สรุปการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ วันศุกร์ที่ ๑๕ ธ.ค. ๒๕๖๖ เวลา ๑๑.๐๐ น.

สรุปการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ วันศุกร์ที่ ๑๕ ธ.ค. ๒๕๖๖ เวลา ๑๑.๐๐ น.

วันที่นำเข้าข้อมูล 15 ธ.ค. 2566

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 15 ธ.ค. 2566

| 4,354 view

สรุปสาระสำคัญการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ 
วันศุกร์ที่ 15 ธ.ค. 2566 เวลา 11.00 น. ณ ห้องแถลงข่าว  
และทาง Facebook live กระทรวงการต่างประเทศ 

 

  1. ความคืบหน้าสถานการณ์ในอิสราเอล-กาซา
  • ผลกระทบต่อคนไทย สถิติไม่มีการเปลี่ยนแปลง คือ เสียชีวิต 39 ราย บาดเจ็บ 18 ราย (ยังคงรักษาตัวอยู่ที่ ร.พ. 3 ราย)และยังคงถูกจับเป็นตัวประกัน 8 ราย (ถูกปล่อยตัวแล้ว 23 ราย)
  • ภาพรวมการให้ความช่วยเหลือของ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ตั้งแต่ 4 พ.ย. - 13 ธ.ค. 66 (หลังการปิดศูนย์อพยพ) สอท.ฯ ได้ให้ความช่วยเหลือสำรองบัตรโดยสารเครื่องบิน ออกเอกสารการเดินทาง และนำคนไทยส่งสนามบิน รวม 103 ราย ให้คำแนะนำผ่านโทรศัพท์ 177 ราย และให้คำแนะนำผู้ที่เดินทางมายัง สอท.ฯ 80 ราย
  • สถานการณ์การช่วยเหลือตัวประกัน
    • ยังมีการดำเนินการเพื่อให้มีการหยุดยิงระหว่างฝ่ายต่าง ๆ อยู่อย่างต่อเนื่อง
    • เมื่อ 12 ธ.ค. 66 ไทยร่วมกับสมาชิกสหประชาชาติรวม 153 ประเทศ รับรองร่างข้อมติฯ ของอียิปต์ ที่เสนอในที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติวาระพิเศษฉุกเฉิน สมัยที่ 10 เกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง ในหัวข้อการปกป้องพลเรือนและการยึดมั่นในพันธกรณีด้านกฎหมายและมนุษยธรรม ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ซึ่งมีสาระสำคัญ 3 ประเด็น คือ (1) เรียกร้องให้หยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมโดยทันที (2) ปล่อยตัวประกันโดยทันทีและไม่มีเงื่อนไข และ (3) เรียกร้องให้ทุกฝ่ายเคารพกฎหมายระหว่างประเทศ
    • สอท. ณ กรุงเทลอาวีฟ รายงานว่า ฝ่ายอิสราเอลประกาศว่าตัวประกัน 19 ราย จากทั้งหมด 135 ราย
      ที่ยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ เสียชีวิต (ไม่ได้ระบุสัญชาติ)
    • กระทรวงฯ ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่ง สอท.ฯ ในประเทศที่เกี่ยวข้องยังเดินหน้าเจรจากับ กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีการปล่อยตัวประกันต่อไป

 

  1. ความคืบหน้าการช่วยเหลือคนไทยจากเมืองเล้าก์ก่าย รัฐฉาน เมียนมา
  • กระทรวงฯ ร่วมกับ สอท. ณ กรุงย่างกุ้ง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ความช่วยเหลืออพยพคนไทยและผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียนฯ ออกจากเมืองเล้าก์ก่ายและเมืองอื่น ๆ ในรัฐฉาน กลับไทยแล้ว 414 คน ดังนี้
    • การอพยพโดยเครื่องบินเช่าเหมาลำกลับไทย 349 คน โดยกระทรวงฯ ร่วมกับ สอท. ณ กรุงย่างกุ้ง สอท. ณ กรุงปักกิ่ง และ สกญ. ณ นครคุนหมิง 2 ครั้ง โดยเมื่อวันที่ 19 พ.ย. 66 อพยพคนไทย 266 คน พร้อมคนฟิลิปปินส์ 4 คน และคนสิงคโปร์ 1 คนและเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 66 อพยพคนไทย 83 คน และคนมาเลเซีย 3 คน 
    • การให้ความช่วยเหลืออพยพคนไทยที่หลบหนีจากการสู้รบเมืองเล้าก์ก่ายมายังพื้นที่อื่นด้วยตนเอง โดย สอท. ณ กรุงย่างกุ้ง ได้จัดให้เดินทางผ่านเชียงตุงและท่าขี้เหล็ก เพื่อกลับเข้าไทยที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยเมื่อวันที่ 18 พ.ย. 66 อพยพคนไทย 41 คนวันที่ 24 พ.ย. 66 อพยพคนไทยจากเมืองเพี่ยน 24 คน และเมื่อเช้าของวันนี้ คนไทยอีก 111 คน ได้รับความช่วยเหลือจาก สอท. ณ กรุงย่างกุ้ง เพื่อเดินทางออกจากเชียงตุงและเดินทางกลับไทยผ่านทางท่าขี้เหล็ก ซึ่งได้เดินทางถึงไทยแล้วเมื่อช่วงเที่ยงวันนี้
    • เมื่อกลับถึงไทย คนไทยทั้งหมดจะได้เข้ารับการคัดกรองและคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ (National Referral Mechanism: NRM) ทั้งกรุงเทพฯ และที่ จ. เชียงราย เพื่อคัดกรองผู้ที่ตกเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์และกลุ่มที่อยู่ในข่ายอาชญากรรมข้ามชาติต่อไป

