เมื่อวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๕ สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองชิงต่าว ได้ร่วมมือกับสถานีโทรทัศน์ QTV-2 ถ่ายทำวิดีโอเพื่อเป็นการส่งเสริมการขายและประชาสัมพันธ์อาหารไทยและผลไม้ไทยในพื้นที่มณฑลซานตง ซึ่งเป็นเขตกงสุลของสถานกงสุลใหญ่ โดยเชิญ Key Opinion Leaders ท้องถิ่น ๓ ราย มาให้ความคิดเห็นร่วมกันภายใต้โจทย์สำคัญ ๒ ข้อ คือ (๑) อาหารไทยเมนูใดเข้ากับสุราประเภทใด รวมทั้งเบียร์ใด ซึ่งสถานกงสุลใหญ่ฯ ได้จัดให้ผู้เข้าร่วมทดลองชิมทั้งเบียร์ไทยและเบียร์ท้องถิ่นเพื่อเปรียบเทียบความแตกต่าง และ (๒) ผลไม้ไทยเข้าคู่กับชาจีนไหม ซึ่งสถานกงสุลใหญ่ฯ ได้เตรียมชาที่ผลิตในพื้นที่ชิงต่าว ซึ่งเป็นที่นิยมของคนในพื้นที่มาสาธิต เพื่อแสดงว่าอาหารไทยกับผลไม้ไทยสามารถเข้าได้กับวิถีที่ชาวจีนในมณฑลซานตงคุ้นเคย

          ในการประชาสัมพันธ์ นางสาวนภัสพร ภัทรีชวาล กงสุลใหญ่ ณ เมืองชิงต่าว ได้กล่าวถึงนโยบายครัวไทยสู่โลก โดยเตรียมอาหารไทย ๕ เมนู ได้แก่ ต้มยำกุ้ง แกงกะหรี่ปู ไก่ห่อใบเตย ส้มตำกับข้าวเกรียบกุ้ง และข้าวสวยหอมมะลิ ในส่วนของเครื่องดื่มได้เตรียมไว้ ๕ รายการ ได้แก่ สุราขาวท้องถิ่น สุราเหลืองท้องถิ่น ไวน์แดงท้องถิ่น เบียร์ชิงต่าว และเบียร์ไทย โดยสรุป ผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมดให้ความเห็นตรงกันว่า นอกจากเบียร์ไทยที่เข้าได้กับทุกเมนู เนื่องจากมีรสชาติที่ขมเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเบียร์ชิงต่าว เมื่อรับประทานคู่กับอาหารไทย รสขมหายไปและทำให้อาหารมีรสชาติกลมกล่อมยิ่งขึ้น นอกจากนี้ กงสุลใหญ่ฯ KOL ทั้ง ๓ ราย และพิธีกร QTV-2 ยังได้แลกเปลี่ยนความเห็นว่า รายการอาหารใดเข้ากับสุราอื่นใดที่ผลิตในพื้นที่ด้วย สำหรับเบียร์ไทยทุกคนลงความเห็นว่าเข้าได้กับทุกเมนู

           ผลไม้ที่สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ประชาสัมพันธ์ในโครงการประกอบด้วยทุเรียน มังคุด และมะพร้าว โดยในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ทุกคนต่างเห็นว่ารสชาติของผลไม้ไทยเข้ากันได้อย่างดีกับชาที่ชาวชิงต่าวนิยม นอกจากนี้ กงสุลใหญ่ฯ ยังได้สาธิตถึงวิธีการแกะทุเรียน วิธีการปอกมังคุด วิธีการเลือกผลไม้ รวมทั้งกล่าวถึงประโยชน์ของผลไม้เหล่านั้น และแนะนำวัตถุดิบที่ใช้ในประกอบอาหาร เช่น ใบเตย ตะไคร้ เครื่องแกงต่าง ๆ ตลอดจนแนะนำว่าหากคนไม่ดื่มชาหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ยังสามารถดื่มน้ำมะพร้าวไทยแทนได้อีกด้วย