เมื่อวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๗ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเข้าพบหารือข้อราชการกับ ดร.ทองลุน สีสุลิด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศลาว เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคี สถานการณ์ในภูมิภาค รวมทั้งใช้โอกาสดังกล่าวชี้แจงเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองไทย ณ เวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้

ปลัดกระทรวงฯ กล่าวว่า การเยือนลาวในครั้งนี้เพื่อชี้แจงสถานการณ์การเมืองของไทยให้ลาวรับทราบและเข้าใจ เนื่องจากลาวเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดและมีความสัมพันธ์กับไทยในทุกมิติ โดยเน้นย้ำถึงแผนการ (Roadmap) ทั้ง ๓ ขั้นตอนของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไป นอกจากนี้ คสช. ยังให้ความสำคัญกับนโยบายด้านเศรษฐกิจ ซึ่งครอบคลุมถึงการปฏิรูปเศรษฐกิจและระบบภาษี เนื่องจากความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจของไทย จะนำมาซึ่งผลดีต่อเศรษฐกิจลาวด้วย โดยสามารถเห็นได้จากในช่วงที่ผ่านมา การที่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไทยลดลงส่งผลต่อจำนวนนักท่องเที่ยวในลาว ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศลาว ได้แสดงความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ในไทยว่า เป็นเรื่องกิจการภายในของประเทศ 

ปลัดกระทรวงฯ แสดงความยินดีที่การค้าและการลงทุนไทย – ลาวได้ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมารัฐบาลไทยได้สนับสนุนให้เอกชนและรัฐวิสาหกิจไปลงทุนในลาวมาก และเสนอว่า ทั้งสองประเทศควรร่วมมือกันมากขึ้น ในเรื่องการเชื่อมโยงในภูมิภาค (connectivity) เพื่อส่งเสริมการพัฒนาและเชื่อมโยงบริเวณชายแดนซึ่งเป็นผลประโยชน์ร่วมกัน โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์จากเส้นทางคมนาคมระหว่างไทย – ลาว – เวียดนาม ที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการระเบียงเศรษฐกิจ (East West Economic Corridor) ทั้งนี้  ฝ่ายไทยโดยสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (สพพ.) อยู่ในระหว่างการศึกษาแนวทางพัฒนาพื้นที่และเศรษฐกิจตามแนวเส้นทาง R8 และ R12 เพื่อให้ลาวได้รับประโยชน์จากเส้นทางดังกล่าว นอกจากนี้ ฝ่ายไทยอยู่ในระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ที่จะก่อสร้างสะพานมิตรภาพแห่งที่ ๕ ระหว่างจังหวัดบึงกาฬและแขวงบอลิคำไซซึ่งจะเชื่อมโยงกับเส้นทาง R8 และช่วยส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยวในภูมิภาค

ในการนี้ ปลัดกระทรวงฯ ได้ใช้โอกาสในการชี้แจงเกี่ยวกับข่าวลือเรื่องการปฏิบัติต่อแรงงานต่างด้าวของทางการไทยว่า ไทยเห็นความสำคัญกับแรงงานต่างด้าวเนื่องจากเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ จึงต้องมีการจัดระบบเพื่อไม่ให้แรงงานต่างด้าวถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายจ้าง รวมไปถึงเข้าไปเกี่ยวข้องกับค้ามนุษย์ ซึ่ง คสช. ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก