สรุปการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ วันพฤหัสบดีที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๕ เวลา ๑๕.๐๐ น.

สรุปการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ วันพฤหัสบดีที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๕ เวลา ๑๕.๐๐ น.

วันที่นำเข้าข้อมูล 27 ต.ค. 2565

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 28 ต.ค. 2565

| 10,581 view

สรุปการแถลงข่าวประจำสัปดาห์  
วันพฤหัสบดีที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๕ เวลา ๑๕.๐๐ น.
ทาง Facebook Live กระทรวงการต่างประเทศ

 

๑. การประชุม Special ASEAN Foreign Ministers' Meeting ที่กรุงจาการ์ตา (๒๗ ต.ค. ๒๕๖๕)

  • รนรม./รมว.กต. เข้าร่วม กปช.รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน สมัยพิเศษ (Special ASEAN Foreign Ministers’ Meeting) ณ สนง.เลขาธิการอาเซียน
    กรุงจาการ์ตา
    เพื่อหารือแนวทางขับเคลื่อน
    การดำเนินการตามฉันทามติ ๕ ข้อ (Five-Point Consensus) รวมทั้งจัดทำข้อเสนอให้ผู้นำอาเซียนพิจารณาใน กปช.สุดยอดอาเซียนที่กรุงพนมเปญในเดือน พ.ย.ต่อไป
  • รนรม./รมว.กต.กัมพูชา ปรัก สุคน (Prak Sokhonn) ในฐานะ ปธ.กปช.ได้ออกแถลงการณ์ของ ปธ. (Statement of the Chair) สรุปว่า ทปช.ได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในการขับเคลื่อนฉันทามติ ๕ ข้อ และแนวทางการแก้ไขวิกฤติการณ์ในเมียนมา รวมถึงการให้เมียนมามีปฏิสัมพันธ์กับอาเซียนต่อไป ตลอดจนการสร้างประชาคมอาเซียนโดยไม่มีความชะงักงัน การให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่เมียนมา และการประเมินความต้องการเพื่อนำไปสู่การจัดตั้ง ASEAN Coordinating Centre for Humanitarian Assistance on Disaster Management (AHA Centre)
  • ทปช.เน้นย้ำความเป็นแกนกลางของอาเซียน และการนำสันติภาพและความปกติสู่ประชาชนเมียนมา และยังเน้นย้ำการสนับสนุนของกัมพูชาในฐานะ ปธ.อาเซียนและ รนรม./รมว.กต.กัมพูชาในฐานะผู้แทนพิเศษของ ปธ.อาเซียนเรื่องเมียนมา

๒. พิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานของ กต. ประจำปี ๒๕๖๕

  • นายวิชาวัฒน์ อิศรภักดี ผช.รมต.ประจำ กต. เป็น ปธ.ในพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน กต. ณ วัดพุทไธศวรรย์ ต.สำเภาล่ม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.อยุธยา โดยมีข้าราชการ เจ้าหน้าที่ กต. ตลอดจนคณะผู้บริหาร ข้าราชการใน จ.พระนครศรีอยุธยาและพุทธศาสนิกชนในพื้นที่เข้าร่วมพิธีด้วย ทั้งนี้ ยอดเงินที่ถวายพระกฐินพระราชทาน กต. ประจำปี ๒๕๖๕ ทั้งสิ้น ๗,๑๙๑,๙๓๙.๙๙ บาท
  • ในช่วงเช้า ผช.รมต.ประจำ กต. และคณะผู้บริหาร กต. ได้เดินทางไปที่ ร.ร.อนุบาลพระนครศรีอยุธยา เพื่อเยี่ยม ร.ร.ในเครือข่ายมูลนิธิยุวทูตความดี โดยมีนางจุไรรัตน์ เอิบกมล ผอ. ร.ร.อนุบาลพระนครศรีอยุธยา ครู และตัวแทนนักเรียนให้การต้อนรับ ผช.รมต.ประจำ กต. มอบทุนการศึกษามูลนิธิยุวทูตความดีให้แก่นักเรียนที่มี
    ความประพฤติดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ให้กับนักเรียนจำนวน ๓๕ คน ทุนละ ๒,๕๐๐ บาท พร้อมเงินสนับสนุน ร.ร. ๑๕,๐๐๐ บาท และเยี่ยมชมนิทรรศการผลงานดีเด่นของ ร.ร.
  • รป.กต. ศรัณย์ เจริญสุวรรณ จะเป็น ปธ.ในการเชิญผ้ากฐินพระราชทานไปทอดถวาย ณ วัดบินาซุรีศมศานวิหาร เมืองจิตตะกอง บังกลาเทศ ในวันที่ ๒๙ ต.ค. ๒๕๖๕ รวมทั้งจะเดินทางไปกรุงธากา เพื่อเข้าร่วมการหารือกับ ปกต.บังกลาเทศ เข้าเยี่ยมคารวะ รมว.กต.บังกลาเทศ และเข้าร่วมงานสัมมนาความสัมพันธ์ ๕๐ ปี
    ไทย-บังกลาเทศ ซึ่งถือเป็นกิจกรรมในโอกาสครบรอบความสัมพันธ์ ระหว่างวันที่ ๓๐-๓๑ ต.ค. นี้

