สรุปการแถลงข่าวประจำสัปดาห์
วันศุกร์ที่ ๒ กันยายน ๒๕๖๕ เวลา ๑๓.๓๐ น.
ณ ห้องประชุมกรมสารนิเทศ และทาง Facebook live กระทรวงการต่างประเทศ
๑. ผลการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค ครั้งที่ ๓ (๓๑ ส.ค. ๒๕๖๕)
- ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค ครั้งที่ ๓ และการประชุมที่เกี่ยวข้องที่จังหวัดเชียงใหม่ระหว่างวันที่ ๑๕- ๓๑ ส.ค. ที่ผ่านมา ตลอด ๑๖ วันไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมทั้งหมด ๖๗ การประชุม ในระดับผู้เชี่ยวชาญและระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส เพื่อขับเคลื่อนการส่งเสริมการเปิดเสรีการค้าการลงทุนในกรอบเอเปคขับเคลื่อนเป้าหมายต่างๆ ที่ไทยในฐานะเจ้าภาพเอเปค ปี ๒๕๖๕ ได้แก่ CONNECT. BALANCE.
- ในช่วงเวลาเดียวกัน ไทยยังเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีเอเปค ๔ สาขา ครอบคลุมความร่วมมือด้านสาธารณสุข ป่าไม้ การท่องเที่ยว และความมั่นคงทางอาหาร การประชุมทั้งหมดได้ขับเคลื่อนให้งานของเอเปค ๒๕๖๕ คืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม ดังนี้
- การเปิดโอกาสทางเศรษฐกิจให้คนทุกกลุ่ม (ภายใต้หัวข้อ OPEN.) ที่ประชุมได้สานต่อผลลัพธ์การประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปคเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา เรื่องการนำประเด็นความตกลงเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก (FTAAP) มาหารือใหม่ในบริบทยุคหลังโควิด-๑๙ โดยได้เริ่มจัดทำแผนงานขับเคลื่อนการหารือเรื่อง FTAAP ในระยะยาวภายใต้ ๓ เสาหลักความร่วมมือ คือ การค้าการลงทุน นวัตกรรมและดิจิทัล และการเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของวิสัยทัศน์ปุตราจายา ค.ศ. ๒๐๔๐ โดยมีเป้าหมายจะเสนอแผนงานนี้ให้ที่ประชุมรัฐมนตรีเอเปคเห็นชอบในเดือน พ.ย. ต่อไป
- ความเชื่อมโยงการเดินทางข้ามพรมแดนที่สะดวกและปลอดภัย (ภายใต้หัวข้อ CONNECT.) ได้มีการจัดประชุมคณะทำงานเฉพาะกิจ APEC Safe Passage Taskforce (SPTF) ครั้งที่ ๓ ถือเป็นการประชุมครั้งสุดท้าย ก่อนที่วาระของคณะทำงานฯ จะสิ้นสุดในเดือนพ.ย. นี้ ประเด็นหารือสำคัญคือการแปรผลข้อเสนอต่าง ๆ ไปเป็นผลงานที่เป็นรูปธรรม มีการหารือการจัดทำฐานข้อมูลเอเปคเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการเดินทางอย่างปลอดภัย ซึ่งจะเปิดได้ในเดือนก.ย. นี้ และการหารือการขยายกลุ่มผู้ใช้บัตรเดินทางนักธุรกิจเอเปค (ABTC) ให้ครอบคลุมกลุ่มคนที่หลากหลายยิ่งขึ้น นอกจากนี้มีการหารือกลไกที่เหมาะสมเพื่อสานต่อการทำงานนี้ต่อไปในอนาคต เพื่อให้เอเปคพร้อมรับมือวิกฤตใหม่โดยยังสามารถรักษาการเดินทางข้ามพรมแดนไว้ได้ อย่างปลอดภัยภายหลังโควิด-๑๙
- ที่ประชุมระดับสูงเอเปคว่าด้วยสาธารณสุขและเศรษฐกิจ ครั้งที่ ๑๒ ได้แลกเปลี่ยนมุมมองเรื่องการสร้างสมดุลระหว่างนโยบายทางเศรษฐกิจ การเดินทางข้ามพรมแดนที่สะดวกปลอดภัย ไปพร้อมกับการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับวิกฤตอนาคต ซึ่งรวมถึงการลงทุนด้านความมั่นคงทางสุขภาพต่อไปด้วย
