รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางกลับจากการร่วมรับฟังคำตัดสินของศาลโลกที่กรุงเฮก

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางกลับจากการร่วมรับฟังคำตัดสินของศาลโลกที่กรุงเฮก

วันที่นำเข้าข้อมูล 13 พ.ย. 2556

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 26 พ.ย. 2565

| 2,877 view

เมื่อวันอังคารที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ เวลา ๑๔.๐๐ น. นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยพลเอกยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมได้เดินทางกลับถึงประเทศไทย หลังเสร็จสิ้นภารกิจในการเดินทางไปร่วมรับฟังการอ่านคำพิพากษาของศาลโลกในคดีตีความ คำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหารปี ๒๕๐๕ ที่กรุงเฮก ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้กล่าวขอบคุณประชาชนชาวไทยที่ร่วมกันส่งกำลังใจไปให้ทีมและคณะที่ปรึกษากฎหมายชาวต่างชาติของไทย ซึ่งได้ต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ คำตัดสินของศาลโลกถือว่าน่าพอใจอย่างยิ่ง เพราะมิได้ตัดสินให้พื้นที่ ๔.๖ ตารางกิโลเมตรเป็นของกัมพูชา ขณะนี้ กระทรวงการต่างประเทศกำลังเร่งแปลคำพิพากษาเป็นภาษาไทยเพื่อเผยแพร่ให้ประชาชนได้รับทราบ และจะนำเรื่องเข้ารัฐสภาตามที่กำหนดในมาตรา ๑๙๐ ของรัฐธรรมนูญ แม้ว่ามีการแก้ไขมาตรา ๑๙๐ แต่รัฐบาลยังต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อนจะดำเนินการใด ๆ โดยจะต้องเสนอกรอบการเจรจาภายใต้คณะกรรมาธิการร่วมไทย – กัมพูชา เพื่อขอความเห็นชอบจากรัฐสภา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการต่างประเทศได้ยืนยันด้วยว่า จากการพูดคุยกับนายฮอร์ นัมฮง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการต่างประเทศของกัมพูชา เห็นตรงกันว่า ทั้งสองประเทศจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนและกระบวนการทางกฎหมายภายในของแต่ละฝ่าย

ในโอกาสเดียวกัน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมยืนยันว่า มีการพูดคุยกับฝ่ายกัมพูชาอย่างสม่ำเสมอ และยังคงตรึงกำลังทหารในพื้นที่เช่นเดิม ในลำดับต่อไปเป็นเรื่องของกระบวนการเจรจาที่ต้องใช้เวลา เพื่อให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายภายในประเทศ

*****************

๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๖

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