๓. การประชุมรัฐมนตรีคลังเอเปค ครั้งที่ ๒๙ (๑๙ - ๒๐ ต.ค. ๒๕๖๕)

  • กค.เป็นเจ้าภาพจัด กปช.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปค ครั้งที่ ๒๙ ณ ศูนย์ กปช.แห่งชาติสิริกิติ์ โดยมี รมว.กค.เป็น ปธ. และมีผู้เข้าร่วม กปช.ประกอบด้วย รมว.กค. และผู้แทนจาก ๒๑ เขตเศรษฐกิจ และผู้บริหารองค์การระหว่างประเทศ ได้แก่ ธนาคารพัฒนาเอเชีย กองทุนการเงินระหว่างประเทศ กลุ่มธนาคารโลก องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา และหน่วยงานสนับสนุนนโยบายของเอเปค เพื่อร่วมหารือในประเด็นด้านเศรษฐกิจการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อมุ่งสู่การเป็นเศรษฐกิจดิจิทัล ภายใต้แนวคิด “ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล มุ่งสู่การเงินการคลังยั่งยืน”
  • ทปช.ได้หารือในประเด็นการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน การพิจารณาใช้กลไกของกองทุนสีเขียวของอาเซียน เพื่อช่วยในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
    สีเขียว รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อมุ่งสู่การเป็นเศรษฐกิจดิจิทัล
  • ทปช.ได้ออกแถลงการณ์ ปธ.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปค ครั้งที่ ๒๙ เป็นเอกสารผลลัพธ์ของ กปช. โดยมีสาระเกี่ยวกับ (๑) ประเด็นเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจภูมิภาคเอเปค ประเด็นเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจภูมิภาคเอเปค (๒) การเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน การเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับทุกภาคส่วนเป็นสิ่งสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างครอบคลุมและยั่งยืน และจะสามารถนำไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (๓) การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อมุ่งสู่การเป็นเศรษฐกิจดิจิทัล การพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในการดำเนินนโยบายช่วยเหลือต่าง ๆ มีความสำคัญอย่างยิ่ง (๔) การดำเนินการตามแผนปฏิบัติการเซบูส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสมาชิกเขตเศรษฐกิจเอเปคในการเสนอนโยบายที่จะดำเนินการภายใต้ยุทธศาสตร์การนำแผนปฏิบัติการเซบูสู่การปฏิบัติฉบับใหม่ (๕) ประเด็นอื่น ๆ เช่น การบริหารความเสี่ยงและการประกันภัยเพื่อรองรับความเสี่ยงจากภัยพิบัติ การเพิ่มความร่วมมือกับภาคเอกชนในการดำเนินงานของเอเปค การร่วมมือกับองค์การระหว่างประเทศในการจัดทำเอกสารข้อมูลจากสมาชิกเขตเศรษฐกิจเอเปคและการพัฒนาการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพและนำไปสู่ความยั่งยืน เป็นต้น
  • ทปช.รับทราบการจัดทำเอกสารจำนวน ๖ ฉบับ ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมสำหรับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การเงิน และการคลัง ในปีนี้ และเป็นการสานต่อ
    ความร่วมมือระหว่างเขตเศรษฐกิจเพื่อ
    การมุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนทางเศรษฐกิจและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

