กงสุลใหญ่ฯ กล่าวเปิดงานสัมมนา “ Thailand Investment Opportunity Seminar” เพื่อเชิญชวนภาคเอกชนจีนไปลงทุนที่ประเทศไทย

กงสุลใหญ่ฯ กล่าวเปิดงานสัมมนา “ Thailand Investment Opportunity Seminar” เพื่อเชิญชวนภาคเอกชนจีนไปลงทุนที่ประเทศไทย

วันที่นำเข้าข้อมูล 10 ก.ย. 2564

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 4,150 view

             เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2564 นายพีระวัฒน์ อัศวปรานี กงสุลใหญ่ ณ เมืองเซี่ยเหมิน กล่าวเปิดงานสัมมนา “Thailand Investment Opportunity Seminar” จัดโดยสำนักงานเศรษฐกิจการลงทุนประจำนครกว่างโจว ร่วมกับคณะกรรมการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเมืองเซี่ยเหมิน (China Council for the Promotion of International Trade Xiamen Committee หรือ CCPIT Xiamen) ในระหว่างการจัดงานนิทรรศการการค้าและการลงทุนนานาชาติเมืองเซี่ยเหมิน ประจำปี ค.ศ. 2021 (China International Fair for Investment and Trade 2021 – CIFIT) ณ ศูนย์การประชุมและนิทรรศการนานาชาติเมืองเซี่ยเหมิน โดยมีผู้เข้าร่วมภายในงานและผ่านระบบออนไลน์รวมกว่า 100 คน ครอบคลุมวิสาหกิจกว่า 70 แห่ง
               กงสุลใหญ่ฯ กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงของบริบทโลกจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก กอปรกับผลกระทบจากการแข่งขันทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ทำให้หลายประเทศ รวมถึงจีนจำเป็นต้องสร้างความหลากหลายในการลงทุนและกระจายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่น และไทยเป็นประเทศที่เหมาะแก่การลงทุนเนื่องจากศักยภาพด้านสาธารณสุข อุตสาหกรรมอาหาร และปัจจัยเอื้อต่อการลงทุนหลายประการ เช่น ความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะในเขต EEC อาทิ การให้บริการประมวลผลบนระบบคลาวด์ การพัฒนาบล็อกเชน และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5G เชื่อมโยงโลจิสติกส์ระหว่างประเทศทั้งทางบก ทางน้ำ ทางรางและทางอากาศกับตลาดอาเซียน และในอนาคตจะขยายโอกาสการค้าและการลงทุนภายใต้ RCEP ที่มีประชากรกว่า 2,200 คน นอกจากนั้น ด้านนโยบายการส่งเสริมการค้าและลงทุนของไทยและจีนมีความสอดคล้องกันหลายประการ โดยไทยส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืน เศรษฐกิจ BCG และส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่จีนมีความเชี่ยวชาญ เช่น ดิจิทัล AI อิเล็กทรอนิกส์อัจริยะ ยานยนต์พลังงานสะอาด และเชื้อเพลิงชีวภาพ เป็นต้น ซึ่งความร่วมมือเหล่านี้จะนำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของทั้งสองประเทศ

               อนึ่ง สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้มีบทบาทในการสร้างความเชื่อมโยงระหว่าง EEC-BRI ผ่านการผลักดันการจัดทำความร่วมมือท่าเรือพี่น้อง (sister ports) ระหว่างท่าเรือเซี่ยเหมินกับท่าเรือแหลมฉบังในเขต EEC ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความเชื่อมโยงด้านโลจิสติกส์ระหว่างไทยกับจีน และเป็นโอกาสของจีนในการใช้ประโยชน์เพื่อเข้าถึงตลาดอาเซียนมากขึ้น

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