สรุปแถลงข่าวประจำสัปดาห์ โดยอธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ วันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๗

สรุปแถลงข่าวประจำสัปดาห์ โดยอธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ วันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๗

วันที่นำเข้าข้อมูล 16 พ.ค. 2567

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 16 พ.ค. 2567

| 2,871 view

สรุปแถลงข่าวประจำสัปดาห์

โดยอธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ

วันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๗ ณ ห้องแถลงข่าว กระทรวงการต่างประเทศ และ Facebook live

 

๑. ภารกิจการเยือนต่างประเทศของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

  • ระหว่างวันที่ ๑๕ - ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๗ นายกรัฐมนตรีจะนำคณะเดินทางเยือนฝรั่งเศส เยือนอิตาลีอย่างเป็นทางการ และเยือนญี่ปุ่น โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศร่วมคณะด้วย
  • ในช่วงวันที่ ๑๕ - ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๗ นายกรัฐมนตรีได้นำคณะธุรกิจไทยเข้าร่วมงาน Thailand - France Business Forum & Roundtable ที่กรุงปารีส เพื่อส่งเสริมการค้าระหว่างกันและสนับสนุนให้ภาคเอกชนฝรั่งเศสเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น อีกทั้งนายกรัฐมนตรีจะพบหารือกับนายเอมานูว์แอล มาครง (E. Mr. Emmanuel Macron) ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เพื่อติดตามผลความร่วมมือระหว่างกัน โดยเฉพาะการยกระดับความสัมพันธ์ไทย - ฝรั่งเศสสู่หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ตามที่แผนการดำเนินความสัมพันธ์ไทย - ฝรั่งเศส ค.ศ. ๒๐๒๒ - ๒๐๒๔ ด้วย
  • การเยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๖๗ ส่งผลให้เกิดความคืบหน้า ที่เป็นรูปธรรมหลายประการ อาทิ ผู้แทนบริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ที่จัดการแข่งขัน Formula E ได้เดินทางมาไทยเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดการแข่งขันในจังหวัดเชียงใหม่ และผู้อำนวยการใหญ่และ CEO ของ Comité Colbert ได้เดินทางมาไทยเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการยกระดับมูลค่าสินค้าไทย พัฒนาความสามารถดีไซเนอร์ และแฟชั่นชั้นสูงที่ฝ่ายไทยมีศักยภาพ
  • ในช่วงวันที่ ๑๗ - ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๗ นายกรัฐมนตรีจะเดินทางเยือนอิตาลีอย่างเป็นทางการ โดยจะพบหารือกับนางจอร์จา เมโลนี (E. Mrs. Giorgia Meloni) นายกรัฐมนตรีอิตาลี เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านพลังงานหมุนเวียน การท่องเที่ยวเชิงกีฬา วิทยาศาสตร์การแพทย์และเภสัชกรรม และกลาโหม มุ่งผลักดันการยกเว้นวีซ่าเชงเกนและความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย - สหภาพยุโรป ให้สามารถสรุปภายในปี ๒๕๖๘ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีจะพบหารือกับผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนของอิตาลีด้วย อาทิ ผู้ว่าการแคว้นลอมบาร์เดีย ซึ่งเป็นแคว้นที่สำคัญที่สุดด้านเศรษฐกิจของอิตาลี และเป็นศูนย์กลางด้านแฟชั่นและการออกแบบระดับโลก
  • ในช่วงวันที่ ๑๗ - ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๗ นายกรัฐมนตรีจะเดินทางเยือนญี่ปุ่น เพื่อกล่าวปาฐกถาแสดงวิสัยทัศน์ด้านเศรษฐกิจของไทย ภายใต้หัวข้อ “Asian Leadership in an Uncertain World” (การเป็นผู้นำของเอเชียในบริบทโลกที่มีความผันผวน) ที่งาน Nikkei Forum Future of Asia ครั้งที่ ๒๙ ที่กรุงโตเกียว รวมถึงจะใช้โอกาสนี้หารือกับภาคเอกชนรายใหญ่ของญี่ปุ่นเพื่อดึงดูดการลงทุนมายังประเทศไทยด้วย

 

๒. ผลการเยี่ยมชายแดนด่านสิงขรของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

  • เมื่อวันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๗ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ลงพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปและหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจบริเวณจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขรจากส่วนราชการและภาคเอกชนในพื้นที่ โดยได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการยกระดับจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขรเป็นจุดผ่านแดนถาวร เพื่อเพิ่มทางเลือกในการขนส่งสินค้าข้ามแดนให้แก่ผู้ประกอบการและช่วยผลักดันให้มูลค่าการค้าชายแดนระหว่างไทยกับเมียนมาเพิ่มขึ้นท่ามกลางสถานการณ์สู้รบในเมียนมา
  • นอกจากนี้ รัฐมนตรีฯ ยังได้หารือกับภาคเอกชนในพื้นที่เกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมศักยภาพทางเศรษฐกิจของจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร โดยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพืี่อรองรับการเป็นจุดเปลี่ยนถ่ายสินค้าจากเมียนมาไปยังประเทศที่สาม และการอำนวยความสะดวกด้านกฎระเบียบและเอกสารเพื่อสนับสนุนการประกอบธุรกิจ การท่องเที่ยว และการศึกษา
  • รัฐมนตรีฯ ได้เดินทางไปตรวจภูมิประเทศบริเวณจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขรและพบว่า ด่านสิงขรมีศักยภาพทางเศรษฐกิจทั้งในด้านการขนส่งสินค้าและในด้านช่องทางการติดต่อเชื่อมโยงในระดับประชาชนของทั้งสองประเทศ โดยด่านสิงขร - มอต่อง โดยในปี ๒๕๖๖ ด่านสิงขร - มอต่องมีมูลค่าการค้าชายแดนทั้งหมด ๓๗.๘ ล้านบาท อันดับสามรองจากด่านแม่สอด - เมียวดี และด่านบ้านพุน้ำร้อน - ทิกิจ สามารถพัฒนาให้กลายเป็นจุดผ่านแดนถาวรเพื่อเป็นประตูเศรษฐกิจระหว่างไทยกับเมียนมาที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง

 

๓. การเป็นเจ้าภาพการประชุม FIFA Congress ของไทย

  • ระหว่างวันที่ ๑๓ - ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๗ ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุม FIFA Congress ครั้งที่ ๗๔ ประจำปี ๒๐๒๔ ซึ่งเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำองค์กรฟุตบอลจากทั่วโลก โดยมีวาระสำคัญหลายประการ อาทิ การลงคะแนนเลือกเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก ๒๐๒๗
  • การเป็นเจ้าภาพจัดงานในครั้งนี้เป็นบูรณาการระหว่างสำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (TCEB) กับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งเป็นเจ้าภาพฝ่ายไทย โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้สนับสนุนผ่านการยื่นประมูลสิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดงานฯ ทำให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพประเทศแรกในภูมิภาคอาเซียน และเป็นประเทศที่ ๕ ในเอเชียต่อจากประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ กาตาร์ และออสเตรเลีย
  • การประชุม FIFA Congress ครั้งนี้ส่งผลดีต่อประเทศไทยในหลากหลายมิติ อาทิ (๑) การสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยว (๒) การประชาสัมพันธ์และส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยว วัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตคนไทย (๓) การสร้างโอกาสให้เด็กและเยาวชนไทยร่วมกิจกรรมกับ FIFA ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ Football without Boundaries ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน
  • กระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะกรรมการจัดการประชุมฯ ได้ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ทั้งการอำนวยความสะดวกด้านการตรวจลงตราให้แก่ผู้เข้าร่วม การต้อนรับแขกสำคัญตามหลักพิธีการทูต และการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการประชุมฯ ซึ่งถือเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ของไทยและสนับสนุนนโยบาย Soft Power ของไทยควบคู่ไปด้วย

 

๔. งานเทศกาลไทยที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

  • เมื่อวันที่ ๑๑ - ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๗ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ได้จัดเทศกาลไทย ณ กรุงโตเกียว ครั้งที่ ๒๔ ณ สวนโยโยงิ กรุงโตเกียว โดยนายวิชชุ เวชชาชีวะ เอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว เป็นประธานเปิดงาน แขกเกียรติยศ ได้แก่ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพาณิชย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น และประธานบอร์ดการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
  • เทศกาลไทย ณ กรุงโตเกียว ในปีนี้ จัดขึ้นภายใต้ธีม Thai Entertainment หรือ Thai En-ta-me นำเสนออุตสาหกรรมบันเทิงไทยอย่างครอบคลุม รวมถึงภาพยนตร์ ละคร ซีรีส์ และดนตรี ซึ่งเป็นจุดแข็งใหม่ของไทยที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจากสาธารณชนญี่ปุ่น โดยมีกิจกรรมเด่น ได้แก่ นิทรรศการ Thai En-ta-me-Land การแสดงของกลุ่มศิลปิน T-Pop การแสดงนาฏศิลป์ไทย และการจัดแสดงสินค้าจาก “โครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก” ในพระดำริของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่เปิดตัวในต่างประเทศเป็นครั้งแรก
  • ปีนี้ ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวไทยที่มาร่วมงานเองและผ่าน social media อาหารไทยในงานได้รับความนิยมอย่างยิ่ง และชาวญี่ปุ่นจำนวนมากชื่นชอบศิลปินไทย ดังเห็นได้จากยอด impression ทาง X (Twitter) ซึ่งมีมากกว่า ๒.๖๔ ล้านครั้ง และ #ThaiFestivalTokyo2024 ได้รับการกล่าวถึงอย่างแพร่หลาย
  • เทศกาลไทยในกรุงโตเกียวเป็นหนึ่งในเทศกาลไทยในต่างประเทศที่สำคัญและใหญ่ที่สุด จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี ๒๕๔๓ (๒๕ ปีที่แล้ว) ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากชาวญี่ปุ่น จนกลายเป็นเทศกาลต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดของกรุงโตเกียว ปัจจุบัน มีผู้เข้าร่วมกว่า ๓ แสนคนต่อปี

 

รับชมย้อนหลังได้ที่: https://www.facebook.com/share/v/Dv5G2pjYSxj9wPN7/

 

* * * * *

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ

เอกสารประกอบ

การแถลงข่าวประจำสัปดาห์_16-5-24.pdf