- การส่งเสริมการเจริญเติบโตอย่างครอบคลุม สมดุล และยั่งยืน (ภายใต้หัวข้อ BALANCE.) ที่ประชุมย้ำความสำคัญของกระบวนการส่งเสริมความยั่งยืนไปพร้อมกันทั้งสังคม โดยจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนมุมมองระหว่างผู้แทนภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการเงิน และผู้แทนเยาวชนจากเขตเศรษฐกิจสมาชิก เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความสำเร็จในการเปลี่ยนผ่านไปสู่การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังได้สานต่อการจัดทำเป้าหมายกรุงเทพฯ เรื่องเศรษฐกิจ BCG (Bangkok Goals on BCG) ด้วยการจัดประชุมวาระพิเศษเพื่อรับฟังความเห็นของทุกเขตเศรษฐกิจฯ เพื่อปรับปรุงเอกสารฉบับนี้ให้พร้อมนำเสนอต่อที่ประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคให้ความเห็นชอบในเดือน พ.ย. นี้
- การหารือเรื่องความยั่งยืนยังสะท้อนผ่านผลการประชุมระดับรัฐมนตรีเอเปครายสาขาที่จัดขึ้นในช่วงเดียวกัน โดยที่ประชุมเห็นพ้องถึงความสำคัญของการส่งเสริมการฟื้นฟูการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เพื่อให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเติบโตไปพร้อมกับการรักษาสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมท้องถิ่น การจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่ เพื่อการดำเนินธุรกิจด้านป่าไม้อย่างยั่งยืนและส่งเสริมชุมชนท้องถิ่น รวมถึงการพัฒนาระบบอาหารและการเกษตรให้ยั่งยืนยิ่งขึ้น เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของเกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อย ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ค.ศ. ๒๐๓๐ เรื่องการขจัดความอดอยาก
- ผลการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค ครั้งที่ ๓ ที่ จ.เชียงใหม่ครั้งนี้ เป็นอีกก้าวสำคัญของการเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทย ให้พร้อมเดินหน้าเข้าสู่การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคระหว่างวันที่ ๑๘-๑๙ พ.ย. ๒๕๖๕ ที่กรุงเทพฯ
๒. กิจกรรมเสวนา APEC Media Focus Group ครั้งที่ ๖ และ ๗ และการเสวนาโต๊ะกลมระหว่างสื่อมวลชน ภาครัฐและเอกชน (๒๕ - ๒๖ ส.ค. ๒๕๖๕)
- เมื่อวันที่ ๒๖ ส.ค. ๒๕๖๕ กต.ร่วมกับคณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มช. จัดกิจกรรม APEC Media Focus Group ครั้งที่ ๖ ในหัวข้อ “Sustainable MSMEs, Women and Business” โดยมีรอธ. กรมสารนิเทศ ณัฐภาณุ นพคุณ เป็นผู้ดำเนินรายการ และมีรองผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ พร้อมทั้งผู้แทนจากหน่วยงาน ภาคส่วนต่าง ๆ ใน จ.เชียงใหม่ ผู้ประกอบการ สื่อมวลชน อาจารย์และนักศึกษา เข้าร่วมรับฟังการเสวนา
- ปลัด กต.และประธาน จนท.อาวุโสเอเปค ได้กล่าวปาฐกถาอธิบายถึงศักยภาพของเชียงใหม่ในการเป็นศูนย์กลางขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภาคเหนือและประเทศไทย ตลอดจนการฟื้นฟูเศรษฐกิจของภูมิภาค และ ศ.ดร.พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล อธิการบดี มช. กล่าวเน้นย้ำบทบาทของ มช.ในฐานะสถาบันอุดมศึกษาที่มีส่วนช่วยในการผลักดันเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) และยกระดับจังหวัดเชียงใหม่เป็นเมืองนวัตกรรม
