วันที่นำเข้าข้อมูล 28 ต.ค. 2556
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 25 พ.ย. 2565
เช้านี้ ผมได้หารือกับท่านฮอร์ นัมฮง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชา การหารือในครั้งนี้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของท่านนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์และนายกรัฐมนตรีสมเด็จฯ ฮุน เซน ที่จะรักษาความสัมพันธ์อันดี ความร่วมมือที่กำลังเป็นไปด้วยดีระหว่างกัน ตลอดจนความสงบสุขบริเวณชายแดนของประเทศทั้งสอง ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ผู้นำทั้งสองต่างยึดมั่นในแนวทางสันติมาโดยตลอด
วันนี้จึงเป็นโอกาสดีที่ทั้งสองฝ่ายได้หารือกันถึงแนวทางที่จะช่วยกันดูแลความสัมพันธ์ระหว่างกันในช่วงที่ศาลโลกจะมีคำวินิจฉัยเกี่ยวกับคำพิพากษาคดีเมื่อปี ๒๕๐๕ ผมขอสรุปประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายได้หารือกันดังนี้
๑. ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่า ไม่ว่าผลการตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศจะออกมาเช่นไร เราจะไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ระหว่างกัน เพราะเราเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่จะต้องอยู่ด้วยกันตลอดไป การดำเนินการใด ๆ จะต้องมีการพูดคุยเจรจาหารือกัน และยึดมั่นในเจตนารมณ์ที่จะรักษาความสงบตามแนวชายแดนและภายในของประเทศทั้งสอง และจะไม่ให้มีสิ่งใดมากระทบความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน
๒. เพื่อรักษาบรรยากาศความเป็นมิตรระหว่างกัน ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกำหนดมาตรการที่จะยึดถือปฏิบัติร่วมกัน ทั้งสำหรับช่วงก่อนและภายหลังการอ่านคำตัดสินของศาลฯ โดยทั้งสองประเทศเห็นพ้องกันว่า จะต้องมีมาตรการที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขตามแนวชายแดน โดยทั้งในระดับรัฐบาลและระดับทหารในพื้นที่จะร่วมกันรักษาความสงบบริเวณชายแดนและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ใด ๆ และจะดูแลให้มีการติดต่อไปมาหาสู่กันตามปกติ ทั้งในส่วนของประชาชนและการขนส่งสินค้าระหว่างสองประเทศ นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายจะนำเสนอข้อมูลข่าวสารอย่างเหมาะสมและด้วยความระมัดระวัง ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายจะเคารพในสิทธิและการแสดงออกของกันและกัน
๓. ทั้งสองฝ่ายตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องมีการดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ และกระบวนการทางกฎหมายภายในของแต่ละประเทศ และสนับสนุนให้มีการพบปะหารือเกี่ยวกับสาระสำคัญของคำตัดสินและการดำเนินการที่เกี่ยวข้องต่อไปตามลำดับ ซึ่งในชั้นนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะให้ใช้กลไกที่มีอยู่แล้ว เช่น การประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี (JC) ไทย-กัมพูชา หรือกลไกอื่น ๆ
๔. การนำเสนอข้อมูลข่าวสารจากภาครัฐเป็นสิ่งสำคัญ และเพื่อมิให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกัน ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะให้กระทรวงการต่างประเทศของแต่ละฝ่ายเป็นหน่วยงานหลักในการประสานข้อมูลและการให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ประชาชน เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนในเรื่องของข้อมูลข่าวสาร
โดยสรุปแล้ว การหารือในวันนี้ได้สะท้อนถึงความตั้งใจอันดีของทั้งสองประเทศที่จะพยายามอย่างเต็มที่ในการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน และความสงบสุขตลอดแนวชายแดนที่ติดต่อกัน และภายในประเทศทั้งสอง
ขอบคุณ
* * * * *
รูปภาพประกอบ
วันทำการ : จันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.30 - 16.30 น.
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
งานรับ-ส่งหนังสือ และงานสารบรรณ:
อีเมล [email protected]
เว็บไซต์นี้ได้รับการออกแบบเพื่ออำนวยความสะดวกให้ทุกคนเข้าถึงเว็บไซต์ได้และมีมาตรฐาน WCAG 2.0 ระดับ AA
** เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุดควรใช้ Chrome เวอร์ชั่น 76 ขึ้นไป **