เมื่อวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ นาง Ingeborg Flønes, CEO และนาย Julien Carron, ผู้จัดการฝ่ายอาหารและเครื่องดื่ม ของบริษัท Hurtigruten Svalbard ได้ให้การต้อนรับ นางสาววิมลพัชระ รักษาเกียรติ เอกอัครราชทูต ณ กรุงออสโล ณ โรงแรม Radisson Blu Polar Svalbard ซึ่งเป็นธุรกิจหนึ่งในเครือของบริษัท Hurtigruten โดยในโอกาสดังกล่าว เอกอัครราชทูตฯ พบปะและพูดคุยกับพนักงานคนไทยที่ทำงานในแผนกต่าง ๆ ของโรงแรม Radisson Blu Polar Svalbard และ โรงแรม Funken Lodge (ในเครือของบริษัท Hurtigruten) ด้วย
คณะผู้บริหารของบริษัท Hurtigruten Svalbard แจ้งว่า ปัจจุบัน บริษัท Hurtigruten Svalbard มีพนักงานชาวต่างชาติที่มาจาก ๔๒ ประเทศ มีพนักงานชาวไทย จำนวน ๓๑ คน โดยชาวไทยเป็นพนักงานกลุ่มใหญ่ของบริษัทฯ ทำงานในแผนกอาหารและเครื่องดื่ม แผนกงานครัว แผนกจัดเลี้ยง และแผนกแม่บ้าน โดยผู้บริหารของบริษัท Hurtigruten Svalbard ได้กล่าวชมเชยว่า พนักงานชาวไทยเป็นผู้ที่ตั้งใจทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ มีความขยันขันแข็ง และซื่อสัตย์ นอกจากนี้ บริษัทฯ มีความประสงค์จะรับชาวไทยมาทำงานเพิ่ม โดยเฉพาะในงานด้าน logistics ของโรงแรม
นอกจากนี้ ผู้บริหารของบริษัท Hurtigruten Svalbard ขอบคุณเอกอัครราชทูตฯ ที่ได้เดินทางมาพบเพื่อหารือผู้แทนสำนักงานนายกเทศมนตรีของหมู่เกาะสวาลบาร์ดในครั้งนี้ ซึ่งแสดงถึงความสำคัญของสถานเอกอัครราชทูตฯ ให้กับการดูแลสวัสดิภาพของชุมชนไทยในสวาลบาร์ด อันจะเป็นประโยชน์ในการให้หน่วยงานของทางการสวาลบาร์ดได้รับฟังเสียงสะท้อนจากชุมชนไทยในสวาลบาร์ดมากขึ้น โดยเฉพาะการที่เอกอัครราชทูตฯ หยิบยกประเด็นการใช้ใบขับขี่ของไทยของชุมชนไทยในสวาลบาร์ด เพราะเป็นสิ่งที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการทำงานของพนักงานไทย รวมถึงการดำรงชีวิตประจำวันในหมู่เกาะสวาลบาร์ดด้วย
ในช่วงการเยือนสวาลบาร์ดครั้งนี้ เอกอัครราชทูตฯ ได้มีโอกาสพบและพูดคุยกับพนักงานชาวไทย ซึ่งทำงานอยู่ที่ร้านกาแฟ Fruene (บริเวณใจกลางของเมือง Longyearbyen) โดยได้พบกับคุณตันหยงฯ พนักงานชาวไทย ซึ่งทำแซนด์วิชอร่อยมาก คุณตันหยงฯ เล่าว่า มีชีวิตที่ดีในการทำงานที่สวาลบาร์ด แต่กำลังจะกลับไปเยี่ยมคุณพ่อ และตั้งใจจะทำอาหารแบบ organic ให้คุณพ่อรับประทาน
จากการสอบถามเกี่ยวกับสภาพชีวิตความเป็นอยู่และสภาพการทำงานของชุมชนไทยในสวาลบาร์ด ส่วนใหญ่เดินทางมาอาศัยอยู่ในหมู่เกาะสวาลบาร์ดเป็นระยะเวลานานกว่า ๑๐ ปีขึ้นไป หลายคนอยู่มา ๒๐ ปี โดยเป็นเดินทางเข้ามาอาศัยอยู่พร้อมครอบครัว หรือเครือญาติ ทุกคนมีความเป็นอยู่ที่ดี มีโอกาสในการประกอบอาชีพ รวมทั้งสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมของสวาลบาร์ดได้ดีด้วย แม้ว่าสภาพธรรมชาติของสวาลบาร์ดจะมีความท้าทายจากอากาศหนาวเย็นมาก และช่วง polar nights จะอยู่ในความมืดทั้งวันทั้งคืนเป็นเวลานานหลายเดือน แต่เป็นที่น่ายินดีที่ชุมชนไทยปรับตัวได้ดีมาก
เอกอัครราชทูตฯ ได้ย้ำว่า เป้าหมายสำคัญของการเยือนสวาลบาร์ดของเอกอัครราชทูตฯ ในครั้งนี้ คือ ความตั้งใจที่จะได้พบเพื่อพูดคุยสอบถามสารทุกข์สุขดิบ และให้กำลังใจแก่ชุมชนไทยในการช่วยแก้ไขปัญหาหรือตอบข้อห่วงกังวลบางประการที่อาจส่งผลต่อการดำรงชีวิตของชุมชนไทยในสวาลบาร์ด เพื่อส่งเสริมให้ชุมชนไทยมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดี และมีความเข้มแข็ง เพื่อสามารถเป็นกำลังสำคัญของครอบครัว และช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไทยในภาพรวมได้ต่อไป โดยเป็นการเยือนสวาลบาร์ดครั้งที่สองของเอกอัครราชทูตฯ หลังจากเยือนสวาลบาร์ดครั้งแรกเมื่อต้นปี ๒๕๖๓ ก่อนสถานการณ์โรคโควิด
ในโอกาสนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอขอบคุณ คุณณัฐพล ชูภู่ คุณขนิษฐา สินปรุ คุณอรรถชาติ สินปรุ และคุณอภิญญา อุบลรัตน์ ผู้ประสานงานชุมชนไทยในสวาลบาร์ด ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้การพบปะชุนไทยครั้งนี้ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยเป็นอย่างดี