วันที่นำเข้าข้อมูล 27 ก.ย. 2565
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 27 ก.ย. 2565
เมื่อวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๖๕ สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองชิงต่าว ได้ร่วมกับซานตงพอร์ตกรุป (Shandong Port Group - SPG) กลุ่มท่าเรือที่แข็งแกร่งที่สุดในภาคเหนือของจีน มีธุรกิจครอบคลุมสายการเดินเรือ การบริการโลจิสติกส์ ธนาคารและ E-Commerce จัดการประชุมออนไลน์เพื่อให้ข้อมูลแก่ผู้ประกอบการไทยเกี่ยวกับเส้นทางเดินเรือใหม่ ระหว่างเมืองชิงต่าวถึงแหลมฉบัง และถึงท่าเรือกรุงเทพฯ ซึ่งเส้นทางใหม่ใช้เวลาเดินทางเพียง ๗ วัน จากเดิม ๑๔-๒๑ วัน พร้อมทั้งให้ข้อมูลบริการการนำเข้าครบวงจร สามารถนำของขึ้นจากเรือได้ทันที รวมทั้งมาตรการตรวจปล่อยสินค้าเน่าเสียง่ายของศุลกากร ด่านหวงต่าว เมืองชิงต่าว ซึ่งเป็นแบบสุ่มตรวจ ทั้งนี้ เพื่อเป็นทางเลือกประกอบการตัดสินใจทำธุรกิจของผู้ประกอบการไทย
ปัจจุบัน ด่านศุลกากรหวงต่าว เมืองชิงต่าว เป็นด่านที่ผลไม้สดไทยเข้าได้กว่า ๒๐ ชนิด อาทิ ทุเรียน มะพร้าว ลำไย ส้มโอ เป็นต้น โดยทางการจัดให้มีเจ้าหน้าที่ตรวจปล่อยสินค้า ๒๔ ชั่วโมง ๗ วัน บริการโลจิสติกส์ในพื้นที่ รวมถึง cold chain ครอบคลุมมณฑลซานตง ซึ่งมีประชากรกว่า ๑๐๐ ล้านคน มี GDP สูงเป็นอันดับ ๓ ของจีน โดยระบบโลจิสติกส์ในพื้นที่จะครอบคลุมมณฑลอื่น ๆ ในภาคเหนือของจีนด้วย ในพื้นที่ที่มีประชากรรวมกันกว่า ๔๐๐ ล้านคน
สถานกงสุลใหญ่ฯ และซานตงพอร์ตกรุปได้เชิญผู้แทนบริษัทตลาดตงฟางติ่งซิ่น ซึ่งมีเครือข่ายจำหน่ายผลไม้สดที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือของจีน ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าในมณฑลซานตงและมณฑลใกล้เคียง รวมกว่า ๒๐๐ ล้านคน โดยปัจจุบัน บริษัทฯ นำเข้าทุเรียนจากไทยประมาณปีละ ๑๐๐,๐๐๐ ตัน จากที่จีนนำเข้าจากไทยประมาณปีละ ๖๖๐,๐๐๐ ตัน บริษัทฯ ยังนำเข้าสินค้าอื่น เช่น มะพร้าว ลำไย และมังคุดจากไทยด้วย บริษัทฯ คาดว่าในอีก ๕ ปีข้างหน้า จีนจะนำเข้าทุเรียนจากไทยปีละประมาณ ๑,๐๐๐,๐๐๐ ตัน ปัจจุบัน ชาวจีนบริโภคทุเรียนคนละประมาณเกือบครึ่งกิโลกรัม ต่อคน ต่อปี ในปี ๒๕๖๘ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น ๐.๗ กิโลกรัม ต่อคน ต่อปี
รูปภาพประกอบ
วันทำการ : จันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.30 - 16.30 น.
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
งานรับ-ส่งหนังสือ และงานสารบรรณ:
อีเมล [email protected]
เว็บไซต์นี้ได้รับการออกแบบเพื่ออำนวยความสะดวกให้ทุกคนเข้าถึงเว็บไซต์ได้และมีมาตรฐาน WCAG 2.0 ระดับ AA
** เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุดควรใช้ Chrome เวอร์ชั่น 76 ขึ้นไป **