 

  1. การเดินทางเยือนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการของ รนรม./รมว.กต. (12 - 13 ธ.ค. 66)
  • รนรม./รมว.กต. ได้เดินทางเยือนซาอุดีฯ อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 12 - 13 ธ.ค. 66
  • เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 66 รนรม./รมว.กต. ได้พบหารือทวิภาคีกับ ดร. มาจิด บิน อับดุลเลาะห์ อัลก็อซซอบี รมว.พณ.ซาอุดีฯ โดย รนรม./รมว.กต. เป็นแขกอย่างเป็นทางการของ พณ. และสำนักงานการค้าต่างประเทศซาอุดีฯ เพื่อเข้าร่วม Thailand Mega Fair 2023 ซึ่งฝ่ายซาอุดีฯ ร่วมสนับสนุนการจัดงานด้วย ซึ่ง รนรม./รมว.กต. ได้ติดตาม/ผลักดันผลการเยือนซาอุดีฯ ของ นรม. เมื่อเดือน ต.ค. 66 ในประเด็นสินค้าปศุสัตว์ ประมง และการเกษตร รวมไปถึงความเป็นไปได้ในการจัดทำความตกลงเขตการค้าเสรีระหว่างไทยกับ GCC ทั้งสองฝ่ายยินดีกับการเติบโตของมูลค่าการค้าที่เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ ขณะที่ฝ่ายซาอุดีฯ ประสงค์จะเห็นการสร้างสัมพันธ์ระหว่างประชาชนสองประเทศ รวมถึงแลกเปลี่ยนด้านท่องเที่ยว วัฒนธรรม และสินค้าต่าง ๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา กระทรวงฯ ได้นำภาครัฐและภาคเอกชนเข้าร่วมเทศกาลภาพยนตร์ที่ซาอุดีฯ ด้วย
  • ช่างกลางวัน รนรม./รมว.กต. ได้เข้าร่วมกิจกรรมสร้างเครือข่ายทางธุรกิจไทย-ซาอุดีฯ ซึ่ง ออท. ณ กรุงริยาด เป็นเจ้าภาพ ที่ทำเนียบ ออท. โดยมีประธานกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย-ซาอุดีฯ ผู้บริหารและนักธุรกิจไทยและซาอุดีฯ รวมถึงหอการค้าไทยที่เป็นเจ้าภาพมาร่วมงานด้วยรวมกว่า 100 คน
  • ช่วงบ่าย รนรม./รมว.กต. ได้พบหารือทวิภาคีกับนายคอลิด บิน อับดุลอะซีซ อัลฟาลิห์ รมว.การลงทุนซาอุดีฯ เพื่อติดตาม/ผลักดันผลการเยือนซาอุดีฯ ของ นรม. โดยเฉพาะการส่งเสริมการลงทุนระหว่างกัน การเปิดสำนักงาน BOI ในกรุงริยาด ซึ่งคาดว่าจะเป็นต้นปี 2567 การผลักดันความร่วมมือและการลงทุนด้านพลังงานโดยเฉพาะ Green Hydrogen ซึ่งฝ่ายซาอุดีฯ เล็งเห็นศักยภาพของไทยที่จะเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมสีเขียว รวมถึงได้หารือเรื่องการจัดทำความตกลงเขตการค้าเสรีระหว่างไทยกับ GCC ด้วย อีกทั้งยังได้แสดงความพร้อมของฝ่ายไทยที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสภาความร่วมมือซาอุดีฯ-ไทย ครั้งที่ 1 ในเดือน ม.ค. 2567 โดยมี รมว.กต. ของทั้งสองฝ่ายเป็นประธานร่วม ขณะที่จะมีผู้แทน พณ.ซาอุดีฯ และกระทรวงการลงทุนซาอุดีฯ ร่วมในการประชุมด้วย
  • ช่วงเย็น รนรม./รมว.กต. ได้เป็นประธานในพิธีเปิดงานแสดงสินค้า Thailand Mega Fair 2023 ที่อารีนาริยาด ซึ่งเป็นงานที่หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ร่วมกับบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) เป็นเจ้าภาพจัดระหว่างวันที่ 13 - 16 ธ.ค. 66 โดยมี สอท. ณ กรุงริยาด และสำนักงานการค้าต่างประเทศซาอุดีฯ ร่วมสนับสนุน พิธีเปิดมี รมว.แรงงาน รมว.พณ.ซาอุดีฯ รมว.การลงทุนซาอุดีฯ ประธานหอการค้าไทย และภาคเอกชน เข้าร่วมจำนวนมาก งานในครั้งนี้เป็นการแสดงสินค้าและบริการคุณภาพสูงที่ใหญ่ที่สุดในซาอุดีฯ มีผู้ประกอบการไทยกว่า 120 บริษัทจากสาขาต่าง ๆ มาเข้าร่วม ถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับภาคเอกชนไทยในการเจาะตลาดกลุ่มผู้บริโภค สร้างเครือข่ายกับนักธุรกิจในซาอุดีฯ และในภูมิภาค รวมทั้งขยายช่องทางการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวด้วย ในการนี้ รนรม./รมว.กต. ได้ย้ำความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนระหว่างไทยกับซาอุดีฯ ซึ่งสอดคล้องกับแนวนโยบายเศรษฐกิจเชิงรุกของรัฐบาล โดยมุ่งเน้น 3 ประเด็น คือ การเติบโตสีเขียว การเติบโตโดยนวัตกรรม และการเติบโตโดยมีชุมชนเป็นพื้นฐาน โดยยินดีที่มีซาอุดีฯ เป็นหุ้นส่วนหลักในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างกัน

