ไทย-เวียดนาม ส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่เข้มแข็งในทุกมิติ

ไทย-เวียดนาม ส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่เข้มแข็งในทุกมิติ

วันที่นำเข้าข้อมูล 27 ก.พ. 2568

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 27 ก.พ. 2568

| 2,385 view

เมื่อวันที่ 23-25 กุมภาพันธ์ 2568 นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเป็นทางการครั้งแรก ตามคำเชิญของนายบุ่ย แทงห์ เซิน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม

ในระหว่างการเยือนดังกล่าว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เข้าเยี่ยมคารวะนายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม และหารือทวิภาคีกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ทั้งสองฝ่ายต่างมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่เข้มแข็ง (Strengthened Strategic Partnership) ในทุกมิติ โดยได้หารือแนวทางการยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้าน (Comprehensive Strategic Partnership) เพื่อเตรียมการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี ควบคู่กับการจัดประชุมคณะรัฐมนตรีรวมอย่างไม่เป็นทางการไทย-เวียดนาม ครั้งที่ 4 ในอนาคตอันใกล้ 

ในด้านความร่วมมือทางการเมืองและความมั่นคง ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะสนับสนุนการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูง การปรึกษาหารือ และประสานความร่วมมือกันระหว่างเหล่าทัพและหน่วยงานความมั่นคงของทั้งสองประเทศ ทั้งสองฝ่ายยังมุ่งมั่นที่จะร่วมกันจัดการปัญหาข้ามชาติ โดยเฉพาะยาเสพติด การฉ้อโกงออนไลน์ และการบริหารจัดการน้ำ ทั้งในกรอบความร่วมมือทวิภาคีและกรอบความร่วมมือในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงที่เกี่ยวข้อง

ในด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน โดยยินดีต่อมูลค่าการค้าทวิภาคีที่สมดุลยิ่งขึ้น และมุ่งมั่นที่เพิ่มพูนการอำนวยความสะดวกและการส่งเสริมทางการค้าเพื่อบรรลุเป้าหมายการค้าทวิภาคีที่ 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในโอกาสนี้ ฝ่ายเวียดนามได้ขอบคุณนักลงทุนไทยที่เข้ามาลงทุนในเวียดนาม และคงยืนยันจะให้การสนับสนุนการลงทุนไทยอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน ฝ่ายไทยได้เชิญชวนฝ่ายเวียดนามให้ลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น

ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อนำยุทธศาสตร์การเชื่อมโยง 3 ด้าน (Three Connects) ไปขับเคลื่อนในการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน เศรษฐกิจท้องถิ่น และการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน ของทั้งสองประเทศเข้าด้วยกัน โดยแผนปฏิบัติการดังกล่าวจะให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ของทั้งสองประเทศ อาทิ โลจิสติกส์ ปิโตรเคมี พลังงานหมุนเวียน ธนาคาร และการค้าปลีก

ในด้านความร่วมมือระดับประชาชน ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนในด้านการท่องเที่ยว วัฒนธรรม และการศึกษา โดยในด้านการท่องเที่ยว ทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติภายใต้ข้อริเริ่ม “Six Countries, One Destination” (6C1D) และร่วมกันพิจารณาโครงการการท่องเที่ยวร่วมกัน อาทิ การเพิ่มเที่ยวบินและการท่องเที่ยวเรือสำราญระหว่างไทย กัมพูชา มาเลเซีย และเวียดนาม นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายจะสนับสนุนส่งเสริมการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรมและการศึกษา และส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาไทยในเวียดนามและภาษาเวียดนามในสถาบันการศึกษาของแต่ละฝ่าย เพื่อส่งเสริมความเข้าใจในกลุ่มเยาวชน

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในระดับภูมิภาคและอนุภูมิภาค โดยเฉพาะภายใต้กรอบความร่วมมือแม่โขงและกลไกอาเซียน เพื่อร่วมมือกันแก้ไขปัญหาข้ามแดนและส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยังได้พบหารือกับนักธุรกิจจากหอการค้าและอุตสาหกรรมไทยในเวียดนาม (ThaiCham) เกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมความเชื่อมโยงทางธุรกิจระหว่างไทย-เวียดนาม

ในระหว่างการเยือนครั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยังได้เข้าร่วมงาน ASEAN Future Forum ครั้งที่ 2 โดยได้แลกเปลี่ยนมุมมองของไทยในการขับเคลื่อนประชาคมอาเซียนในอนาคต ทั้งนี้ ในช่วงงานดังกล่าว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้พบหารือทวิภาคีกับนายปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชา และได้ให้นายซุน เว่ยตง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน เข้าเยี่ยมคารวะด้วย

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