เมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้พบหารือทวิภาคีกับนายบ๊อบ คาร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลีย ในโอกาสการเยือนประเทศไทย ณ กระทรวงการต่างประเทศ โดยได้หารือเรื่องสืบเนื่องจากการเยือนออสเตรเลียอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๕ รวมทั้งแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์เกี่ยวกับพัฒนาการในภูมิภาคและประเด็นระหว่างประเทศ

รัฐมนตรีว่าการฯ กล่าวถึงพัฒนาการของความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและความเป็นหุ้นส่วนระหว่างไทยกับออสเตรเลีย โดยมีการเยือนและการหารือทวิภาคีระดับสูงในโอกาสต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง และยินดีกับนโยบายของออสเตรเลียที่จะเข้ามามีส่วนร่วมกับเอเชียมากยิ่งขึ้น ซึ่งหวังว่าจะช่วยเพิ่มการลงทุนในไทย รวมทั้งกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน และส่งเสริมการศึกษาของทั้งสองฝ่าย ซึ่งเป็นพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับออสเตรเลีย ปัจจุบันมีการจัดตั้ง Thai Town ในนครซิดนีย์ และความร่วมมือระหว่างโรงเรียนมัธยมไทยกับออสเตรเลีย

นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้แสดงความยินดีต่อการขยายตัวทางการค้าซึ่งเป็นผลจากความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย โดยในปี ๒๕๕๕ มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับออสเตรเลียคิดเป็น ๑๕,๒๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งรัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลียชื่นชมนโยบายของไทยในการสนับสนุนการลงทุนจากต่างประเทศ ตามที่ได้รับทราบจากผู้แทนภาคเอกชนออสเตรเลียในไทย

ในโอกาสเดียวกัน รัฐมนตรีว่าการฯ ได้กล่าวถึงนโยบายของไทยในการสนับสนุนประเทศในหมู่เกาะแปซิฟิก โดยเสนอให้ออสเตรเลียมีส่วนร่วมในความร่วมมือไตรภาคีเพื่อพัฒนาการเกษตรและประมง นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้เชิญนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลีย เข้าร่วมการประชุมผู้นำด้านน้ำแห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ครั้งที่ ๒ ที่จะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคม ที่จังหวัดเชียงใหม่ด้วย

อนึ่ง ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับพัฒนาการในภูมิภาคและประเด็นระหว่างประเทศที่อยู่ในความสนใจร่วมกัน อาทิ สถานการณ์ในทะเลจีนใต้ พัฒนาการในเมียนมาร์ ความสัมพันธ์กับประเทศมหาอำนาจ และความสัมพันธ์อาเซียน-ออสเตรเลีย รัฐมนตรีว่าการฯ กล่าวด้วยว่า ไทยสนับสนุนการจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ ในโอกาสครบรอบ ๔๐ ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-ออสเตรเลีย เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนทัศนะระหว่างผู้นำของอาเซียนและออสเตรเลียในการยกระดับความสัมพันธ์ในฐานะคู่เจรจาต่อไป