สรุปการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ วันพุธที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ เวลา ๑๓.๓๐ น. ทาง Facebook Live กระทรวงการต่างประเทศ

สรุปการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ วันพุธที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ เวลา ๑๓.๓๐ น. ทาง Facebook Live กระทรวงการต่างประเทศ

วันที่นำเข้าข้อมูล 11 ก.พ. 2565

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 2,832 view

สรุปการแถลงข่าวประจำสัปดาห์

วันพุธที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ เวลา ๑๓.๓๐ น.

ทาง Facebook Live กระทรวงการต่างประเทศ

 

. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินร่วมในพิธีเปิดมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ครั้งที่ ๒๔ ณ กรุงปักกิ่ง (- ก.พ. ๒๕๖๕)

  • สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และได้ทรงเข้าร่วมพิธีเปิดมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ครั้งที่ ๒๔ ณ กรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ ๔ ก.พ. ๒๕๖๕ ณ สนามกีฬาแห่งชาติ กรุงปักกิ่ง
  • โดยช่วงเช้าวันที่ ๔ ก.พ. ๒๕๖๕ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ ได้พระราชทานพระราชวโรกาสให้นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทและถวายพระกระยาหารเช้า ณ เรือนรับรองรัฐบาลเตี้ยวหยูไถ ก่อนจะเสด็จฯ กลับไทยในวันที่ ๕ ก.พ. ๒๕๖๕ โดยในระหว่างประทับที่จีน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง และคณะข้าราชการเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง ได้ถวายการรับเสด็จฯ ตลอดหมายกำหนดการ            
  • สำหรับในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวครั้งนี้ ประเทศไทยส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด ๔ คน ได้แก่
    (๑) นายมรรค จันเหลือง นักกีฬาสกีครอสคันทรีชาย (มีกำหนดแข่งขันวันที่ ๖ ก.พ. และ ๑๑ ก.พ.)
    (๒) น.ส. คาเรน จันเหลือง นักกีฬาสกีครอสคันทรีหญิง (มีกำหนดแข่งขันวันที่ ๑๐ ก.พ.)

    (๓) นายนิโคลา ซานอน นักกีฬาสกีอัลไพน์ชาย (มีกำหนดแข่งขันวันที่ ๑๓ ก.พ. และ ๑๖ ก.พ.)
    (๔) น.ส. มิดา ฟ้า ใจมั่น นักกีฬาสกีอัลไพน์หญิง (มีกำหนดแข่งขันวันที่ ๗ ก.พ. และ ๙ ก.พ.)
  • ในอาเซียนมี ๓ ประเทศที่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันคือ ไทย มาเลเซียและฟิลิปปินส์ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง ได้ร่วมอำนวยความสะดวกให้กับนักกีฬา และคณะเจ้าหน้าที่ของไทย ขอเชิญชวนให้ชาวไทยทุกท่านร่วมส่งกำลังใจเชียร์นักกีฬาทีมชาติไทยของเราในครั้งนี้ด้วย
  • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยคณะผู้บริหารคณะกรรมการโอลิมปิคประเทศไทย และการกีฬาแห่งประเทศไทย ก็ได้เดินทางเยือนประเทศจีน เพื่อเข้าร่วมพิธีเปิดฯ และเยี่ยมให้กำลังใจนักกีฬาทีมชาติไทย รวมทั้งเข้าพบหารือกับนายโก่ว จงเหวิน รัฐมนตรีว่าการทบวงการกีฬาแห่งชาติจีน และประธานคณะกรรมการโอลิมปิกจีน ฝ่ายไทยได้แสดงความชื่นชมการบริหารจัดการของจีนที่สามารถนำเทคโนโลยี มาใช้แทนกำลังคน เป็นการลดการสัมผัส ช่วยควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ ในหมู่นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ นอกจากนั้น ยังได้หารือกันถึงความร่วมมือและแลกเปลี่ยนด้านกีฬาระหว่างไทย-จีน ซึ่งประเทศจีนเป็นหนึ่งในประเทศที่ไทยทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ในการผลักดันกีฬามวยไทยไปสู่การแข่งขันระดับสากลด้วย

. การติดตามผลการเยือนซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี

  • กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้กำหนดแผนปฏิบัติการเพื่อส่งเสริมความร่วมมือกับซาอุดีฯ ในสาขาต่าง ๆ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมมากที่สุด ซึ่งแบ่งเป็นด้านต่าง ๆ ดังนี้

ด้านการทูตและการเมือง

  • ในระหว่างการเยือนซาอุดีฯ นายกรัฐมนตรีได้กราบบังคมทูลเชิญเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด (HRH Prince Mohammad bin Salman bin Abdulaziz Al Saud) มกุฎราชกุมารฯ แห่ง ซาอุดีฯ เยือนไทย ซึ่งพระองค์ทรงรับคำเชิญจากนายกรัฐมนตรีในการเสด็จเยือนประเทศภายในปี ๒๕๖๕ ทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะกระทรวงการต่างประเทศจะประสานการเยือนอย่างใกล้ชิดต่อไป
  • วันที่ ๑๑ ก.พ. ๒๕๖๕ กระทรวงการต่างประเทศจะจัดประชุมหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อร่วมกันกำหนดทิศทางและแนวทางการดำเนินการเพื่อส่งเสริมความร่วมมือกับซาอุดีฯ ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งจะจัดที่กระทรวงการต่างประเทศ
  • นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการแต่งตั้งเอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด คนแรกในรอบ ๓๒ ปี และอยู่ในระหว่างการจัดตั้งกลไกหารือทวิภาคี ๒ ระดับ ได้แก่ระดับคณะทำงานหรือเจ้าหน้าที่อาวุโส และระดับรัฐมนตรีในรูปแบบคณะกรรมาธิการร่วม นำโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งจะได้มีการกำหนดช่วงเวลาการหารือระหว่างกันในโอกาสต่อไป

 

ด้านเศรษฐกิจ

  • เมื่อวันที่ ๗ ก.พ. ๒๕๖๕ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หารือภาคเอกชนไทยถึงแนวทางส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทย – ซาอุดีอาระเบีย ในสาขาที่ทั้งสองฝ่ายมีศักยภาพ และหารือการจัดคณะนักธุรกิจและภาคเอกชนไทยเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียในโอกาสแรก
  • นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พร้อมตัวแทนระดับสูงภาคเอกชนจำนวน ๒๖ คน ได้หารือกับรองนายกรัฐมนตรีดอนฯ เพื่อแลกเปลี่ยนทัศนะและแนวทางความร่วมมือในสาขาและที่ไทยและซาอุดีอาระเบียมีศักยภาพ อาทิ การบริการและการโรงแรม การท่องเที่ยว พลังงาน ยานยนต์ การก่อสร้าง และการศึกษาและฝึกอบรมเพื่อพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยย้ำถึงความเชื่อมโยงระหว่างนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy Model - BCG) ของไทยกับนโยบายวิสัยทัศน์ ค.ศ. ๒๐๓๐ ของซาอุดีอาระเบียที่สามารถสอดรับกันได้อย่างดีเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของประเทศ และประชาชนของทั้งสองฝ่าย
  • นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือถึงความเป็นไปได้ในการจัดให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นหัวหน้าคณะเพื่อนำผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนไทย เดินทางเยือนซาอุดีอาระเบีย ภายในเดือน ก.พ. ๒๕๖๕ เพื่อหารือและแสวงหาโอกาสความร่วมมือกับผู้แทนภาครัฐและภาคเอกชนของซาอุดีอาระเบียต่อไป