- งานเสวนาช่วงแรกภายใต้หัวข้อการทำธุรกิจที่ยั่งยืนหรือ “Sustainability with MSMEs” อธ.กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศและ จนท.อาวุโสเอเปค อธิบายความเชื่อมโยงระหว่างแนวทางการพัฒนาเชียงใหม่ที่สอดคล้องกับการทำงานและเป้าหมายของเอเปค พร้อมกันนี้ ผู้บรรยายซึ่งมีทั้งผู้ทรงคุณวุฒิด้านส่งเสริม MSME อาจารย์ มช. ผู้แทนผู้ประกอบการ MSMEs ภาคสตรี ได้อภิปรายและแสดงความเห็นเกี่ยวกับการสร้างโอกาสทางธุรกิจให้ MSMEs สตรี เยาวชน การอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการทำธุรกิจข้ามพรมแดน และการพัฒนาอย่างสมดุลด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมด้วยแนวคิดเศรษฐกิจ BCG ซึ่งมีความท้าทาย รวมทั้งมีการหารือแนวทางการสนับสนุน MSMEs ตลอดจนศักยภาพของสตรีในการทำธุรกิจผ่านกรณีศึกษาต่าง ๆ และประสบการณ์ประกอบธุรกิจโดยตรงจากผู้ประกอบการ
- ในวันเดียวกัน ปลัด กต. และนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ เป็นประธานร่วมพิธีเปิดนิทรรศการ APEC 2022 ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่ เป็นส่วนหนึ่งของการเสริมสร้างการรับรู้เกี่ยวกับเอเปคและบทบาทของไทยในฐานะเจ้าภาพโดยมีผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน วิสาหกิจชุมชน และสื่อมวลชนในจังหวัดเชียงใหม่เข้าร่วม นิทรรศการได้จัดแสดงระหว่างวันที่ ๒๖-๓๑ ส.ค. ๒๕๖๕
- นอกจากนี้ เมื่อวันที่ ๒๕ ส.ค. ๒๕๖๕ กรมสารนิเทศ ได้จัดการเสวนาโต๊ะกลมระหว่างสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศ กับผู้แทนภาครัฐและเอกชน ในหัวข้อ “การฟื้นฟูการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ผ่านโมเดลเศรษฐกิจ BCG” เวทีเสวนาโต๊ะกลมฯ ได้ย้ำถึงการผลักดัน “เป้าหมายกรุงเทพเรื่องเศรษฐกิจ BCG” (Bangkok Goals on BCG Economy) แนวทางพัฒนาเศรษฐกิจ BCG ที่จะทำให้เกิดการพัฒนาเติบโตอย่างยั่งยืน รวมทั้งบทบาทที่สำคัญของภาคเอกชนในการปฏิบัติภายหลังการรับรองเป้าหมายกรุงเทพฯ ที่จะเสนอผู้นำรับรอง โดยมี อธ. กรมสารนิเทศ/โฆษก กต. ดำเนินรายการ นอกจากนี้ยังมีมุมมองของภาคธุรกิจขนาดเล็กเห็นว่าการปฏิบัติจะเกิดขึ้นได้ หากภาครัฐสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับวิธีการและแนวทางเพื่อให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถนำ BCG ไปปฏิบัติได้จริง
- เมื่อวันที่ ๒๖ ส.ค. กต.ร่วมกับ Techsauce Global Summit 2022 ซึ่งเป็นงานสัมมนาของ start-ups และ tech community ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ได้ร่วมกันจัดกิจกรรม APEC Media Focus Group ครั้งที่ ๗ ที่ไอคอนสยาม เพื่อให้ข้อมูลและแลกเปลี่ยนมุมมองของทั้งภาครัฐและเอกชนเกี่ยวกับประโยชน์ของการเป็นเจ้าภาพ APEC ของไทยต่อกลุ่ม start-ups และ SMEs
