นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเกี่ยวกับผลการหารือข้อราชการกับนายวันนะ หม่อง ลวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเมียนมาร์ ณ กระทรวงการต่างประเทศ เมียนมาร์ กรุงย่างกุ้ง เมื่อวันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๕๗ รายละเอียดดังนี้

ปลัดกระทรวงการต่างประเทศกล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการหารือข้อราชการในครั้งนี้เพื่อชี้แจงสถานการณ์การเมืองของไทยให้รัฐบาลเมียนมาร์ได้รับทราบ เนื่องจากเมียนมาร์เป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีความใกล้ชิดกับไทย รวมทั้งดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนในปัจจุบันด้วย บรรยากาศของการหารือเป็นไปด้วยดี โดยปลัดกระทรวงฯ ได้อธิบายเหตุผลความจำเป็นของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ต้องดำเนินการเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ทางการเมืองของไทยและเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในประเทศ พร้อมทั้งได้ใช้โอกาสนี้ชี้แจงพัฒนาการล่าสุด โดยเฉพาะแผนงาน ๓ ขั้นตอนของ คสช. ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเมียนมาร์สนับสนุนการดำเนินการตามแผนงานดังกล่าว

นอกจากนี้ ปลัดกระทรวงฯ ได้อธิบายถึงความมุ่งมั่นของ คสช. ที่จะเดินหน้าเพื่อให้สถานการณ์ในไทยกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว และยืนยันว่าไทยจะคงบทบาทในด้านการต่างประเทศที่เข้มแข็งต่อไป ทั้งในกรอบอาเซียนและความสัมพันธ์ทวิภาคีกับประเทศต่างๆ และขอให้เมียนมาร์เข้าใจ เชื่อมั่น และสนับสนุนไทยในการดำเนินความสัมพันธ์ในอาเซียนและกับประเทศนอกอาเซียนด้วย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเมียนมาร์ได้กล่าวต่อปลัดกระทรวงฯ ว่า รัฐบาลเมียนมาร์ได้ติดตามสถานการณ์ทางการเมืองในไทยอย่างใกล้ชิดเพราะไทยเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่สำคัญของเมียนมาร์ โดยเมียนมาร์เข้าใจสถานการณ์และยึดมั่นในหลักการไม่แทรกแซงกิจการภายใน ทั้งนี้ เมียนมาร์เชื่อมั่นในไทยและยินดีสนับสนุนไทย โดยเฉพาะในกรอบอาเซียนและในการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับประเทศอื่นๆ นอกภูมิภาค

นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเมียนมาร์ได้รับที่จะสื่อสารประเทศสมาชิกอาเซียนให้รับทราบข้อมูลที่ได้รับแจ้งจากฝ่ายไทย และยินดีที่ปลัดกระทรวงฯ พร้อมที่จะเดินทางไปชี้แจงกับรัฐมนตรีต่างประเทศของทุกประเทศอาเซียน

ปลัดกระทรวงฯ กล่าวเพิ่มเติมว่าประเทศสมาชิกอาเซียนต่างเล็งเห็นความสำคัญของบทบาทของไทยในภูมิภาค และหวังที่จะเห็นสถานการณ์ในประเทศไทยคลี่คลายโดยเร็ว นอกจากนี้ ได้ขอบคุณเมียนมาร์และประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นๆ ที่มีความเข้าใจสถานการณ์ในประเทศไทย และสนับสนุนความพยายามแก้ไขปัญหาของไทย โดยฝ่ายไทยจะติดต่อสื่อสารกับประเทศสมาชิกอาเซียนอย่างใกล้ชิดต่อไป 

ปลัดกระทรวงฯ กล่าวกับสื่อมวลชนเพิ่มเติมว่า ภารกิจเร่งด่วนที่สุดของกระทรวงการต่างประเทศและสถานเอกอัคราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ทุกแห่งทั่วโลกในขณะนี้คือ การเร่งชี้แจงทำความเข้าใจกับรัฐบาล ภาคเอกชน สื่อมวลชน และองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ โดยกระทรวงการต่างประเทศได้กำชับให้มีการรายงานปฏิกริยาของฝ่ายต่างๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อกำหนดแนวทางสำหรับการทำความเข้าใจและฟื้นฟูความเชื่อมั่น โดยนอกเหนือจากอาเซียนแล้ว จะให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับประเทศหุ้นส่วนสำคัญด้านการค้า การลงทุน อาทิ จีน ญี่ปุ่น อินเดีย สหรัฐฯ สหภาพยุโรป และออสเตรเลีย เป็นต้น