เมื่อวันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๖๗ นางสาววิมลพัชระ รักษาเกียรติ เอกอัครราชทูต ณ กรุงออสโล พร้อมด้วยข้าราชการสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงออสโล ได้เชิญผู้แทนคณะกรรมการวัดในบริเวณกรุงออสโลและเมืองใกล้เคียงเข้าพบหารือ ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูตฯ ซึ่งมีผู้แทนจากวัดในบริเวณกรุงออสโลและเมืองใกล้เคียงเข้าร่วม อันประกอบด้วย วัดไทยนอร์เวย์ วัดป่าชิปท์เว็ท (โลกุตตรวิหาร) วัดป่าโพธิภูมิวัน เมือง Lillehammer วัดป่าโพธิธรรม เมือง Drammen วัดไทยธรรมดา เมือง Jaren สถานปฏิบัติธรรมวัดสันโป่ง เมือง Hokksund และวัดพระธรรมกายนอร์เวย์
เอกอัครราชทูต ณ กรุงออสโล ได้ร่วมหารือกับผู้แทนคณะกรรมการวัดและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในการทำงานระหว่างกันทั้งในด้านกงสุลและการใช้ชีวิตในนอร์เวย์ รวมทั้ง เอกอัครราชทูตฯ ได้เล่าให้คณะกรรมการวัดได้รับทราบถึงการทำงานของสถานเอกอัครราชทูตฯ ที่ดูแลชุมชนไทยในนอร์เวย์กว่า ๓๐,๐๐๐ คน และร่วมทำงานกับวัดไทยต่าง ๆ ในนอร์เวย์ ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน ๒๓ แห่ง โดยคณะกรรมการวัดไทยและชุมชนไทยถือเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการทำนุบำรุง และสืบสานงานพระพุทธศาสนาในต่างแดน ทุกคนทำงานด้วยจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา และเป็นผู้ส่งเสริมแนวทาง Dhamma Diplomacy หรือวิถีธรรมทางการทูตของสถานเอกอัครราชทูตฯ ด้วย
เอกอัครราชทูตฯ ยังได้อธิบายถึง Dhamma Diplomacy ในการปฏิบัติหน้าที่ของนักการทูตตามที่พระราชวัชรสุทธิวงศ์ฯ (หลวงพ่อพระอาจารย์อารยวังโส) ได้สอนเอกอัครราชทูตฯ ว่า นักการทูตต้องเป็นผู้ประพฤติธรรมในพระพุทธศาสนา ต้องเคารพธรรมะ ซึ่งคือ การเคารพมนุษยชาติอย่างเท่าเทียมกัน เพราะพระพุทธศาสนาไม่ได้สอนให้มีการแบ่งแยกทางชนชั้น เชื้อชาติ หรือวรรณะ แต่ให้มองทุกคนเป็นมนุษยชาติ เพื่อให้เกิดสันติภาพในโลก ดังนั้น หน้าที่ของนักการทูต คือ ทำอย่างไรให้เกิดสันติภาพ สันติสุขในแต่ละความแตกต่าง แต่ไม่แตกต่างทางจิตวิญญาณ โดยการที่มาทำงานในนอร์เวย์มีความเอื้อต่อการทำงานตามแนวทาง Dhamma Diplomacy อย่างยิ่ง
ในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตฯ ได้กล่าวขอบคุณน้ำใจและความปรารถนาดีของชุมชนไทยในนอร์เวย์และครูบาอาจารย์ในวัดต่าง ๆ ในนอร์เวย์ที่มีให้แก่เอกอัครราชทูต และสนับสนุนการทำงานของข้าราชการสถานเอกอัครราชทูตอย่างดียิ่งมาโดยตลอด ที่สำคัญ การพบปะกันระหว่างคณะกรรมการวัดต่าง ๆ ในนอร์เวย์ในครั้งนี้เป็นการรวมตัวของคณะกรรมการวัดต่าง ๆ ในนอร์เวย์ที่สถานเอกอัครราชทูตฯ เป็นครั้งแรก ซึ่งเอกอัครราชทูตฯ หวังว่า จะนำไปสู่การสร้างเครือข่ายการช่วยเหลือซึ่งกันและกันของวัดไทยต่าง ๆ ในนอร์เวย์ ทั้งวัดใหญ่ วัดเล็ก เพื่อช่วยกันทำงาน ช่วยเหลือเกื้อกูลกันเพื่อสืบสานงานด้านพระพุทธศาสนาในนอร์เวย์สืบต่อไป ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ พร้อมให้การสนับสนุน
เพื่อแสดงความขอบคุณในการทำงานด้วยจิตอาสาและไมตรีจิตของคณะกรรมการวัดและจิตอาสาทุกคน เอกอัครราชทูตฯ ได้มอบหนังสือ “A Compilation of News Reports in Norwegian Press with Translations and Documents Related to the Royal Visit by Their Majesties The King and Queen of Thailand to Norway, 19-21 September 1960 การเสด็จพระราชดำเนินเยือนนอร์เวย์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ๑๙-๒๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๓” เป็นที่ระลึกด้วย