การเตรียมการให้ความช่วยเหลือคนไทยในจีนกรณีโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ระบาดในจีน

การเตรียมการให้ความช่วยเหลือคนไทยในจีนกรณีโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ระบาดในจีน

วันที่นำเข้าข้อมูล 27 ม.ค. 2563

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 4,444 view
๑. วันนี้ (๒๗ ม.ค. ๒๕๖๓) กระทรวงการต่างประเทศเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมหารือในกรอบคณะทำงานศูนย์ประสานงานฉุกเฉิน (Rapid Response Center - RRC) โดยมีนายธนา เวสโกสิทธิ์ เป็นประธาน เพื่อประเมินสถานการณ์และเป็นการเตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือและอพยพคนไทยที่ได้รับผลกระทบในนครอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย และพื้นที่อื่น ๆ ในจีน
 
๒. นับตั้งแต่เกิดเหตุโรคระบาดในจีน รัฐบาลไทยและรัฐบาลจีน ได้หารือกันอย่างใกล้ชิด เกี่ยวกับการดูแลคนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศจีน ซึ่งรัฐบาลจีนให้ความมั่นใจว่าจะดูแลคนไทยอย่างดีที่สุด ขณะที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง ซึ่งรับผิดชอบดูแลนครอู่ฮั่น และมณฑลหูเป่ย ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจและได้ออกประกาศแจ้งข้อควรปฏิบัติให้คนไทยในนครอู่ฮั่น และเมืองใกล้เคียงหลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่ชุมชนแออัดที่อาจเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโรค และทราบถึงข้อควรปฏิบัติหากพบว่าตนเองป่วย พร้อมทั้งแจ้งหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง และสถานกงสุลใหญ่ไทยในจีน นอกจากนี้ สถานกงสุลใหญ่ไทยอื่น ๆ ในจีนอีก ๙ แห่ง ได้ออกประกาศในทำนองเดียวกันแล้ว ทั้งนี้ ข้อมูลปัจจุบัน มีคนไทยในนครอู่ฮั่นจำนวน ๖๔ คน และอยู่ในเมืองอื่นๆ ของมณฑลหูเป่ยอีก ๑๘ คน โดยส่วนใหญ่เป็นนักเรียนและนักศึกษา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างปิดภาคการศึกษา และปลอดภัย 
 
๓. ผลการประชุมของคณะทำงานศูนย์ประสานงานฉุกเฉิน (Rapid Response Center - RRC) ที่ประชุมคณะทำงานศูนย์ประสานงานฉุกเฉิน (Rapid Response Center - RRC)  เห็นว่า โดยที่ขณะนี้ทางการจีนมีการจำกัดการเข้าออกในพื้นที่ของนครอู่ฮั่นอย่างเด็ดขาด ซึ่งมาตรการนี้เป็นมาตรการที่จีนพยายามควบคุมพื้นที่การแพร่ระบาดของโรคฯ และยังไม่อนุญาตให้ประเทศใดเข้าไปในพื้นที่ได้ ที่ประชุมจึงได้จัดเตรียมซักซ้อมแนวทางการให้ความช่วยเหลือคนไทย รวมทั้งการเตรียมมาตรการทางสาธารณสุขภายในรองรับให้พร้อม หากได้รับการอนุญาตจากทางการจีนให้เข้าพื้นที่ได้ ทั้งนี้ ทางการไทยพร้อมที่จะให้การสนับสนุนสิ่งของจำเป็นในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคฯ ให้แก่จีน โดยจะหารือกับจีนในโอกาสแรกต่อไป