๔. รมว.กต.ออสเตรเลีย เยือนไทย (๑-๒ พ.ย. ๒๕๖๕)

  • รมว.กต.ออสเตรเลีย เพนนี หว่อง (Penny Wong) มีกำหนดเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของ กต. โดยจะพบหารือทวิภาคีกับ รนรม./รมว.กต. และมีกำหนดเข้าเยี่ยมคารวะ นรม. ในวันที่ ๒ พ.ย. ๒๕๖๕
  • รนรม./รมว.กต.และ รมว.กต.ออสเตรเลีย จะร่วมลงนามในแผนปฏิบัติการร่วมว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างไทยกับออสเตรเลีย ค.ศ. ๒๐๒๒ - ๒๐๒๕ ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากการที่ นรม.ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในปฏิญญาร่วมว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างราชอาณาจักรไทยกับออสเตรเลีย เมื่อวันที่ ๑๓ พ.ย. ๒๕๖๓ เพื่อยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ โดยทั้งสองประเทศจะร่วมกันขับเคลื่อนความร่วมมือในทุกมิติในระยะเวลา ๔ ปี ผ่านกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ ครอบคลุมความร่วมมือ ๓ ด้าน (๑) ด้านการเมือง การทหาร และความมั่นคงรูปแบบใหม่ อาชญากรรมข้ามชาติ ยาเสพติดและการค้ามนุษย์ (๒) ด้านเศรษฐกิจ รวมถึงสาขาเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจ สีเขียว และเศรษฐกิจดิจิทัล (๓) ความร่วมมือรายสาขา อาทิ สาธารณสุข เกษตร การศึกษา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการวิจัย พลังงานและสิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการภัยพิบัติ การปกป้องสตรี เด็กผู้หญิงและผู้พิการ โดยให้สอดคล้องกับการดำเนินความร่วมมือในกรอบอาเซียน อนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงและกรอบพหุภาคี เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและส่งเสริมการเจริญเติบโตของทั้งสองประเทศอย่างครอบคลุมและยั่งยืน
  • รมว.กต.ออสเตรเลียจะลงนามในบันทึกความเข้าใจการจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ระหว่างไทยกับออสเตรเลีย กับ รมว.ยุติธรรม เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและความร่วมมือด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์
  • การเยือนครั้งนี้เป็นการเดินทางเยือนไทยครั้งแรกนับตั้งแต่ รมว.กต.ออสเตรเลียเข้ารับตำแหน่ง และเป็นโอกาสกระชับความสัมพันธ์และเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกันในบริบทของการครบรอบ ๗๐ ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับออสเตรเลียในฐานะเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์

๕. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานภาพถ่ายฝีพระหัตถ์เพื่อการจัดทำหนังสือฉบับอิเล็กทรอนิกส์ “โลกมุสลิมในสายพระเนตร”

  • สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ที่ทรงบันทึกไว้ในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนกลุ่มประเทศโลกมุสลิม และการเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมพสกนิกรชาวไทยมุสลิมในหลายพื้นที่ของประเทศไทยในห้วงปี ๒๕๔๗ - ๒๕๕๕ แก่ กต. เพื่อประมวลเรียบเรียงขึ้นเป็นหนังสือ “โลกมุสลิมในสายพระเนตร” และเผยแพร่แก่สาธารณชนในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ในครั้งนี้
  • หนังสือภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอภาพสะท้อนวิถีชีวิตและวัฒนธรรมที่หลากหลายของชาวมุสลิมในนานาประเทศ ทั้งในมิติศาสนา วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม และประวัติศาสตร์ ที่บันทึกผ่านสายพระเนตรของพระองค์ท่าน ซึ่งจะช่วยให้ขยายขอบเขตความรู้ความเข้าใจของผู้อ่านต่อประเทศโลกมุสลิมให้กว้างขวางออกไป
  • กต.หวังเป็นอย่างยิ่งว่า หนังสือภาพถ่ายฝีพระหัตถ์เล่มนี้จะเป็นสื่อกลางไปยังทั้งสาธารณชนไทยและประชาคมระหว่างประเทศให้ตระหนักถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยในการส่งเสริมการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม เฉกเช่นประชาชนทุกหมู่เหล่าที่แม้แตกต่างกันทางเชื้อชาติศาสนา แต่ก็สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขบนแผ่นดินไทย

