เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2566 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงซันติอาโก ได้จัดงานเลี้ยงรับรองเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติไทย และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2567 ณ โรงแรม Marriott Santiago โดยมีนางสาววิมลพัชระ รักษาเกียรติ เอกอัครราชทูต ณ กรุงซันติอาโกเป็นประธาน และมีนาง Carla Serazzi อธิบดีกรมกิจการพหุภาคี รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงการต่างประเทศชิลี เป็นแขกเกียรติยศ โดยมี Friends of Thailand ผู้แทนจากภาคส่วนต่าง ๆ ของชิลี และชุมชนไทยในชิลีเข้าร่วมประมาณ 120 คน ที่สำคัญ ได้แก่ นาย Hellmut Lagos อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์ พลังงาน การศึกษา นวัตกรรม และดาราศาสตร์ นาย Alex Geiger อดีตเอกอัครราชทูตชิลีประจำประเทศไทย ดร. Bruno Dias ประธานสมาคมดาราศาสตร์ชิลี คณะทูตานุทูตในชิลี อาทิ เอกอัครราชทูตอินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย รัสเซีย เอลซัลวาดอร์ เอกวาดอร์ โมร็อกโก รัฐปาเลสไตน์ แอฟริกาใต้ แอลจีเรีย อียิปต์ อิตาลี ยูเครน สวิตเซอร์แลนด์ และเช็ก รวมทั้งผู้แทนภาคเอกชน อาทิ นาง Carolina Tsai เจ้าของร้านซูเปอร์มาร์เก็ตสินค้าเอเชีย China House Market นาง Veronica Rioseco ผู้จัดการใหญ่ บริษัทนำเที่ยว Nomades และเจ้าของร้านอาหารไทย Bangkok Restaurante และร้านอาหาร Curry
เอกอัครราชทูตฯ ได้ถวายความเคารพหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเชิญแขกผู้มีเกียรติร่วมยืนแสดงความเคารพ ระหว่างการบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงชาติชิลี
ในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตฯ ได้กล่าวสุนทรพจน์สดุดี และเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรชาวไทยมาอย่างยาวนานตลอดรัชสมัย 70 ปีแแห่งการครองราชย์ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงสานต่อพระราชปณิธานด้านการพัฒนา โดยเฉพาะการสืบสาน รักษา และต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โครงการแก้ไขปัญหาฝุ่นจากควันไฟ ตลอดจนกล่าวถึงพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ และพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ที่ปวงชนชาวไทยได้ร่วมกันน้อมถวายความจงรักภักดีอย่างพร้อมเพรียงกัน
เอกอัครราชทูตฯ ได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและชิลีที่มีความแน่นแฟ้นและมีพลวัตรอย่างต่อเนื่องในช่วงปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะความสำเร็จของการจัดการประชุม Political Consultations ครั้งที่ 7 ที่มุ่งเน้นให้มีการค้าการลงทุน การแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน การส่งเสริมการวิจัยโดยเฉพาะด้านดาราศาสตร์ และการส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ขยายผลให้เกิดความร่วมมือหลายโครงการ อาทิ การลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงระหว่างสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติกับสมาคมดาราศาสตร์ชิลี การนำนักธุรกิจไทยและชิลีเข้าร่วมโครงการ Latin Link และ Business Matching Roundtable การเยี่ยมชมท่าเรือที่เมือง Valparaiso การศึกษาการแก้ปัญหาขยะและการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่เกาะ Rapa Nui การจัดกิจกรรมฉายภาพยนตร์ไทยในชิลี และการจัดพิธีแสดงธรรมเทศนาเพื่อส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในชิลี
เอกอัครราชทูตฯ ยังได้กล่าวถึงแนวทางการดูแลคนไทยในชิลี ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญของสถานเอกอัครราชทูตฯ ที่จะส่งเสริมให้ชุมชนไทยมีความเข้มแข็งและสามัคคี โดยได้เยี่ยมเยือนชุมชนไทยและกิจการที่มีคนไทยทำงานอยู่อย่างต่อเนื่อง และจัดกิจกรรมให้คำปรึกษาด้านกฎหมายแก่คนไทย และแสดงความหวังว่าฝ่ายชิลีจะให้การสนับสนุนการดูแลชุมชนไทยในชิลีอย่างดีต่อไป
ภายหลังการกล่าวสุนทรพจน์ นาง Carla Serazzi แขกเกียรติยศ ได้กล่าวสุนทรพจน์ชื่นชมความสัมพันธ์ที่ดียิ่งระหว่างไทย - ชิลี ที่มีการแลกเปลี่ยนระหว่างกันในระดับกระทรวงการต่างประเทศเมื่อปีที่ผ่านมา และเชื่อมั่นว่าจะนำไปสู่ความร่วมมือที่หลากหลายมากขึ้นต่อไป นอกจากนี้ ยังได้แสดงความยินดีกับบทบาทของไทยที่มีความเข้มแข็งในอาเซียน และเป็นมิตรประเทศที่สำคัญในเอเชีย โดยไทยเป็นเหมือนสะพานเชื่อมระหว่างชิลีกับอาเซียน ที่นำไปสู่ความร่วมมือระหว่างชิลีและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย
หลังจากนั้นเอกอัครราชทูตฯ ได้เชิญแขกผู้มีเกียรติร่วมดื่มถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และแด่ความสัมพันธ์ระหว่างไทย - ชิลี ให้มีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไป
จากนั้น ได้มีการแสดงรำไทยชุดรำอวยพร หรือระบำกฤดาภินิหาร โดยคณะนักแสดงจากนครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา และการจัดแสดงศิลปะวัฒนธรรมไทย โดยเฉพาะต้มยำกุ้งที่ปรุงโดยแม่ครัวของทำเนียบเอกอัครราชทูตฯ ซึ่งเป็นอาหารได้รับขึ้นทะเบียนในบัญชีรายการตัวแทนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติของ UNESCO เมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา และขนมไทยต่าง ๆ เช่น ฝอยทอง เม็ดขนุน ข้าวเหนียวแก้ว รวมทั้ง การบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อแสดงออกถึงพระอัจฉริยภาพทางดนตรี นอกจากนี้ ยังมีการให้ประสบการณ์นวดแผนไทยบริเวณคอ-บ่า-ไหล่แก่คณะทูตานุทูตและแขกผู้มาร่วมงาน โดยเอกอัครราชทูตฯ ได้กล่าวเชิญชวนแขกผู้ร่วมงานให้ร่วมกิจกรรมของสถานเอกอัครราชทูตฯ ในเดือนธันวาคมนี้ ได้แก่ การแสดงรำไทยที่มีขึ้นในวันที่ 5 ธันวาคม 2567 และพิธีแสดงธรรมเทศนาและเจริญพระพุทธมนต์ ในวันที่ 9 ธันวาคม 2567