เมื่อวันที่ ๑ – ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ นาง Catarina de Albuquerque ผู้เสนอรายงานพิเศษว่าด้วยสิทธิในน้ำดื่มที่ปลอดภัยและสุขอนามัย (Special Rapporteur on the human right to safe drinking water and sanitation) ซึ่งเป็นกลไกพิเศษที่แต่งตั้งโดยคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (Human Rights Council – HRC) ได้เยือนประเทศไทยตามคำเชิญของรัฐบาล เพื่อรับทราบสถานการณ์เกี่ยวกับการจัดหาน้ำดื่มที่ปลอดภัยและงานด้านสุขอนามัยสำหรับคนไทย ปัญหาและอุปสรรคที่ประเทศไทยต้องเผชิญ รวมทั้งการทำงานของไทยที่อาจนำไปเป็นตัวอย่างได้
         
          ระหว่างการเยือน ผู้เสนอรายงานพิเศษฯ ได้พบผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งจากภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคประชาสังคม และเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่เพื่อหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ดูงานโครงการหลวง และในวันสุดท้ายของการเยือน ผู้เสนอรายงานพิเศษฯ ได้บรรยายสรุปแก่หน่วยงานไทย และแถลงข่าวผลการเยือนในเบื้องต้น
 
          รัฐบาลไทยตระหนักถึงความสำคัญของน้ำดื่มและสุขอนามัยของประชาชน โดยเห็นว่าเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน การจัดสรรน้ำดื่มที่ปลอดภัยและสุขอนามัยแก่ประชาชนของรัฐบาลตั้งอยู่บนพื้นฐานของการไม่เลือกปฏิบัติ และประเทศไทยได้มีพัฒนาการด้านนี้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าอาจมีปัญหาในการดำเนินการอยู่บ้างแต่มิใช่ปัญหาในเชิงนโยบาย ซึ่งรัฐบาลพร้อมรับฟังและพิจารณาข้อเสนอแนะของผู้เสนอรายงานพิเศษฯ เพื่อนำมาปรับปรุงการดำเนินงานต่อไป

          ขณะเดียวกัน รัฐบาลไทยเชื่อว่า ประเทศไทยมีแนวปฏิบัติที่ดีในด้านสิทธิในน้ำดื่มที่ปลอดภัยและสุขอนามัยหลายประการ ซึ่งผู้เสนอรายงานพิเศษฯ ได้มีโอกาสรับทราบด้วยตนเองระหว่างการเยือน และน่าจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศต่าง ๆ เนื่องจากการแลกเปลี่ยนบทเรียน ประสบการณ์ และแนวปฏิบัติที่ดีในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพของประเทศต่าง ๆ เพื่อปรับปรุงสถานการณ์สิทธิมนุษยชนภายในประเทศเหล่านั้น

          รัฐบาลไทยยินดีร่วมมือกับสหประชาชาติในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของบุคคลทุกกลุ่ม โดยในช่วงการนำเสนอรายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของประเทศไทยต่อคณะทำงาน Universal Periodic Review (UPR) ของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเมื่อเดือนตุลาคม ๒๕๕๔ นั้น ไทยได้ประกาศที่จะเชิญผู้เสนอรายงานพิเศษทุกคนมาเยือนไทย ดังนั้น การเยือนของผู้เสนอรายงานพิเศษว่าด้วยสิทธิในน้ำดื่มที่ปลอดภัยและสุขอนามัยในครั้งนี้ นอกจากเป็นการแสดงความโปร่งใสของรัฐบาลไทยในการดำเนินงานเพื่อจัดหาน้ำดื่มที่ปลอดภัยและสุขอนามัยแล้ว ยังแสดงความร่วมมืออันดีกับคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ในฐานะที่ไทยเป็นสมาชิกคณะมนตรีฯ ระหว่างปี ๒๕๕๓ – ๒๕๕๖ และจะสมัครรับเลือกตั้งอีกครั้งในวาระปี ๒๕๕๘ – ๒๕๖๐