๖. รนรม./รมว.กต.เปิดตัวและขอบคุณพันธมิตรด้านการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ (APEC Communication Partners) (๒๕ ต.ค. ๒๕๖๕)

  • กต.ได้จัดงานเปิดตัวพันธมิตรด้านการสื่อสารและประชาสัมพันธ์การเป็นเจ้าภาพความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ปี ๒๕๖๕ ของไทย และองค์กรที่สนับสนุนการประชาสัมพันธ์และองค์กรธุรกิจเพื่อสังคม (APEC Communication Partners) และกิจกรรมปล่อยขบวนรถ APEC 2022 Thailand ณ วิเทศสโมสร
    โดย รนรม./รมว.กต.เป็น ปธ. พร้อมด้วยผู้แทนภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรธุรกิจเพื่อสังคม ๔๘ บริษัท/องค์กรและสื่อมวลชน เข้าร่วมกว่า ๒๐๐ คน
  • กรมสารนิเทศ กต. ได้สร้างพันธมิตรกับภาคเอกชนและภาคประชาสังคมในรูปแบบ APEC Communication Partners องค์กรที่สนับสนุนการประชาสัมพันธ์ และองค์กรธุรกิจเพื่อสังคม ซึ่งได้สนับสนุนและทำงานร่วมกับกรมสารนิเทศตลอดวาระการเป็น
    เจ้าภาพของไทย พันธมิตรดังกล่าวได้มีส่วนร่วมสนับสนุนการประชาสัมพันธ์การเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทยอย่างต่อเนื่องผ่านช่องทางต่าง ๆ ตลอดปี ๒๕๖๕ อาทิ การนำตราสัญลักษณ์ APEC 2022 Thailand ใช้ในการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ ทั้งโทรทัศน์ สื่อออนไลน์ และสื่อกลางแจ้ง รวมทั้งบนผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ สนับสนุนพื้นที่ของห้างสรรพสินค้าและสถานศึกษาเพื่อจัดกิจกรรมเกี่ยวกับเอเปค นอกจากนี้ ยังร่วมจัดคูหาประชาสัมพันธ์และแสดงผลิตภัณฑ์ของภาคส่วนต่าง ๆ ในบริเวณศูนย์ข่าว ระหว่าง ๑๔ - ๑๙ พ.ย. ๒๕๖๕ ณ ศูนย์ กปช.แห่งชาติสิริกิติ์ ผลิตอุปกรณ์จากวัสดุหมุนเวียนเป็นของใช้ และเพื่อใช้ในการตกแต่งสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงพื้นที่ศูนย์ข่าว

๗. การเตรียมการด้านสื่อมวลชน การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค

  • กปช.ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคในวันที่ ๑๔ - ๑๙ พ.ย. ๒๕๖๕ จะปิดรับลงทะเบียนสำหรับสื่อมวลชนที่ต้องการเข้ามาทำข่าวในช่วงเวลาดังกล่าวในวันที่ ๓๑ ต.ค. ๒๕๖๕ กต.จึงขอย้ำแนวทางในการลงทะเบียน ดังนี้
  • สื่อมวลชนที่ต้องการเข้ามาทำข่าว สามารถส่งอีเมลมาที่ [email protected] พร้อมส่งข้อมูลดังนี้ (๑) ชื่อ-สกุล (๒) อีเมล (๓) สำนักข่าว และ (๔) หนังสือรับรองการทำงานที่ออกโดยสำนักข่าวของท่าน โดยหลังจากได้รับข้อมูล เจ้าหน้าที่จะตอบกลับทางอีเมล พร้อมแนะนำวิธีลงทะเบียนออนไลน์ให้เสร็จสมบูรณ์ผ่าน APEC 2022 Media Portal
  • การลงทะเบียนต้องเป็นการลงเป็นรายบุคคลเท่านั้น สามารถตรวจสอบขั้นตอนการลงทะเบียนและรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติม อาทิ รายละเอียดการรับบัตรสื่อมวลชน
    การจองบูธสำนักข่าว ได้ที่ https://www.apec2022.go.th/media-kit/

๘.  กต.แนะนำการเดินทางและทำงานในประเทศเสี่ยงอันตราย

  • กรณีที่มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศมาลีเพียงลำพังและถูกลักพาตัว และล่าสุดได้รับการช่วยเหลือให้ออกมาได้อย่างปลอดภัยจนได้เดินทางกลับไทยแล้วเมื่อวันที่ ๒๕ ต.ค. ๒๕๖๕ นั้น กต.ขอแจ้งเตือนผู้ที่จะเดินทางหรือมาทำงานใน ๑๓ ประเทศแอฟริกา ได้แก่ เซเนกัล โกตดิวัวร์ บูร์กินาฟาโซ กินี กินี-บิสเซา มาลี แกมเบีย เซียร์ราลีโอน โตโก กาบอง กาบูร์เวร์ดี ไลบีเรีย และไนเจอร์ ตลอดจนประเทศที่มีสถานการณ์พิเศษ เช่น อัฟกานิสถาน ดังนี้
    • ผู้ที่จะเดินทางมาท่องเที่ยว ขอให้ใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง เนื่องจากในหลายพื้นที่อาจมีเหตุอาชญากรรม ลักทรัพย์ หรือเกิดความไม่สงบทางการเมืองได้เป็นระยะ ๆ ทั้งนี้สามารถติดต่อสอบถาม สอท.ถึงข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยในประเทศที่จะเดินทางมา โดยข้อมูลเกี่ยวกับวีซ่าเดินทางเข้าประเทศนั้น ๆ ขอให้ติดต่อ สอท.ของประเทศนั้นโดยตรง หรือสอบถามกรมการกงสุล
    • สำหรับผู้ที่จะมาทำงาน ขอให้ตรวจสอบสัญญาจ้างงาน สอบถามเงื่อนไขต่าง ๆ อย่างถี่ถ้วน เช่น รายละเอียดการทำงาน ซึ่งอาจเป็นการทำงานที่ผิดกฏหมายในประเทศนั้น ๆ หรือนายจ้างจะยึดหนังสือเดินทางเมื่อเดินทางมาถึงหรือไม่ เพื่อให้แน่ใจว่าจะได้รับความเป็นธรรมในการจ้างงาน และก่อนลงนามควรอ่านหรือทำความเข้าใจลักษณะงานและค่าใช้จ่าย ที่อาจเกิดขึ้น โดยอาจหารือ สอท. หรือกรมการกงสุลในเบื้องต้นก่อน
    • ไม่แนะนำให้ชาวไทยเดินทางไปประเทศมาลี หากไม่มีเหตุจำเป็น เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยง มีอาชญากรรมรุนแรง มีภัยการก่อการร้าย และการลักพาตัวชาวต่างชาติ โดยเฉพาะในกรุงบามาโก ชานเมือง และพื้นที่ภาคใต้ของประเทศมาลี หากเกิดเหตุร้าย การให้ความช่วยเหลือจะเป็นไปด้วยความยากลำบากอย่างยิ่ง
  • สามารถติดต่อ สอท. ณ กรุงดาการ์ ได้ทางอีเมล์ [email protected] หรือเฟซบุ๊ก “Royal Thai Embassy – Dakar, Senegal” และกรมการกงสุล หมายเลขโทรศัพท์ ๐๒ ๕๗๒ ๘๔๔๒
  • สำหรับการเดินทางไปอัฟกานิสถานนั้น สอท. ณ กรุงอิสลามาบัด ซึ่งมีเขตอาณาดูแลประเทศอัฟกานิสถาน ได้ออกประกาศเตือนคนไทยเมื่อวันที่ ๒๕ ต.ค. ที่ผ่านมาว่า การเดินทางเข้าอัฟกานิสถานยังมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากยังมีเหตุความไม่สงบ การก่อการร้าย การเรียกค่าไถ่ ตลอดจนการปิดเส้นทางคมนาคม และภาวะขาดแคลนระบบสาธารณสุข ทั้งนี้ ไม่มีสำนักงานของหน่วยงานไทยตั้งอยู่ในอัฟกานิสถาน แต่ข้อมูลจากหน่วยงานในพื้นที่ระบุว่า ไม่แนะนำ/ห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้าไปในอัฟกานิสถาน มัคคุเทศก์ท้องถิ่นที่ชักชวนชาวต่างชาติให้เดินทางเข้าไปท่องเที่ยวไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยให้กับชาวต่างชาติหรือตนเองได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากสถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงได้อย่างกระทันหัน สอท.จึงยังคงขอให้คนไทยหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าไปในอัฟกานิสถาน ส่วนคนไทยซึ่งทำงานในองค์กรระหว่างประเทศในอัฟกานิสถานปฎิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัยของหน่วยงานต้นสังกัดอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ สามารถแจ้งการเข้า-ออก อัฟกานิสถาน ให้ สอท.ทราบได้ที่หมายเลข +๙๒ ๕๑ ๘๔๓-๑๒๗๐ หรืออีเมล์[email protected]