 

  1. การประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่นสมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่น (14 - 18 ธ.ค. 66)
  • เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 66 นรม. พร้อมด้วย รนรม./รมว.กต. ได้เดินทางถึงกรุงโตเกียว เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน - ญี่ปุ่นสมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน – ญี่ปุ่น ตามคำเชิญของนายคิชิดะ ฟูมิโอะ นรม. ญี่ปุ่น โดยที่ประชุมฯ จะหารือการขับเคลื่อนความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์แบบรอบด้านอาเซียน-ญี่ปุ่น และร่วมกำหนดวิสัยทัศน์ความร่วมมืออาเซียน-ญี่ปุ่น ในอนาคต
  • ในช่วงการเยือนครั้งนี้ นรม. มีกำหนดการสำคัญอื่น ๆ อาทิ การเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่น การพบหารือทวิภาคีกับ นรม. ญี่ปุ่น รวมทั้งการประชุมหารือกับผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานภาครัฐและบริษัทเอกชนของญี่ปุ่นในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมที่เป็นเป้าหมายของไทย
  • นรม. และ รนรม./รมว.กต. จะร่วมกล่าวปาฐกถาในงานสัมมนาการลงทุน Thailand – Japan Investment Forum ซึ่งจัดโดยคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เพื่อเพิ่มพูนการลงทุนระหว่างสองประเทศ
  • การประชุมครั้งนี้ จัดขึ้นในช่วงที่ไทยทำหน้าที่ประเทศผู้ประสานงานอาเซียน- ญี่ปุ่น (วาระ 2564 – 2567) โดยมุ่งมั่นจะผลักดันประเด็นความร่วมมือใหม่ ๆ ท่ามกลางความท้าทายร่วมต่าง ๆ และสนับสนุนบทบาทญี่ปุ่นในการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในไทยและภูมิภาค อีกทั้งดึงดูดให้ญี่ปุ่นมีส่วนร่วมพัฒนาเศรษฐกิจของภูมิภาคและไทย โดยเฉพาะการเติบโตสีเขียว การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานและดิจิทัล รวมถึงประชาสัมพันธ์นโยบายและโครงการสำคัญของรัฐบาล เช่น Landbridge การพัฒนาระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟฟ้า และ soft power ด้วย