ด้านแรงงาน

  • ไทยและซาอุดีฯ เห็นตรงกันว่า ความร่วมมือด้านแรงงานเป็นสาขาที่มีศักยภาพซึ่งจะเพิ่มโอกาสให้แรงงานไทยกลับเข้าไปทำงานในซาอุดีฯ ได้ ซึ่งขณะนี้ซาอุดีฯ มีความต้องการแรงงานในสาขาต่าง ๆ กว่า ๘ ล้านตำแหน่ง โดยไทยมีศักยภาพในด้านการบริหารจัดการท่องเที่ยว แรงงานฝีมือและกึ่งฝีมือในสาขาต่าง ๆ ทั้งนี้ การส่งออกแรงงานไปซาอุดีฯ จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยยุคหลังโควิดเช่นเดียวกัน ในการประชุมระหว่างรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกับผู้บริหารกระทรวงฯ ได้มีการหารือการ upskill และ reskill การปรับเพิ่มฝีมือแรงงานไทย เพื่อให้สอดรับกับความต้องการแรงงานของซาอุดีอาระเบีย
  • เมื่อวันที่ ๗ ก.พ. ๒๕๖๕ กระทรวงแรงงานได้จัดการประชุมเพื่อพิจารณาร่างความตกลงความร่วมมือด้านแรงงาน โดยกระทรวงแรงงานและกระทรวงการต่างประเทศจะพิจารณารายละเอียดร่วมกัน เพื่อให้สามารถลงนามได้ในโอกาสแรก โดยจะมีการหารืออีกครั้งในวันที่ ๑๑ ก.พ. ๒๕๖๕

. การเยือนไทยอย่างเป็นทางการของเลขาธิการองค์การสันนิบาตมุสลิมโลก

  • ดร.มุฮัมมัด บิน อับดุลกะรีม อัลอีซา (E. Dr. Mohammad bin Abdulkarim Al-Issa) เลขาธิการองค์การสันนิบาตมุสลิมโลก มีกำหนดเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระหว่างวันที่ ๑๔ – ๑๘ ก.พ. ๒๕๖๕ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยกับองค์การสันนิบาตมุสลิมโลก (Muslim World League) และแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและการสร้างความเข้าใจ รวมถึงการอยู่ร่วมกันอย่างสันติในสังคมพหุวัฒนธรรม (interfaith dialogue) กับผู้นำระดับสูงของไทย นักวิชาการ นักศึกษามหาวิทยาลัย และผู้นำชุมชนไทยมุสลิม
  • ตลอดระยะเวลาที่พำนักในประเทศไทย เลขาธิการองค์การสันนิบาตมุสลิมโลกและคณะจะปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-๑๙ อย่างเข้มงวดเพื่อความปลอดภัยด้านสาธารณสุขแก่ประชาชนทุกฝ่ายโดยรวม  

๔. ผลการหารือทางโทรศัพท์ระหว่างรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศบังกลาเทศ (๓๑ ม.ค. ๒๕๖๕)

  • รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หารือทางโทรศัพท์กับ ดร. อาบุลคาลัม อับดุล โมเมน (Dr. Abulkalam Abdul Momen) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศบังกลาเทศ
  • ทั้งสองฝ่ายหารือเกี่ยวกับกระบวนการส่งกลับผู้พลัดถิ่นในบังกลาเทศสู่รัฐยะไข่ของเมียนมา โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแจ้งว่า ไทยพร้อมสนับสนุนความร่วมมือเกี่ยวกับการส่งกลับผู้พลัดถิ่นฯ ในระดับทวิภาคี และในกรอบอาเซียน
  • ฝ่ายบังกลาเทศขอบคุณไทยสำหรับการช่วยอพยพชาวบังกลาเทศกลับประเทศในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ และการเปิดโอกาสให้บังกลาเทศเข้าร่วมโครงการเปิดเสรีสินค้าภายใต้สิทธิยกเว้นภาษีและโควตา (Duty Free/Quota Free - DFQF) โดยหวังว่าทั้งสองประเทศจะเพิ่มการค้าและการลงทุนระหว่างกันได้ พร้อมเชิญชวนให้นักลงทุนไทยเข้าไปลงทุนในบังกลาเทศมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านการ แปรรูปผลิตภัณฑ์เกษตร
  • ทั้งสองฝ่ายแสดงความยินดีต่อการครบรอบ ๕๐ ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – บังกลาเทศ ในปี ๒๕๖๕ และจะสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเฉลิมฉลองโอกาสสำคัญดังกล่าวรวมทั้งการเยือนระดับสูง

. การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปคครั้งที่ ๑ (SOM 1) (๑๔- ๒๕ ก.พ. ๒๕๖๕)

  • กระทรวงการต่างประเทศ อยู่ในระหว่างการเตรียมการจัดการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปคครั้งที่ ๑ ระหว่างวันที่ ๑๔ – ๒๕ ก.พ. ๒๕๖๕ ซึ่งนับเป็นการประชุมทางการครั้งแรกของปี เพื่อปูทางประเด็นหารือที่ไทยจะผลักดันตลอดทั้งปี โดยจะจัดในรูปแบบออนไลน์ จากเดิมจะจัดในรูปแบบทางด้านกายภาพ
  • SOM 1 ประกอบด้วยการประชุมคณะทำงานและการสัมมนาต่าง ๆ กว่า ๓๐ การประชุม ครอบคลุมประเด็นด้านการค้าการลงทุน ความเชื่อมโยง ความร่วมมือด้านดิจิทัล ไปจนถึงความมั่นคงทางอาหาร สุขภาพ สิ่งแวดล้อม และการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยจะมีการนำความเห็นของภาคเอกชนจากสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจของเอเปค (ABAC) มาพิจารณาในการประชุมต่าง ๆ ด้วย เพื่อให้กลไกการทำงานของเอเปคตอบสนองความต้องการของภาคธุรกิจมากที่สุด ผลการประชุมทั้งหมดจะนำไปรายงานต่อที่ประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสในวันที่ ๒๔ – ๒๕ ก.พ. ๒๕๖๕
  • การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค นับเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนการทำงานของเอเปค จะจัดขึ้นทั้งหมด ๔ ครั้ง ตลอดปี โดยนำผลการหารือเพื่อจัดทำเป็นผลลัพธ์เสนอต่อการพิจารณาของที่ประชุมระดับรัฐมนตรีเอเปคและระดับผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค
  • ไทยมุ่งเน้นที่จะผลักดันผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมในการเป็นเจ้าภาพเอเปค ตามหัวข้อหลักเปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล หรือ Connect. Balance. โดยเปิดประเด็นการหารือต่อไปนี้

(๑) Open คือ การเปิดกว้างต่อการขับเคลื่อนการหารือเรื่องเขตการค้าเสรีในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (Free Trade Area of the Asia-Pacific: FTAAP) ซึ่งเตรียมไว้สำหรับยุคหลังโควิด-๑๙ ซึ่งยังไม่ใช่การเจรจาเขตการค้าเสรีแต่เป็นการเจรจาเพื่อปูทางกำหนดหลักเกณฑ์ที่สำคัญ เพื่อนำไปสู่การเจรจาต่อไ

(๒) Connect – การส่งเสริมความเชื่อมโยงในเอเปค โดยเฉพาะการส่งเสริมการอำนวยความสะดวกการเดินทางข้ามแดน ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่ออำนวยความสะดวกและรื้อฟื้นการเดินทางข้ามพรมแดนในภูมิภาคเอเปคอย่างปลอดภัยและไร้รอยต่อ ในวันที่ ๒๑ ก.พ. ๒๕๖๕ ซึ่งเป็นคณะทำงานที่ตั้งขึ้นโดยเฉพาะภายใต้การเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทย

(๓) Balance – การนำโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจ สีเขียว (BCG) มาเป็นแนวทางขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนในเอเปค โดยไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการหารือเชิงนโยบายเพื่อส่งเสริมโมเดลเศรษฐกิจ BCG ในวันที่ ๒๒ ก.พ. ๒๕๖๕ เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์การดำเนินการเรื่อง BCG ร่วมกับเขตเศรษฐกิจสมาชิกเอเปคโดยเน้น ๓ สาขาคือ การเกษตรและระบบอาหาร (๒) พลังงาน และ (๓) การบริหารจัดการทรัพยากร

  • ในภาพรวม การขับเคลื่อนความร่วมมือต่าง ๆ เหล่านี้ จะส่งผลให้ประชาชนและภาคธุรกิจของไทยได้ประโยชน์ อาทิ จากการเดินทางข้ามพรมแดนที่สะดวกยิ่งขึ้น การเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจได้อย่างเท่าเทียมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น รวมถึงการเข้าถึงแหล่งเงินทุน นวัตกรรมทางดิจิทัล (digital innovation) การพัฒนาศักยภาพและขยายโอกาสของ MSMEs และการสร้างเสริมการพัฒนาพลังงานทดแทน

. การแถลงข่าวผลการประชุม SOM1 และการลงทะเบียนสื่อมวลชนเอเปค

  • กระทรวงการต่างประเทศร่วมกับสำนักเลขาธิการเอเปคจะจัดการแถลงข่าวสรุปผลการประชุม SOM1 แก่สื่อมวลชนทั่วโลก ในรูปแบบออนไลน์ ในวันศุกร์ที่ ๒๕ ก.พ. ๒๕๖๕ เวลา ๑๒.๓๐ - ๑๓.๑๕ น. ตามเวลาประเทศไทย (โดยประมาณ) ผู้ร่วมแถลงข่าวได้แก่ นายธานี ทองภักดี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศและประธานเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค ปี ๒๕๖๕ และ Rebecca Sta Maria ผู้อำนวยการบริหาร สำนักงานเลขาธิการเอเปค โดยอธิบดีกรมสารนิเทศ นายธานี แสงรัตน์ จะเป็นผู้ดำเนินรายการ โดยจะเป็นการแถลงในภาษาอังกฤษ
  • การแถลงข่าวจะเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสามารถถามคำถามที่เกี่ยวข้องกับการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคในปี ๒๕๖๕ รวมทั้งผลลัพธ์สำคัญและนโยบายที่ประเทศไทยมุ่งเน้นในการประชุมเอเปค
  • สื่อมวลชนที่สนใจเข้าร่วม จะต้องลงทะเบียนสื่อมวลชนเอเปค โดยทำตามขั้นตอนในข้อมูลสำหรับสื่อมวลชน (Media Kit) ปรากฏในเว็บไซต์ https://www.apec2022.go.th/apec-senior-officials-meeting-1-som1-media-kit/ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการลงทะเบียน สามารถติดต่อสอบถามได้ที่กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ โทร ๐๒ ๒๐๓ ๕๐๐๐ ต่อ ๒๒๐๒๕ และ ๒๒๙๒๑
  • หลังจากเสร็จสิ้นการแถลงข่าวออนไลน์ ในวันเดียวกัน ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ จะมีการแถลงข่าวสรุปผลการประชุม SOM1 และตอบคำถามสื่อมวลชนไทยอีกครั้งแบบกายภาพ โดยกองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ จะแจ้งรายละเอียดให้แก่สื่อมวลชนต่อไป
  • กระทรวงการต่างประเทศได้จัดทำคลิปวิดิทัศน์ประชาสัมพันธ์ APEC2022THAILAND, we never stop เราไม่หยุดเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน https://www.facebook.com/APEC2022Thailand/videos/472873004339443/

ขอให้ท่านช่วยกันแชร์คลิปนี้ เพื่อเป็นการสร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทย

. กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ จัดกิจกรรมแข่งขันเปิดตัวนิทรรศการออนไลน์ GSSD Expo 2022

  • กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ จัดกิจกรรมแข่งขันเพื่อประชาสัมพันธ์การเป็นเจ้าภาพงาน Global South-South Development Expo 2022 ซึ่งเป็นเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวปฏิบัติด้านการพัฒนาระหว่างประเทศเพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือใต้ - ใต้และไตรภาคี ของทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และทุกองค์กรภายใต้ระบบสหประชาชาติ
  • มีการแข่งขัน ๓ รายการ ได้แก่
    (๑) ประกวดคำขวัญภายใต้หัวข้อ “ส่งเสริมความร่วมมือใต้-ใต้และไตรภาคี ในการฟื้นฟูการพัฒนาที่ยั่งยืนจากผลกระทบของสถานการณ์โควิด-๑๙ และเผยแพร่ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” (Advancing South-South and Triangular Cooperation for Sustainable COVID-19 Recovery: Towards a Smart and Resilient Future) ชิงเงินรางวัลรวม ๓๕,๐๐๐ บาท
    (๒) ประกวดภาพถ่ายพร้อมคำบรรยาย โดยเป็นภาพเดี่ยวของตัวเองหรือภาพหมู่ที่เคยเดินทางไปท่องเที่ยว/เรียน/ทำงาน ในกลุ่มประเทศที่อยู่ในกลุ่มความร่วมมือด้านการพัฒนา (ภูมิภาคเอเชีย แอฟริกา ลาตินอเมริกา เอเชียกลาง ตะวันออกกลางและหมู่เกาะแปซิฟิกใต้) พร้อมคำบรรยายเกี่ยวกับในการไปเยือน ชิงเงินรางวัลรวม ๓๕,๐๐๐ บาท
    (๓) ประกวดคลิปวิดีโอโดยเลือก ๑ หัวข้อที่ตนถนัด ชิงเงินรางวัลรวม ๑๕๐,๐๐๐ บาท

ผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.thaidevelopmentexpo.com

. การเตรียมการสำหรับคนไทยในสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างยูเครนและรัสเซีย

  • ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศ และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ ซึ่งมีเขตอาณาครอบคลุมยูเครน ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งไทยหวังว่า ฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี และสถานการณ์จะคลี่คลายลงด้วยดี
  • สำหรับสถานการณ์นี้ ยังไม่มีผลกระทบต่อคนไทยในยูเครน อย่างไรก็ดี สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ ได้เตรียมแผนอพยพในกรณีเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินเผื่อไว้สำหรับชุมชนคนไทยในยูเครนที่มีอยู่ประมาณ ๒๐๐ – ๒๓๐ คน โดยส่วนใหญ่พำนักในกรุงเคียฟและบริเวณใกล้เคียง และรองลงมาเป็นเมือง Odesa (โอเดสซา) และบริเวณใกล้เคียง ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเป็นพนักงานร้านสปาและนวดไทย และมีบางส่วนที่สมรสกับชาวยูเครน
  • ช่องทางการสื่อสารกับคนไทยในยูเครน

(๑) สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้สื่อสารกับคนไทยคนในยูเครนผ่าน Facebook สถานเอกอัครราชทูตฯ “Royal Thai Embassy, Warsaw, Poland” เพื่อแจ้งข่าวสารต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ รวมถึงได้แจ้งข่าวสำคัญใน Facebook กลุ่ม “คนไทยในประเทศยูเครน” อีกทางหนึ่งด้วย

(๒) สถานเอกอัครราชทูตฯ ยังได้จัดตั้งกลุ่ม LINE ระหว่างสถานเอกอัครราชทูตฯ กับชุมชนไทยในยูเครนเพื่อสื่อสารกับคนไทยได้อย่างรวดเร็วและทันเหตุการณ์ยิ่งขึ้น และจะตั้งกลุ่ม Telegram ระหว่าง สถานเอกอัครราชทูตฯ กับเจ้าของร้านสปาไทยชาวยูเครน (Telegram เป็น Chat application ซึ่งคนยูเครนนิยมใช้) เพื่อการประสานงานกันอย่างทันท่วงทีกรณีมีเหตุการณ์ฉุกเฉินด้วย

(๓) สถานเอกอัครราชทูตฯ มีหมายเลข Hotline (+๔๘ ๖๙๖ ๖๔๒ ๓๔๘) สามารถติดต่อได้ ๒๔ ชม.