- กิจกรรมนี้แบ่งเป็น ๒ ส่วน ได้แก่ การสนทนาในหัวข้อ "Policy Support for Start-ups and Innovation in APEC" และ " ESG in Startup: Towards a Responsible and Balanced Ecosystem in APEC" โดยมีผู้แทนจากทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วม เช่น ดร. ปฤณัต อภิรัตน์ รอธ.กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ผศ. ดร. ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผอ.สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) ดร. พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผอ.สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) โดยมีนายธนวัต ศิริกุล รองอธิบดีกรมสารนิเทศ เป็นผู้ดำเนินการเสวนา สามารถติดตามบันทึกการเสวนาทั้งหมดได้ตาม Facebook ของ กต. และ Youtube MFA Thailand Channel
๓. การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโส ACMECS (๒๕ ส.ค. ๒๕๖๕)
- ออท. อรุณรุ่ง โพธิ์ทอง ฮัมฟรีย์ส ออท.ประจำกระทรวงและ จนท.อาวุโสกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขง ได้เข้าร่วมการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (Ayeyawady - Chao Phraya - Mekong Economic Cooperation Strategy: ACMECS) ที่เวียงจันทน์ ซึ่ง สปป. ลาว เป็นประธาน ACMECSในปีนี้
- ที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบในหลักการเตรียมการจัดตั้ง ACMECS Interim Secretariat ที่ไทย และให้สถาบันความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง (Mekong Institute: MI) ทำหน้าที่สนับสนุนทางเทคนิค โดยจะมีการประกาศจัดตั้ง Interim Secretariat ที่การประชุมผู้นำ ACMECS ครั้งที่ ๑๐ ซึ่ง สปป. ลาว จะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นในช่วงปลายปี ๒๕๖๕ และ ACMECS Interim Secretariat จะเริ่มดำเนินงานภายในช่วงต้นปี ๒๕๖๖
- ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าของการดำเนินการจัดตั้งกองทุน ACMECS Development Fund (ACMDF) ซึ่งได้มีการกำหนดเป้าหมายที่จะจัดตั้งกองทุนให้แล้วเสร็จภายในปี ๒๕๖๖ เพื่อใช้ในการสนับสนุนโครงการความร่วมมือของ ACMECS ตามแผนแม่บท ACMECS ค.ศ. ๒๐๒๙-๒๐๒๓ และความคืบหน้าในการจัดตั้งกลไก ACMECS Project-based Financing Mechanism (ACMPF) ซึ่งกลไกทางการเงินของ ACMECS ทั้งสองจะเป็นช่องทางสำหรับหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา (Development Partners: DPs) และหุ้นส่วนภายนอก (external partners) ในการให้การสนับสนุนทางการเงินแก่โครงการของ ACMECS
- ที่ประชุมยังได้หารือเพื่อเตรียมการสำหรับการประชุมผู้นำฯ ซึ่ง สปป. ลาว ได้นำเสนอหัวข้อสำหรับการประชุมผู้นำฯ ได้แก่ การมุ่งไปสู่ความเชื่อมโยงที่ไร้ตะเข็บของการร่วมตัวของอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง “Towards Seamless Connectivity for the Mekong Sub-regional Integration” และเตรียมร่างปฏิญญาเวียงจันทน์ (Vientiane Declaration) เพื่อที่ประชุมผู้นำฯ ให้การรับรองเป็นเอกสารผลลัพธ์ของการประชุม
๔. การให้ความช่วยเหลือคนไทยที่ถูกหลอกไปทำงานที่ฟิลิปปินส์
- เมื่อวันที่ ๒๓ ส.ค. ๒๕๖๕ กรมการกงสุลได้รับคำร้องจากญาติคนไทยที่ถูกหลอกไปทำงานในฟิลิปปินส์และได้แจ้งมาที่ สอท. ณ กรุงมะนิลา เพื่อประสานงานกับตำรวจฟิลิปปินส์
- ต่อมาญาติของคนไทยอีก ๒ ราย (ซึ่งอยู่ในกลุ่มคนไทย ๗ ราย ที่กรมการกงสุลได้รับรายชื่อแล้ว) ได้เดินทางมายื่นคำร้องขอรับความช่วยเหลือตามคำแนะนำของมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี กรมการกงสุลจึงได้แจ้งให้ทราบว่า ได้ส่งเรื่องให้ สอท. ณ กรุงมะนิลา ประสานงานทางการฟิลิปปินส์ให้ความช่วยเหลือด้วยแล้ว