๙. รายการบันทึกสถานการณ์ และ MFA Update

  • วันพฤหัสบดีที่ ๒๗ ต.ค. ๒๕๖๕ เวลา ๐๘.๓๐ - ๐๘.๔๕ น. รายการ “บันทึกสถานการณ์” ทาง FM 92.5 (ภาษาไทย) ได้สัมภาษณ์ น.ส.เชาวนี ตังวงศ์ประเสริฐ นักการทูตชำนาญการพิเศษ กรมสารนิเทศ ในหัวข้อ “บทบาทของกระทรวงการต่างประเทศ กับการต่อต้านข่าวบิดเบือน” รับชมย้อนหลังได้ทาง youtube “MFA Thailand Channel”
  • วันศุกร์ที่ ๒๘ ต.ค. ๒๕๖๕ เวลา ๐๘.๐๕ - ๐๘.๒๐ น. รายการ “MFA Update” FM 88.0 (ภาษาอังกฤษ) จะสัมภาษณ์ น.ส.ปฤณัต อภิรัตน์ รอธ.กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ในหัวข้อ “Youth Engagement and Woman Empowerment in APEC 2022 Thailand” รับชมย้อนหลังได้ทาง youtube “MFA Thailand Channel”

๑๐. รายการเวทีความคิด

  • วันพฤหัสบดีที่ ๒๗ ต.ค. ๒๕๖๕ เวลา ๒๐.๓๐ - ๒๐.๕๘ น. รายการ “เวทีความคิด” จะสัมภาษณนายธนวัต ศิริกุล รอธ.กรมสารนิเทศ ในหัวข้อ “บทบาทของพันธมิตร (APEC Communication Partners) กับการประชาสัมพันธ์การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคของไทย” รับฟังได้ทาง FM 96.5 หรือย้อนหลังทาง youtube “MFA Thailand Channel”  

* * * * *

 

รับชมแถลงข่าวย้อนหลัง: https://www.facebook.com/ThaiMFA/videos/481215407295407

คลิปแถลงข่าว: ช่อง Youtube “MFA Thailand Channel”: https://www.youtube.com/user/mfathailand

กองการสื่อมวลชน
กรมสารนิเทศ

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ

เอกสารประกอบ

pwp_ประกอบการแถลงข่าว_27_ตค_65_as_delivered.pdf