  • สถานเอกอัครราชทูตฯ ณ กรุงวอร์ซอ ได้เตรียมแผนและเส้นทางหลักในการอพยพคนไทยในยูเครน สำหรับสถานการณ์ (scenario) ต่าง ๆ ไว้เรียบร้อยแล้ว ขอให้ชาวไทยในยูเครนไม่ตื่นตระหนก และรับฟังข่าวสารจากสถานเอกอัครราชทูตฯ อย่างใกล้ชิด

 . กระทรวงการต่างประเทศจัดกิจกรรมกรมการกงสุลสัญจร ณ ศาลากลาง จ.มุกดาหาร (๒๑ - ๒๕ ก.พ. ๒๕๖๕

  • กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ จัดบริการกรมการกงสุลสัญจรทุกเดือน เพื่อให้บริการทำหนังสือเดินทาง ในเดือนนี้กรมการกงสุล ได้จัดกงสุลสัญจรที่ห้องแก้วมุกดา ชั้น ๑ ศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร โดยให้บริการเฉพาะหนังสือเดินทางบุคคลทั่วไป มีค่าธรรมเนียม ๑,๕๐๐ บาท สำหรับหนังสือเดินทางอายุ ๑๐ ปี และ ๑,๐๐๐ บาท สำหรับหนังสือเดินทางอายุ ๕ ปี
  • กรมการกงสุลได้จัดกิจกรรมกรมการกงสุลสัญจรในจังหวัดต่าง ๆ เป็นประจำทุกเดือนเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนในต่างจังหวัด ตามนโยบายการทูตเพื่อประชาชนของกระทรวงการต่างประเทศของท่านรองนายกรัฐมนตรีดอนฯ และเป็นของขวัญปีใหม่ ๒๕๖๕ ด้วย 

๑๐. รายการบันทึกสถานการณ์ และ MFA Update

  • วันพฤหัสบดีที่ ๑๐ ก.พ. ๒๕๖๕ เวลา ๐๘.๓๐ - ๐๘.๔๕ น. รายการ “บันทึกสถานการณ์” ทาง FM 5 (ภาษาไทย) ได้สัมภาษณ์นายรัชฎา จิวาลัย กงสุลใหญ่ ณ เมืองปีนัง หัวข้อ “ตามรอยสยามในปีนัง” สามารถรับชมย้อนหลังได้ทาง youtube “MFA Thailand Channel”
  • วันศุกร์ที่ ๑๑ ก.พ. ๒๕๖๕ เวลา ๐๘.๐๕ - ๐๘.๒๐ น. รายการ “MFA Update” FM 0 (ภาษาอังกฤษ) จะสัมภาษณ์นางสาวบุษฎี สันติพิทักษ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา หัวข้อ “70th Anniversary of the Establishment of Thailand-Australia Diplomatic Relations” สามารถรับชมย้อนหลังได้ทาง youtube “MFA Thailand Channel”

๑๑. รายการ Spokesman Live!!!

  • ในวันศุกร์ที่ ๑๑ ก.พ. ๒๕๖๕ เวลา ๒๐.๐๐ - ๒๐.๓๐ น. ขอเชิญติดตามรายการ คุยรอบโลกกับโฆษก กต. - Spokesman Live!!! จะสัมภาษณ์นางสาวมรกต ศรีสวัสดิ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียนนา หัวข้อ “สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียนนา: ภารกิจที่มากกว่าความสัมพันธ์ไทย-ออสเตรีย” สามารถติดตามชมได้ที่ Facebook “กระทรวงการต่างประเทศ” และ “Saranrom Radio”

 

* * * * *

 

รับชมแถลงข่าวย้อนหลัง:  https://www.facebook.com/ThaiMFA/videos/641379180519834

คลิปแถลงข่าว: ช่อง Youtube “MFA Thailand Channel”:

 

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ

เอกสารประกอบ

pwp_ประกอบการแถลงข่าว_10_กพ_as_delivered.pdf