- กรมการกงสุลได้รับแจ้งจาก สอท. ณ กรุงมะนิลา ว่า ตำรวจฟิลิปปินส์ได้ให้ความช่วยเหลือคนไทยทั้ง ๗ ราย รวมทั้งคนไทยอีก ๒ ราย ซึ่งเป็นสามีภรรยา และมารดาได้ร้องขอรับความช่วยเหลือผ่านสำนักข่าว รวมคนไทยที่ได้รับความช่วยเหลือทั้งหมด ๙ ราย เดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้ว ที่ผ่านมา สอท. ณ กรุงมะนิลา ได้จัดหาที่พัก อาหาร จัดทำเอกสารการเดินทางฉุกเฉิน (Emergency Travel Documents) และอยู่ระหว่างการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของฟิลิปปินส์เพื่อดำเนินการเรื่องการพำนักอยู่ในฟิลิปปินส์ของคนไทยทั้งสามรายก่อนที่จะส่งตัวกลับไทยต่อไป
- เมื่อวันที่ ๓๐ ส.ค. อธ. กรมการกงสุลยังได้หารือกับนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อยืนยันความพร้อมของกรมการกงสุลในการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับมูลนิธิฯ เพื่อให้ความช่วยเหลือคนไทยที่ถูกหลอกไปทำงานในต่างประเทศ
- ที่ผ่านมากรมการกงสุล กต. และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือคนไทยในต่างประเทศ การประชาสัมพันธ์เตือนให้คนไทยระมัดระวัง อย่าหลงเชื่อขบวนการหลอกลวงคนไทยให้ไปทำงานผิดกฎหมาย หากรู้สึกว่าตนมีความเสี่ยงที่จะตกอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าวหรือมีญาติ เพื่อนหรือคนรู้จักที่อาจตกเป็นเหยื่อของขบวนการหลอกลวงเหล่านี้ สามารถติดต่อขอคำปรึกษา ขอรับความช่วยเหลือจากกรมการกงสุล ผ่าน call center ๐๒ ๕๗๒ ๘๔๔๒ ตลอด ๒๔ ชม. หรือ สอท./สกญ.ที่อยู่ ใกล้ท่าน
๕. แจ้งเตือนคนไทยกรณีการหางานผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์เพื่อไปทำงานในต่างประเทศ
- กต. โดยกรมการกงสุล และ สอท.ในต่างประเทศหลายแห่ง ได้รับแจ้งการขอรับความช่วยเหลือกรณีคนไทยถูกหลอกไปทำงานในต่างประเทศ ส่วนใหญ่เป็นกรณีตำแหน่งหน้าที่ รายได้ สวัสดิการที่ไม่ตรงกับที่ประกาศหรือโฆษณาไว้ก่อนเดินทาง รวมทั้งมีการถูกกักขัง ทำร้ายร่างกาย และบีบบังคับให้ทำงานโดยมิได้สมัครใจ หลายรายถูกนายจ้างหรือผู้ชักชวนเรียกเงินจำนวนมากเพื่อแลกกับการ ปล่อยตัว
- กต. ขอแจ้งเตือนผู้ที่ประสงค์ไปทำงานในต่างประเทศ ให้พึงระวังและอย่าหลงเชื่อขบวนการหลอกลวงคนไทยไปทำงานในต่างประเทศ แบ่งเป็นรายประเทศ ดังนี้
- ผู้ที่สนใจไปทำงานในเมียนมา ขอให้ระวังและอย่าหลงเชื่อประกาศรับสมัครคนไทย เพศหญิง บุคลิกดี ทำงานตำแหน่งพนักงานต้อนรับในสถานบันเทิง โรงแรม หรือคาสิโน มีเงินเดือนสูง พร้อมที่พัก อาหารและสวัสดิการต่าง ๆ นายหน้าคนไทยมักจะนัดให้เหยื่อเดินทางข้ามแม่น้ำสายที่ อ. แม่สาย จ. เชียงราย ซึ่งถือเป็นการหลบหนีออกนอกราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย เมื่อเดินทางถึงเมียนมา จะถูกส่งตัวไปในพื้นที่ภาคเหนือและตะวันออกของเมียนมาติดกับชายแดนจีน และอาจถูกบังคับให้ขายบริการทางเพศ หากไม่ยินยอมจะถูกกักขัง ทำร้ายร่างกาย หรือส่งขายต่อให้นายจ้างรายอื่นหากต้องการกลับไทยต้องนำเงินมาไถ่ตัว
