกล่าวจะสามารถเดินทางกลับมาทำงานเดิมได้ตามสัญญาจ้าง  สำหรับแรงงานที่อยู่นอกพื้นที่เสี่ยงภัย รวมทั้ง แรงงานที่ประสงค์จะย้ายงานถาวรไปยังพื้นที่ปลอดภัย สามารถแจ้งความประสงค์กับสถานเอกอัครราชทูตฯ เพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือต่อไป

นอกจากนี้ ได้มีแรงงานไทยในพื้นที่เสี่ยงภัยแจ้งความประสงค์ขอย้ายออกจากพื้นที่แล้ว ๖๕ คน โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามความประสงค์ของแรงงาน ด้วยการส่งกลับไทยจำนวน ๗ คน เคลื่อนย้ายไปยังพื้นที่ปลอดภัยจำนวน ๑๓ คน และกำลังเคลื่อนย้ายเพิ่มเติมในวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๗ อีก ๓๐ คน สำหรับแรงงานไทยที่เสียชีวิตในบริเวณนิคมเกษตรกรรม รัฐบาลอิสราเอลได้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการขนย้ายศพ โดยครอบครัวผู้เสียชีวิตจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ตามพระราชบัญญัติประกันสังคมและกฎหมายเกี่ยวข้องกับผู้ที่ประสบเคราะห์กรรมจากภัยสงครามเช่นเดียวกับคนอิสราเอล ซึ่งฝ่ายแรงงานประจำสถานเอกอัครราชทูตฯ จะดำเนินการติดตามเรื่องดังกล่าวต่อไป ทั้งนี้ รัฐบาลอิสราเอลได้แสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของแรงงานไทยดังกล่าวผ่านหนังสือพิมพ์อิสราเอลด้วย

อนึ่ง สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้เปิดช่องทางติดต่อตลอด ๒๔ ชั่วโมง โทรศัพท์:  สถานเอกอัครราชทูตฯ +๙๗๒-๙ ๙๕๔-๘๔๑๒-๑๓ / ผู้ช่วยทูตแรงงาน +๙๗๒-๕๔-๔๖๙-๓๔๗๖ / รองผู้ช่วยทูตฝ่ายแรงงาน +๙๗๒-๕๔-๔๖๙-๓๔๗๗ / หัวหน้าฝ่ายกงสุล +๙๗๒-๕๔-๖๓๖-๘๑๕๐ / เจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุล +๙๗๒-๕๐-๕๓๗-๐๗๕๙