วันที่นำเข้าข้อมูล 4 ส.ค. 2564
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พบหารือกับรองประธานาธิบดีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสมาพันธรัฐสวิส ระหว่างการเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ย้ำมิตรภาพที่ยาวนาน ๙๐ ปี ระหว่างไทยกับสมาพันธรัฐสวิส หารือความร่วมมือด้านสาธารณสุข เชิญชวนให้บริษัทสวิสเข้ามาลงทุนในไทย เร่งรัดการจัดทำความตกลงการค้าเสรี การพัฒนาที่ยั่งยืน การกงสุล และการแลกเปลี่ยนระดับประชาชน
เมื่อวันที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๖๔ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศพบหารือทวิภาคีกับนายอิกนาซิโอ กัสซิส (H.E. Mr. Ignazio Cassis) รองประธานาธิบดีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสมาพันธรัฐสวิส ณ กระทรวงการต่างประเทศ ในโอกาสเยือนไทยอย่างเป็นทางการ
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และรองประธานาธิบดีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสมาพันธรัฐสวิส ได้ย้ำถึงมิตรภาพระหว่างไทยกับสมาพันธรัฐสวิสที่ครบรอบ ๙๐ ปีในปี ๒๕๖๔ โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะเสริมสร้างการปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันทั้งในระดับทวิภาคีและภูมิภาค รวมทั้งหารือถึงแนวทางในการส่งเสริมความร่วมมือในประเด็นที่รัฐบาลทั้งสองประเทศให้ความสำคัญร่วมกัน
ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องถึงความสำคัญของความร่วมมือด้านสาธารณสุขและการรับมือกับการแพร่ระบาด
ของโควิด-๑๙ โดยฝ่ายไทยได้เชิญชวนให้ฝ่ายสวิสเข้ามาลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการผลิตวัคซีนโควิด-๑๙ และขอบคุณที่รัฐบาลสวิสได้มอบเครื่องช่วยหายใจ จำนวน ๑๐๒ เครื่อง และชุดตรวจหาเชื้อโควิด-๑๙ แบบเร็ว (Rapid Antigen Test) จำนวน ๑.๑ ล้านชุดให้รัฐบาลไทยระหว่างการเยือนในครั้งนี้
ผลความสำเร็จที่สำคัญคือ ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงการส่งเสริมการค้าการลงทุนเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังการระบาดของโควิด-๑๙ การส่งเสริมการท่องเที่ยว การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นประเด็นที่รัฐบาลทั้งสองประเทศให้ความสำคัญ รวมถึงการผลักดันความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมในกรอบนโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green (BCG) Economy) ของรัฐบาลไทย โดยเฉพาะในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC)
ในด้านการทูตสาธารณะ ฝ่ายไทยและฝ่ายสวิสยังได้หารือเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนระดับประชาชน ซึ่งชุมชนสวิสในไทยมีจำนวนกว่า ๑๕,๐๐๐ คน และใหญ่เป็นอันดับต้นในเอเชีย และชุมชนไทยในสมาพันธรัฐสวิส มีจำนวนกว่า ๓๖,๐๐๐ คน และใหญ่เป็นอันดับต้นในยุโรป นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบที่จะจัดตั้งกลไกการปรึกษาหารือด้านการกงสุลระหว่างกัน และได้มีการลงนามความตกลงเพื่อตั้งกลไกดังกล่าวที่กระทรวงการต่างประเทศในโอกาสการเยือนไทยครั้งนี้ ซึ่งเป็นกลไกการหารือด้านกงสุลกลไกแรกของไทย
การเยือนไทยอย่างเป็นทางการของรองประธานาธิบดีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสมาพันธรัฐสวิสในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการฉลองการครบรอบ ๙๐ ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับสมาพันธรัฐสวิส โดยกระทรวงการต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบิร์น
และสถานเอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย ได้จัดกิจกรรมเพื่อฉลองโอกาสดังกล่าวตลอดทั้งปี โดยล่าสุดได้ร่วมกับสมาคมภาพถ่ายแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดการประกวดภาพถ่ายภายใต้หัวข้อ “๙๐ ปี ความสัมพันธ์ไทย-สวิส คิดถึงกันเสมอ” และได้จัดการมอบรางวัลแก่ผู้ชนะเลิศที่กระทรวงการต่างประเทศหลังการพบหารือทวิภาคีดังกล่าว ทั้งนี้ ภาพถ่ายที่ได้รับการคัดเลือกได้รับการจัดแสดงบนนิทรรศการออนไลน์ ที่ https://artspaces.kunstmatrix.com/node/7419601
ในการเยือนครั้งนี้ รองประธานาธิบดีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสมาพันธรัฐสวิสยังได้
เข้าเยี่ยมคารวะพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รวมทั้งได้พบหารือกับนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วย
ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสมาพันธรัฐสวิสในบริบทปกติวิถีใหม่ทวีความเข้มแข็งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
การเยือนไทยในท่ามกลางความท้าทายจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-๑๙ เป็นการเยือนไทยของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจากภูมิภาคยุโรปประเทศแรกในปี ๒๕๖๔ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของรัฐบาลสมาพันธรัฐสวิสต่อประเทศไทย และความห่วงใยฉันมิตรประเทศที่มีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นในหลากหลายมิติและในทุกระดับ
รูปภาพประกอบ
วันทำการ : จันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.30 - 16.30 น.
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
งานรับ-ส่งหนังสือ และงานสารบรรณ:
อีเมล [email protected]
เว็บไซต์นี้ได้รับการออกแบบเพื่ออำนวยความสะดวกให้ทุกคนเข้าถึงเว็บไซต์ได้และมีมาตรฐาน WCAG 2.0 ระดับ AA
** เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุดควรใช้ Chrome เวอร์ชั่น 76 ขึ้นไป **