- กัมพูชา ขอให้ระวังและอย่าหลงเชื่อประกาศรับสมัครงานตำแหน่งแอดมินออนไลน์ หรือเจ้าหน้าที่การตลาด ที่ไม่ต้องมีประสบการณ์การทำงาน รายได้ดี มีที่พัก อาหารและสวัสดิการต่าง ๆ เพื่อไปทำงานใน จ. พระสีหนุ (สีหนุวิลล์) กรุงพนมเปญ เมืองปอยเปต และ จ. สเวเรียง นายหน้าคนไทย จะนัดแนะให้เหยื่อเดินทางไป จ. สระแก้ว เพื่อเดินเท้าเข้ากัมพูชาตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา
ซึ่งเป็นการหลบหนีออกนอกราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายและสุ่มเสี่ยงต่ออันตรายจากการเหยียบกับระเบิด เมื่อเดินทางถึงกัมพูชา นายจ้างจะบังคับให้ทำงานเป็นคอลเซ็นเตอร์ หลอกลวงคนไทย หรือชักชวนให้เล่นพนันออนไลน์ หากทำงานไม่ได้ตามเป้าหมาย หรือไม่ยินยอมทำงาน จะถูกกักขัง ทำร้ายร่างกาย ส่งขายต่อให้นายจ้างรายอื่น หรือถูกบังคับให้ต้องนำเงินมาไถ่ตัว
- การให้ความช่วยเหลือกลับไทยไม่สามารถดำเนินการได้ทันทีอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเจ้าหน้าที่กัมพูชามีจำนวนจำกัด และจะต้องเป็นไปตามกระบวนการของทางการกัมพูชา เมื่อได้รับการช่วยเหลือแล้ว เหยื่อจะต้องพักรอในสถานกักกันเพื่อเข้าสู่กระบวนการสอบสวนและรอการเนรเทศ อาจต้องชำระค่าปรับหรือถูกดำเนินคดีตามกฎหมายกัมพูชา และเมื่อเดินทางกลับเข้าไทยอาจต้องชำระค่าปรับหรือถูกดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องของไทยด้วย
- ผู้ที่สนใจไปทำงานในฟิลิปปินส์ ขอให้ระวังและอย่าหลงเชื่อประกาศรับสมัครงานตำแหน่งต่างๆ อาทิ แอดมินออนไลน์ เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ เจ้าหน้าที่การตลาด โดยไม่ต้องมีประสบการณ์ทำงาน รายได้ดีตั้งแต่ ๒๕,๐๐๐ - ๕๐,๐๐๐ บาท/เดือน พร้อมค่าล่วงเวลา โดยนายจ้างจะออกค่าใช้จ่ายในการเดินทาง พร้อมที่พัก อาหาร สวัสดิการต่าง ๆ และจะดำเนินการเรื่องวีซ่าให้เมื่อเดินทางถึงฟิลิปปินส์ เมื่อถึงฟิลิปปินส์แล้ว จะถูกบังคับให้เซ็นสัญญาทำงานที่ไม่เป็นธรรม ถูกยึดหนังสือเดินทาง ให้ทำงานหนัก ไม่ได้รับค่าตอบแทนตามที่ตกลงไว้ และถูกบังคับให้หาลูกค้ามาเล่นพนันออนไลน์ หรือหลอกให้ลงทุน รวมทั้งชักชวนคนที่รู้จักมาร่วมทำงานเป็นเครือข่าย หากทำงานไม่ได้ตามเป้าหมายหรือไม่ยินยอมทำงาน จะถูกกักขัง ขู่ทำร้าย หรือส่งขายต่อให้นายจ้างรายอื่น รวมทั้งถูกบังคับให้ต้องนำเงินจำนวนหลักแสนบาทมาไถ่ตัวเป็นค่าผิดสัญญาการทำงานหรือค่าใช้จ่ายในการพาเหยื่อเดินทางมาฟิลิปปินส์
- การให้ความช่วยเหลือกลับไทยไม่สามารถดำเนินการได้ในเวลาอันรวดเร็ว จะต้องเป็นไปตามกระบวนการของทางการฟิลิปปินส์ เมื่อได้รับการช่วยเหลือแล้ว เหยื่อจะยังไม่สามารถกลับไทยได้เนื่องจากตำรวจต้องการสอบสวนในฐานะเหยื่อหรือพยานคดีการค้ามนุษย์ และอาจต้องเข้ากระบวนการศาลของฟิลิปปินส์
- สำหรับผู้ที่สนใจไปทำงานในต่างประเทศ ควรพิจารณาสมัครงานจากประกาศรับสมัครงานของหน่วยงานภาครัฐโดยเฉพาะกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน หรือเอกชนที่มีความน่าเชื่อถือ มีการประกาศรับสมัครงานอย่างเป็นทางการ โดยระบุรายละเอียดเกี่ยวกับคุณสมบัติผู้สมัคร ตำแหน่งงาน หน้าที่ความรับผิดชอบ รายได้ สวัสดิการ ช่องทางการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ชัดเจน ทั้งนี้ หากต้องการขอรับข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งงานในต่างประเทศ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ที่หมายเลข ๐ ๒๒๔๗ ๙๔๒๓ ๐ ๒๒๔๘ ๔๗๔๓ หรือสายด่วน ๑๕๐๖ กด ๒ และ ๑๖๙๔ หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกแห่ง
