เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๕๗ นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศบรรยายสรุปแก่สื่อมวลชนเกี่ยวกับการดำเนินการของกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์และพัฒนาการทางการเมืองของไทยโดยมีรายละเอียดดังนี้

กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการเร่งชี้แจงให้ประชาคมโลกได้ทราบและเข้าใจถึงพัฒนาการของสถานการณ์การเมืองไทยภายหลังการควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยเมื่อวันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๕๗ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศได้เดินทางเยือนประเทศเวียดนามและเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเวียดนามเพื่อชี้แจงเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองล่าสุดของไทย ซึ่งเวียดนามแสดงความเชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้และจะกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว รวมทั้งย้ำว่าความสัมพันธ์อันดีและแนบแน่นของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทั้งสองประเทศได้ยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์จะยังคงเดินหน้าต่อไป นอกจากนี้ เวียดนามยังชื่นชมบทบาทที่สำคัญของไทยในอาเซียนและการเป็นผู้ประสานงานอาเซียน-จีน

ระหว่างวันที่ ๗ – ๙ มิถุนายน ๒๕๕๗ ปลัดกระทรวงต่างประเทศได้เดินทางเข้าร่วมประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนและการประชุมที่เกี่ยวข้อง เช่น การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนกับประเทศบวกสาม การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสกรอบการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก (EAS) และการประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (ARF) ณ กรุงย่างกุ้ง เมียนมาร์

ปลัดกระทรวงฯ ได้ใช้โอกาสนี้หารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศจีน เจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐฯ ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ โดยปลัดกระทรวงฯ ได้ชี้แจงสถานการณ์ล่าสุดของการเมืองไทยและเห็นว่าประเทศต่างๆ ควรเห็นความสำคัญของความสัมพันธ์กับประเทศไทยในระยะยาว รวมทั้งอธิบายถึงแผนทั้งสามขั้นของ คสช. ในการนำประเทศกลับสู่กระบวนการทางประชาธิปไตยและการเลือกตั้ง การหารือดังกล่าวได้รับการตอบรับที่ดีจากที่ประชุม โดยประเทศเหล่านี้แสดงความเข้าใจในสถานการณ์ของไทยและให้กำลังใจไทยในการฟื้นฟูเสถียรภาพ ผลักดันการปฏิรูป เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยในที่สุด

ปลัดกระทรวงการต่างประเทศยังมีกำหนดเดินทางเข้าร่วมประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (Human Rights Council) ที่กรุงเจนีวา ระหว่างวันที่ ๑๒ – ๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๗ ซึ่งจะใช้โอกาสเดียวกันนี้ชี้แจงสถานการณ์ในประเทศไทย นอกจากนี้ ปลัดกระทรวงฯ จะเดินทางเยือนลาว ระหว่างวันที่ ๑๖ – ๑๘ มิถุนายน เยือนกัมพูชาในวันที่ ๒ กรกฎาคม และจีนในวันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗

การดำเนินการที่สำคัญอีกประการของกระทรวงการต่างประเทศคือการเชิญเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ไทยที่ประจำการในต่างประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และสหภาพยุโรป รวม ๒๓ แห่ง เข้ามาหารือและทบทวนท่าทีของต่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองของไทย รวมทั้งการดำเนินการเพื่อสร้างความเข้าใจแก่นานาประเทศเกี่ยวกับนโยบายของ คสช. ในช่วงระหว่างวันที่ ๑๐ –๑๒ มิถุนายน ๒๕๕๗ นี้ ซึ่งในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่จะมีกำหนดเข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติเพื่อทำความเข้าใจถึงความจำเป็นของการยึดอำนาจและแนวทางการคืนความสงบให้กับประเทศไทยด้วย

อนึ่ง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศยังได้กล่าวถึงการที่ไทยจะเป็นการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีแห่งเอเชียว่าด้วยการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ครั้งที่ ๖ (The 6th Asian Ministerial Conference on Disaster Risk) ของไทยระหว่างวันที่ ๒๒ - ๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๗ ณ ศูนย์การประชุมบางกอกคอนเวนชัน เซ็นเตอร์ แอท เซนทารา แกรนด์ กรุงเทพฯ  การประชุมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อการส่งเสริมการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติและการสร้างสังคมที่พร้อมรับมือและฟื้นกลับเมื่อเกิดภัยพิบัติทั้งในระดับชาติและระดับภูมิภาคให้สอดคล้องตามหลักปฏิบัติสากล โดยที่ประชุมฯ จะรับรองปฏิญญากรุงเทพฯ นอกจากนี้ จะเป็นการทบทวนกรอบการดำเนินงานเฮียวโกะเพื่อการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่าการจัดการประชุมดังกล่าวแสดงให้ให้เห็นถึงความมั่นใจของนานาชาติเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศไทยซึ่งมีความสงบและเรียบร้อยดีขึ้นเป็นลำดับ ขณะนี้มีรัฐมนตรีจาก ๑๕ ประเทศและผู้แทนระดับสูงจาก ๖ ประเทศ เช่น ศรีลังกา อัฟกานิสถาน กัมพูชา จีน บังกลาเทศ มัลดีฟส์ ทาจิกิสถาน เมียนมาร์ ติมอร์-เลสเต ฟิจิ เนปาล และตูวาลู ตอบรับและยืนยันจะเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว