วันที่นำเข้าข้อมูล 1 ก.ค. 2556
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเยือนโปแลนด์และตุรกีอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ ๓ - ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๖ ตามคำเชิญของรัฐบาลทั้งสองประเทศ โดยนายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงภารกิจและสาระสำคัญการเยือน ดังนี้
การเดินทางเยือนโปแลนด์และตุรกีเป็นการตอบรับเชิญของรัฐบาลสองประเทศเพื่อเสริมสร้างโอกาส แสวงหาความร่วมมือเพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน และเปิดตลาดใหม่ของไทยในภูมิภาคยุโรป โดยโปแลนด์ถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูง มีพรมแดนติดกับประเทศในยุโรปถึง ๗ ประเทศ จึงถือเป็นโอกาสที่ไทยจะได้ใช้โปแลนด์เป็นประตูสู่ยุโรป และนับเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับความสัมพันธ์และแสวงหาลู่ทางการเพิ่มพูนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าการลงทุนกับโปแลนด์และประเทศอื่นๆในภูมิภาคยุโรป สำหรับตุรกีนับเป็นตลาดใหม่สำหรับการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวของไทย เป็นจุดเชี่อมต่อระหว่างภูมิภาคยุโรปและเอเชีย เป็นประเทศมุสลิมขนาดใหญ่ที่มีแนวคิดสายกลาง และมีอิทธิพลต่อประเทศในกลุ่มตะวันออกกลาง เอเชียกลาง บอลข่าน รวมถึง OIC ด้วย ซึ่งการมาเยือนของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้จะช่วยผลักดันความร่วมมือไทย-ตุรกี โดยใช้ประโยชน์จากความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ให้เต็มศักยภาพ
สำหรับการเยือนสาธารณรัฐโปแลนด์อย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ ๓ - ๕ กรกฎาคม ๒๕๕๖ ถือเป็นการเยือนภูมิภาคยุโรปกลางอย่างเป็นทางการครั้งแรกของนายกรัฐมนตรีไทยและเป็นการตอบรับคำเชิญของนายโดนัล ทุสค์ นายกรัฐมนตรีโปแลนด์ ภายหลังพบหารือกันระหว่างการประชุม ASEM ๙ ที่เวียงจันทน์ เมื่อเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๕ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการที่โปแลนด์ให้ความสำคัญต่อไทยและประสงค์จะกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือกับไทยให้กระชับยิ่งขึ้น โดยนายกรัฐมนตรีมีกำหนดการพบหารือทวิภาคีกับนายโดนัล ทุสค์ นายกรัฐมนตรีโปแลนด์ และร่วมเป็นประธานในการลงนามความตกลงและบันทึกความเข้าใจ ๔ ฉบับ การพบปะภาคเอกชนไทยในโปแลนด์ รวมถึงการศึกษาดูงานการอนุรักษ์เขตเมืองเก่าของโปแลนด์ เพื่อนำมาปรับใช้กับประเทศไทย
ในการเยือนตุรกี นับเป็นการเยือนอย่างเป็นทางการครั้งแรกของนายกรัฐมนตรีไทยในรอบ ๘ ปี ตามคำเชิญของ นายเรเจพ เทยิพ แอร์โดอาน นายกรัฐมนตรีตุรกี ภายหลังพบกันระหว่างการประชุม Bali Democracy Forum เมื่อเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๕ การเยือนครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อกระชับความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่าย พร้อมแสวงหาความร่วมมือในสาขาที่ตุรกีมีศักยภาพ อาทิ อุตสาหกรรมการก่อสร้าง พลังงานทดแทน และการศึกษา โดยนายกรัฐมนตรีมีกำหนดการพบหารือกับนายกรัฐมนตรีตุรกี พร้อมร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามบันทึกความเข้าใจ ๓ ฉบับ การพบปะผู้นำภาคเอกชนระดับสูงของตุรกี การเยี่ยมชมโครงการพัฒนาอุโมงค์รถไฟ Marmaray การเยี่ยมชมมัสยิดสุลต่านอะห์เม็ต และการเยี่ยมชมตลาดแกรนด์บาซาร์
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีจะนำภาคเอกชนจากสภาธุรกิจ และสมาคม ในสาขาต่าง ๆ ได้แก่ สาขาอาหาร สาขาพลังงาน / เศรษฐกิจสีเขียว สาขาการท่องเที่ยวและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และ สาขาการก่อสร้างและอุตสาหกรรมยานยนต์ ร่วมเดินทางไปศึกษาดูงานเพื่อเปิดโอกาสและแสวงหาลู่ทางการลงทุนทั้งในโปแลนด์และตุรกีด้วย
รายละเอียดเพิ่มเติม ติดตามได้ที่เว็บไซด์สำนักโฆษก ทำเนียบรัฐบาล
วันทำการ : จันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.30 - 16.30 น.
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
งานรับ-ส่งหนังสือ และงานสารบรรณ:
อีเมล [email protected]
เว็บไซต์นี้ได้รับการออกแบบเพื่ออำนวยความสะดวกให้ทุกคนเข้าถึงเว็บไซต์ได้และมีมาตรฐาน WCAG 2.0 ระดับ AA
** เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุดควรใช้ Chrome เวอร์ชั่น 76 ขึ้นไป **