- หากประสบปัญหาในต่างประเทศ ท่านสามารถติดต่อ Call Center กรมการกงสุล หมายเลข ๐๒ ๕๗๒ ๘๔๔๒ ได้ตลอด ๒๔ ชม. ซึ่งสามารถประสานงานกับ สอท./สกญ. ไทย ทั่วโลก
๖. เกาหลีใต้ประกาศให้คนไทยที่จะเดินทางไปเกาะเชจู ลงทะเบียนขอรับ K-ETA (วันที่ ๑ ก.ย. ๒๕๖๕ เป็นต้นไป)
- เกาหลีใต้กำหนดให้คนไทยที่จะเดินทางไปยังเกาะเชจู ต้องลงทะเบียนออนไลน์เพื่อขอรับ Korea Electronic Travel Authorization (K-ETA) ล่วงหน้าก่อนการเดินทาง เช่นเดียวกับการเดินทางไปกรุงโซล ตามประกาศของกระทรวงยุติธรรมเกาหลีใต้
- สามารถลงทะเบียนขอ K-ETA ได้ทางเว็บไซต์ k-eta.go.kr หรือผ่านแอปพลิเคชัน K-ETA โดยต้องแนบรูปถ่าย และกรอกอีเมล์ ข้อมูลหนังสือเดินทาง รวมถึงรายละเอียดส่วนตัว อาทิ สัญชาติ วันเกิด เบอร์โทรศัพท์ อาชีพ ที่อยู่ รายได้ต่อปี วัตถุประสงค์การเดินทาง ที่พักในเกาหลีใต้ จากนั้นจึงชำระค่าธรรมเนียมจำนวน ๑๐,๐๐๐ วอน (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) และรอผลการสมัคร K-ETA ซึ่งจะแจ้งกลับมาทางอีเมล์ที่ได้ระบุไว้
- ผู้ที่ผ่านการอนุญาตจาก K-ETA จึงจะสามารถจองตั๋วเครื่องบินและเดินทางเข้าเกาหลีใต้ได้โดยไม่ต้องกรอกบัตรตรวจคนเข้าเมือง แต่หากมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนตัว จะต้องยื่นขออนุมัติ K-ETA ใหม่
- แม้ว่าจะได้รับอนุมัติ K-ETA แล้ว แต่หากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของเกาหลีใต้สัมภาษณ์แล้วยังมีข้อสงสัยว่า คนไทยอาจเดินทางเข้าเกาหลีใต้เพื่อลักลอบทำงานในเกาหลีใต้แบบผิดกฎหมาย หรือเหตุผลอื่น ๆ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองมีอำนาจไม่อนุมัติให้เข้าประเทศ และส่งตัวกลับประเทศไทยโดยสายการบินที่นำคนไทยเดินทางไปเกาหลีใต้โดยเร็วที่สุด กต. ขอแสดงความห่วงใยกับคนไทยที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวหรือไปทำงานในต่างประเทศ
๗. กิจกรรมแฟลชม็อบมวยไทย (วันเสาร์ที่ ๑๐ ก.ย. ๒๕๖๕ เวลา ๑๖.๓๐ น.)
- กรมสารนิเทศ กต. ร่วมกับไอคอนสยาม ขอเชิญนักเต้นทุกเพศทุกวัยมาร่วมเต้นและบันทึกเทป Flash Mob Dance เพลง Muay Thai All Around The World ซึ่งเป็นการจัดเป็นครั้งที่ ๒ ซึ่งจะใช้ท่าเต้นผสมผสานศิลปะการป้องกันตัวมวยไทย เพื่อส่งเสริม Soft Power ของไทยให้ดังไกลไปทั่วโลก
- ขอเชิญบุคคลทั่วไปที่สนใจสามารถร่วมชมและเข้าร่วมกิจกรรมได้เช่นกัน ที่ริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยาม กต. ได้เชิญคณะทูต สื่อมวลชนเข้าร่วมกิจกรรมนี้ด้วย ท่านสามารถฟังเพลงและรับชมท่าเต้น เพื่อเรียนรู้ ได้ที่ >> https://bit.ly/3AWTNh1 รวมถึงผู้สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่ >> https://bit.ly/3CH6KwF
๘. กิจกรรม Impact NOW: Sustainable Enterprise Showcase and Multi-chamber Networking หรือ กิจกรรมนำเสนอและสร้างเครือข่ายระหว่างวิสาหกิจเพื่อความยั่งยืนกับหอหารค้าต่างประเทศ (๑๔ ก.ย. ๒๕๖๕ เวลา ๐๗.๓๐ - ๒๒.๐๐ น.)
- กรมสารนิเทศ กต. เว็บไซต์ Thailand NOW ร่วมกับ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) บริติช เคานซิล ประเทศไทย และหอการค้าต่างประเทศในประเทศไทย ๑๓ แห่ง จัดกิจกรรม “Impact NOW” ในหัวข้อ “Sustainable Enterprise Showcase and Multi-chamber Networking” ณ โรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ IMPACT NOW เป็นการนำเสนอความรู้แลกเปลี่ยนเครือข่ายระหว่างวิสาหกิจกับ Start- up ที่ทำงานเพื่อความยั่งยืน
- ผู้เข้าร่วมงานจะมีโอกาสได้พบกับ วิสาหกิจเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Enterprises) หลายแห่งที่สร้างสรรค์ผลงานที่เป็นประโยชน์ และสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) ได้แก่ (๑) Find Folk บริษัทจัดการการท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์ พัฒนาและส่งเสริมบริการด้านการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบและความยั่งยืน (๒) Happy Grocers สตาร์ทอัพด้านอาหาร ที่มีเป้าหมายเพื่อเชื่อมโยงผู้บริโภคกับผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่ยั่งยืน ด้วยบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและลดขยะการเกษตร (๓) moreloop ธุรกิจที่มุ่งมั่นสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียน และตั้งเป้าลดของเสียในอุตสาหกรรมสิ่งทอด้วยการรวบรวมเศษผ้าส่วนเกินจากโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้านำมาสร้างวัตถุดิบและสินค้าใหม่ ๆ และ (๔) Vulcan Coalition ผู้พัฒนาเทคโนโลยี AI ที่ขับเคลื่อนโดยผู้ทุพพลภาพ เป็นต้น อีกทั้งท่านยังสามารถโหวตเลือกวิสาหกิจให้ได้รับรางวัล Impact NOW “Best in Show” Award 2022 อีกด้วย
- “Impact NOW” จะเป็นการชูบทบาทของประเทศไทยในด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนที่สอดคล้องกับประเด็นเศรษฐกิจ BCG ที่ไทยกำลังผลักดันในฐานะเจ้าภาพการประชุม APEC ในปีนี้
- ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม และจองบัตรเข้าร่วมงานทาง (in.th/event/impact-now)
๙. รายการบันทึกสถานการณ์ และ MFA Update
- วันพฤหัสบดีที่ ๑ ก.ย. ๒๕๖๕) เวลา ๐๘.๓๐ - ๐๘.๔๕ น. รายการ “บันทึกสถานการณ์” ทาง FM 92.5 (ภาษาไทย) ได้สัมภาษณ์ นางสาวธัชพร สุนทราจารย์ ผอ.กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ ในหัวข้อ “กิจกรรม APEC Media Focus ครั้งที่ ๖ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่” สามารถรับชมย้อนหลังได้ทาง youtube “MFA Thailand Channel”
- วันศุกร์ที่ ๒ ก.ย. ๒๕๖๕ เวลา ๐๘.๓๐ - ๐๘.๔๕ น. รายการ “บันทึกสถานการณ์” ทาง FM 92.5 (ภาษาไทย) ได้สัมภาษณ์นางอรุณรุ่ง โพธิ์ทอง ฮัมฟรีย์ส ออท.ประจำกระทรวงและ จนท.อาวุโสไทยกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขง ในหัวข้อ “จุดยืน ACMECS ในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง”
- วันศุกร์ที่ ๒ ก.ย. ๒๕๖๕ เวลา ๐๘.๐๕ - ๐๘.๒๐ น. รายการ “MFA Update” FM 88.0 (ภาษาอังกฤษ) ได้สัมภาษณ์ นางสาวธัชพร สุนทราจารย์ ผอ.กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ ในหัวข้อ "6th APEC Media Focus at Chiangmai University " สามารถรับชมย้อนหลังได้ทาง youtube “MFA Thailand Channel”
๑๐. รายการเวทีความคิด
- วันพฤหัสบดีที่ ๑ ก.ย. ๒๕๖๕ เวลา ๒๐.๓๐ - ๒๐.๕๘ น. รายการ “เวทีความคิด” ช่วงสายตรงจาก กต. ได้สัมภาษณ์นายณัฐภาณุ นพคุณ รอธ.กรมสารนิเทศและรองโฆษก กต. ในหัวข้อ “กิจกรรม APEC Media Focus ครั้งที่ ๖ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่” สามารถรับฟังได้ทาง FM 96.5 หรือรับฟังย้อนหลังทาง youtube “MFA Thailand Channel”
๑๑. รายการ Spokesman Live!!!
- วันศุกร์ที่ ๒ ก.ย. ๒๕๖๕ เวลา ๒๐.๐๐-๒๐.๓๐ น. รายการคุยรอบโลกกับโฆษก กต. - Spokesman Live!!! จะสัมภาษณ์นายศศิวัฒน์ ว่องสินสวัสดิ์ ออท. ณ กรุงมอสโก ในหัวข้อ “วิถีชีวิตคนในรัสเซียที่เราอาจยังไม่รู้” สามารถรับชมได้ที่ Facebook “กระทรวงการต่างประเทศ” และ “Saranrom Radio”
-
* * * * *
รับชมแถลงข่าวย้อนหลัง: https://fb.watch/fhtCaOqZjz/
คลิปแถลงข่าว: ช่อง Youtube “MFA Thailand Channel”: https://www.youtube.com/user/mfathailand
กองการสื่อมวลชน
กรมสารนิเทศ