งานเลี้ยงรับรองเนื่องในโอกาสครบรอบ 45 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-จีน

งานเลี้ยงรับรองเนื่องในโอกาสครบรอบ 45 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-จีน

วันที่นำเข้าข้อมูล 21 ก.ย. 2563

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 28 พ.ย. 2565

| 1,742 view

          สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง จัดงานเลี้ยงรับรองเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 45 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและจีน เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2563 เวลา 17.00 น. ณ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง โดยมีนายหลัว จ้าวฮุย  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนเป็นแขกเกียรติยศ และผู้เข้าร่วมงานกว่า 120 คน ประกอบด้วย อดีตเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ผู้แทนระดับสูงจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนจีน มิตรประเทศไทยและสื่อมวลชนจีน

          ภายในงานมีงานเลี้ยงรับรอง การจัดนิทรรศการภาพถ่ายในช่วงการลงนามการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและจีน การเปิดตัวนิตยสารฉบับพิเศษซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ร่วมกับนิตยสาร Lookwe จัดทำขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์ไทย-จีน โดยเนือหาครอบคลุมความเป็นมาของความสัมพันธ์ไทย-จีน โอกาสการค้าและการลงทุนในไทย รวมถึงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของไทย นอกจากนี้ ยังมีการแสดงดนตรีคลาสสิกโดยวงดนตรี Amber Quartet จากวิทยาลัยดนตรีกลางของจีน การแสดงนาฏศิลป์ไทย และการออกซุ้มโดยผู้ประกอบการไทยที่จำหน่ายสินค้าไทยในจีน

          นายอรรถยุทธ์ ศรีสมุทร เอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง ได้กล่าวสุนทรพจน์เปิดงาน มีใจความสำคัญว่า ประเทศไทยและจีนมีความสัมพันธ์มาอย่างยาวนาน ประชาชนของทั้งสองประเทศมีความไว้เนื้อเชื่อใจและสนับสนุนเกื้อกูลกันมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในวิกฤตการณ์ล่าสุดของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นถึงสายใยและน้ำใจที่พี่น้องชาวไทยและชาวจีน นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เป็นประมุขของรัฐต่างชาติประเทศแรกๆ ที่ได้ทรงพระราชทานเวชภัณฑ์ทางการแพทย์มาช่วยเหลือชาวอู่ฮั่น  และเมื่อการแพร่ระบาดลุกลามไปยังไทย รัฐบาลจีนและภาคประชาสังคมจีนได้บริจาคสิ่งของและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ให้แก่ฝ่ายไทยจำนวนมาก นอกจากนี้ ที่ผ่านมา ทั้งสองประเทศได้เพิ่มพูนความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนอย่างทวีคูณ ซึ่งภารกิจสำคัญก้าวต่อไปคือ การส่งเสริมการเชื่อมโยงยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศของไทย เช่น นโยบายประเทศไทย 4.0 และEEC กับข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีนให้คืบหน้ามีผลเป็นรูปธรรมเพื่อประโยชน์ของทั้งสองประเทศและภูมิภาคต่อไป  

                   อนึ่ง ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช นายกรัฐมนตรี และนายโจว เอินไหล นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีนในขณะนั้น ร่วมลงนามในแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2518 และต่อมา ทั้งสองประเทศได้ยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นเป็น “หุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน” เมื่อปี 2555 อย่างไรก็ดี ทั้งสองประเทศได้มีการติดต่อสัมพันธ์มาอย่างยาวนานกว่า 700 ปี ตั้งแต่ในสมัยสุโขทัยของไทย และราชวงศ์หยวนของจีน จึงทำให้ในปัจจุบัน ประชาชนของทั้งสองประเทศมีความใกล้ชิดกันอย่างลึกซึ้ง จนมีคำกล่าวที่ว่า จีนไทย ใช่อื่นไกลพี่น้องกัน

 

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