เมื่อวันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๖๘ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงสตอกโฮล์ม ได้จัดงานเลี้ยงรับรองเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ ๕ ธันวาคม ๒๕๖๘ ณ โรงแรม Sheraton Stockholm โดยมีผู้เข้าร่วมงานกว่า ๑๒๐ คน ประกอบด้วยคณะทูตานุทูตและบุคคลสำคัญในสวีเดน รวมถึงเครือข่ายภาคราชการ สมาชิกรัฐสภาสวีเดน การปกครองท้องถิ่น การศึกษา และภาคธุรกิจในสวีเดน พร้อมข้าราชการสถานเอกอัครราชทูต สำนักงานผู้ช่วยทูตทหารฯ สำนักงาน BOI และครอบครัว

เอกอัครราชทูต อรุณรุ่ง โพธิ์ทอง ฮัมฟรีย์ส ได้กล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติที่เข้าร่วมงาน โดยรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จากนั้นได้เชื้อเชิญให้ผู้เข้าร่วมงานร่วมกับคนไทยถวายอาลัยแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้วยการยืนสงบนิ่งและร่วมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณโดยการรับชมวิดีทัศน์เฉลิมพระราชกรณียกิจด้านการต่างประเทศ และพระราชานุเคราะห์ในการสร้างอัตลักษณ์วัฒนธรรมไทย เอกอัครราชทูตฯ ได้กล่าวย้ำถึงความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างไทยกับสวีเดนที่ริเริ่มจากความร่วมมือระหว่างกันด้านพาณิชย์และการศึกษาตั้งแต่ปี ๒๔๑๑ ซึ่งในปี ๒๕๖๘ นี้ได้ยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกัน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยและสวีเดนได้ลงนามเอกสาร Strategic Partnership เมื่อวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๘ ที่ผ่านมา รวมถึงการทำสัญญาจัดซื้อเครื่องบินขับไล่กริพเพ่นของสวีเดนโดยกองทัพอากาศไทย ซึ่งเป็นหมุดหมายที่สะท้อนค่านิยม ความมุ่งมั่น และความเชื่อมั่นที่มีร่วมกันในการสร้างอนาคตความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ครอบคลุม สร้างสรรค์ และยั่งยืน

นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตฯ ยังได้กล่าวถึงภารกิจของสถานเอกอัครราชทูตฯ ที่สะท้อนความสัมพันธ์อันดีในปี ๒๕๖๘ ที่ผ่านมาซึ่งครอบคลุมในทุกมิติทั้งด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับประชาชน รวมถึงการสนับสนุนความเข้มแข็งของชุมชนไทยทั่วสวีเดน

นาย Mikael Lindvall ตำแหน่ง Director General Global Affairs ของกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน ในฐานะแขกเกียรติยศได้กล่าวสุนทรพจน์เห็นพ้องกับเอกอัครราชทูตฯ ถึงการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างไทยและสวีเดน ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสวีเดนที่มีมาอย่างยาวนานในมิติประชาชนกับประชาชน และการค้า โดยการยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างไทยและสวีเดนสะท้อนถึงความร่วมมือและความมุ่งมั่นที่ไทยและสวีเดนจะแสวงหาสิ่งที่เป็นประโยน์ร่วมกันอย่างครอบคลุมในหลายมิติ เช่น การเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียว การเพิ่มการลงทุนในภาคเกษตรและป่าไม้ พลังงานทดแทน การป้องกันประเทศ การแพทย์ การผลิต อิเล็กทรอนิกส์ หุ่นยนต์ อวกาศ การขนส่ง และการสื่อสาร เป็นต้น โดยหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ดังกล่าวจะเป็นเครื่องกำหนดอนาคตให้กับโลกและคนรุ่นหลังต่อไป นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ ด้านการป้องกันประเทศเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจอย่างยิ่งซึ่งเห็นได้จากการที่กองทัพอากาศไทยจัดซื้อเครื่องบินขับไล่จากสวีเดน โดยตนขอขอบคุณที่กองทัพอากาศไทยให้ความไว้ใจอย่างสูงต่อสวีเดนและบริษัท SAAB

ทั้งนี้ ในงานเลี้ยงดังกล่าว สถานเอกอัครราชทูต ได้จัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติการเสด็จพระราชดำเนินเยือนสวีเดนของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในปี ๒๕๐๓ ซึ่งสร้างความปิติซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้เข้าร่วมงาน โดยบรรยากาศงานเลี้ยงเปี่ยมไปด้วยความสง่างามสมความเป็นไทย