สรุปการแถลงข่าวโดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
ในประเด็นการเยือนกาตาร์และอียิปต์ของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
วันศุกร์ที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ เวลา ๑๑.๐๐ น. ณ ห้องแถลงข่าว
และทาง Facebook live กระทรวงการต่างประเทศ
- หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ในอิสราเอลและกาซา รัฐบาลไทยมีความห่วงใยในสถานการณ์เป็นอย่างมาก และได้ประสานงานกับรัฐบาลที่สามารถเข้าถึงกลุ่มฮามาส รวมถึงกลุ่มที่มีเครือข่ายที่จะเข้าถึงกลุ่มฮามาสได้ เพื่อให้ตัวประกันไทยได้รับการปล่อยตัวอย่างปลอดภัย
- รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เดินทางเยือนกาตาร์และอียิปต์ ระหว่างวันที่ ๓๐ ตุลาคม – ๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ โดยได้พบกับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่าง ๆ รวม ๔ ท่าน ได้แก่ (๑) นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกาตาร์(๒) รัฐมนตรีแห่งรัฐกาตาร์ ซึ่งดูแลเรื่องการให้ความช่วยเหลือตัวประกัน (๓) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนกาตาร์พอดี ที่กรุงโดฮา กาตาร์ และ (๔) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอียิปต์ ที่กรุงไคโร อียิปต์
- ทั้งสามประเทศ (กาตาร์ อิหร่าน และอียิปต์) มีความสัมพันธ์ที่ดีกับไทยและมีช่องทางที่สามารถเข้าถึงกลุ่มฮามาสได้ อีกทั้งแสดงท่าทีที่พร้อมจะให้ความช่วยเหลือไทยอย่างเต็มที่
- ประเด็นที่ได้มีการหารือ
- รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศชี้แจงและขอให้ช่วยสื่อสารข้อมูลให้กับกลุ่มฮามาสว่า แรงงานไทยส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร มาจากครอบครัวที่มีรายได้น้อย และมาทำงานเพื่อสนับสนุนครอบครัวที่ประเทศไทย จึงไม่มีความเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางการเมืองใด ๆ ทั้งสิ้น
- รองนายกรัฐมนตรีฯ ได้รับทราบว่า กลุ่มฮามาสที่จับตัวประกันไปไม่ได้มีกลุ่มเดียวและมีอย่างน้อยสองกลุ่มขึ้นไป ดังนั้น อาจต้องมีการเจรจากับหลายกลุ่มเพื่อให้มีการปล่อยตัวประกันโดยเร็ว
- รองนายกรัฐมนตรีฯ ได้ขอรับการสนับสนุนจากทั้งสามประเทศให้มีการผลักดันและช่วยเจรจาให้มีการปล่อยตัวคนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งทั้งสามประเทศรับจะดำเนินการถ่ายทอดข้อความแสดงความประสงค์ของไทยให้ในทันที และขอให้ไทยสนับสนุนให้มีการหยุดยิงอย่างรวดเร็วอีกทางหนึ่ง ซึ่งจะเป็นโอกาสทำให้ตัวประกันได้รับการปล่อยตัวเร็วขึ้น
- ทั้งนี้ ฝ่ายกาตาร์เชื่อว่าเมื่อสถานการณ์ปลอดภัยและสามารถปล่อยตัวประกันได้ คนไทยจะได้รับการปล่อยตัวเป็นกลุ่มแรก ๆ ขณะที่ฝ่ายอิหร่าน ซึ่งมีความใกล้ชิดกับกลุ่มฮามาส รับจะช่วยเจรจาให้มีการปล่อยตัวประกันคนไทยโดยเร็ว ในส่วนของฝ่ายอียิปต์ ซึ่งได้พบหารือทั้งอย่างเป็นทางการและอาหารกลางวันด้วย ทำให้มีโอกาสได้หารือกันเป็นระยะเวลานานเกี่ยวกับช่องทางในการสื่อสารให้มีการปล่อยตัวประกันโดยเร็ว
- เมื่อมีความคืบหน้าในการปล่อยตัวประกัน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศขอให้ทั้งสามประเทศแจ้งให้เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศต่าง ๆ ทราบในทันที เพื่อให้สถานเอกอัครราชทูตในพื้นที่ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งได้แจ้งกับฝ่ายอียิปต์ซึ่งมีชายแดนติดกับกาซาว่า หากมีการปล่อยตัวบริเวณจุดผ่านแดนราฟาห์ ขอให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร/ผู้แทนรัฐบาลไทย สามารถเดินทางเข้าไปรับตัวประกันในบริเวณชายแดนได้ทันที ซึ่งฝ่ายอียิปต์รับทราบและพร้อมอำนวยความสะดวก
- ขอบคุณความพยายามจากทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐ ภาคประชาชน และกลุ่มต่าง ๆ ที่ช่วยกันประสานเครือข่ายที่รู้จักและเกี่ยวข้องในการผลักดันเพื่อให้มีการปล่อยตัวประกันโดยเร็วที่สุด
- นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้กล่าวในประเด็นการดำเนินการช่วยเหลือคนไทยที่เมืองเล้าก์ก่าย เมียนมา ว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ได้ประสานงานกับทางการเมียนมาอย่างใกล้ชิดเพื่อดูแลคนไทยจำนวน ๑๖๒ คน ซึ่งขณะนี้ ได้รับการช่วยเหลือจากทางการเมียนมาให้อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยแล้ว และอยู่ระหว่างรอกระบวนการส่งตัวกลับประเทศไทย รวมถึงช่วยเหลือคนไทยที่ยังอาจอยู่ในพื้นที่เพิ่มเติม