 

  1. ของขวัญปีใหม่ 2567 จากกระทรวงการต่างประเทศ
  • บริการการทำพาสปอร์ตทันใจ ทำเช้า-ได้บ่าย 100 คน / วัน (ทั้งจองคิวออนไลน์และ walk in) โดยจ่ายค่าบริการในอัตราปกติ (เล่ม 5 ปี 1,000 บาท และเล่ม 10 ปี 1,500 บาท) โดยไม่ต้องเสียค่าเล่มด่วน 2,000 บาท ระหว่างวันที่ 2-12 ม.ค. 2567 ในวันทำการ โดยยื่นคำร้องก่อน 11.30 น. ที่กรมการกงสุล ถ. แจ้งวัฒนะ หรือ
    สนง. นสดท. ทุกแห่ง และรอรับเล่มวันเดียวกันเวลา 14.30 – 16.30 น. ที่อาคารกรมการกงสุล ถ. แจ้งวัฒนะ เท่านั้น
  • บริการทำพาสปอร์ตในวันเสาร์-อาทิตย์ ตลอดทั้งปี ที่ สนง. นสดท. ปทุมวัน MBK Center และ สนง. นสดท. บางใหญ่ ที่ Central West Gate
  • บริการแปลเอกสารภาษาอังกฤษ ฟรี เพื่อทำนิติกรณ์เอกสาร (จำนวนคนละ 1 เอกสาร) ระหว่าง 2-12 ม.ค. 2567 ในวันทำการ ที่อาคารกรมการกงสุล และ สนง. นสดท. ภูเก็ต เชียงใหม่ และพัทยา
  • บริการรถเคลื่อนที่ (Bangkok Mobile Service) โดยกรมการกงสุลร่วมกับกรุงเทพมหานคร ให้บริการทำบัตรประจำตัวประชาชนและบริการคัดสำเนาเอกสาร (ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ) ได้แก่ ทะเบียนบ้าน สูติบัตร และมรณบัตร ระหว่าง 15-26 ม.ค. 2567 ในวันทำการ ณ ลานจอดรถกรมการกงสุล แจ้งวัฒนะ
  • บริการกงสุลสัญจร เดือนละ 1 ครั้ง รวม 12 ครั้ง ตลอดทั้งปี ในพื้นที่ที่ไม่มี สนง. นสดท. ตั้งอยู่ โดยสามารถติดตามข่าวสารได้จากกรมการกงสุล

ประชาสัมพันธ์บริการพิเศษในขณะนี้และกงสุลสัญจรปลายเดือนนี้

  • กรมการกงสุลเปิดรับทำพาสปอร์ต (ค่าธรรมเนียมตามปกติ) ที่งานกาชาด ที่สวนลุมพินี ณ ซุ้ม กต. ใกล้ประตู 3 จนถึงวันที่ 18 ธ.ค. 66 จำกัดจำนวน 70 คิว/วัน โดยเริ่มแจกบัตรคิวเวลา 12.00 น.
  • กรมการกงสุลจะให้บริการกงสุลสัญจร ที่ จ. มุกดาหาร ระหว่างวันที่ 21 - 25 ธ.ค. 2566 เวลา 08.30 -30 น. ที่ศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร จำนวน 1,000 คิว/วัน เพื่อจัดทำหนังสือเดินทางสำหรับบุคคลทั่วไป โดยมีค่าธรรมเนียมตามปกติ

 

  1. การเตือนคนไทยใน ตปท. เรื่องกลุ่ม call center แอบอ้างว่าเป็น จนท. สอท./สกญ.
  • ขณะนี้มีการหลอกลวงออนไลน์หรือโดยกลุ่ม call center เกิดขึ้นกับชุมชนไทยในต่างประเทศด้วย โดยมีการแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ สอท./สกญ. และหลอกให้แจ้งข้อมูลส่วนบุคคลหรือโอนเงินให้ จึงขอเตือนภัยพี่น้องคนไทยในต่างประเทศทุกท่านให้มีความระมัดระวังและไม่หลงเชื่อการหลอกหลวงเหล่านี้โดยไม่ให้ข้อมูลส่วนตัว และหลีกเลี่ยงการสนทนา ทั้งนี้ หากไม่แน่ใจ สามารถตรวจสอบข้อมูลกับ สอท./สกญ. ในพื้นที่ของท่านได้

* * * * *

กองการสื่อมวลชน

กรมสารนิเทศ

รับชมแถลงข่าวย้อนหลัง https://www.facebook.com/ThaiMFA/videos/1785803505203657/

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