เมื่อวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๕ คณะผู้แทนสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองกัลกัตตา ประกอบด้วย นางสาวอัจฉราพรรณ ยาวะประภาษ กงสุลใหญ่ ณ เมืองกัลกัตตา นายเกษมสันต์ ทองศิริ รองกงสุลใหญ่ และนายณัฏฐ์ สวัสดิ์สาลี กงสุล ได้พบคณะสงฆ์และฆราวาสผู้ปฏิบัติธรรมชาวไทยจากวัดไทยและชุมชนไทยพุทธในตำบลพุทธคยา อำเภอพุทธคยา และพื้นที่ใกล้เคียง ในภารกิจให้คำปรึกษาด้านกงสุล ณ วัดไทยพุทธคยา ตำบลพุทธคยา อำเภอพุทธคยา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเดินทางมาจากวัดไทยมคธพุทธวิปัสสนา วัดป่าพุทธคยา วัดปากน้ำพุทธคยา และวัดไทยพุทธสาวิกา เป็นต้น

ในโอกาสดังกล่าว กงสุลใหญ่ฯ ได้รับทราบข้อมูลล่าสุดที่เกี่ยวข้องกับพระสงฆ์และฆราวาสไทยที่ปฏิบัติศาสนกิจในประเทศอินเดีย โดยในการนี้ สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดเตรียมเอกสารสำหรับขอรับการตรวจลงตราเพื่อเดินทางมาแสวงบุญหรือปฏิบัติภารกิจด้านศาสนากับสถานเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย การปฏิบัติตนเมื่อเดินทางเข้าและพำนักในประเทศอินเดียทั้งระยะสั้นและระยะยาว ขั้นตอนในการขอมีหนังสือเดินทางเล่มใหม่ การขอเอกสารเดินทางฉุกเฉิน และการขอใบอนุญาตให้เดินทางออกจากประเทศอินเดีย (Exit Permit) กรณีเอกสารการเดินทางสูญหาย รวมทั้งการเชิญเข้าร่วมกลุ่มไลน์คนไทยและการเตรียมการลงทะเบียนคนไทยที่พำนักในเขตความรับผิดชอบของสถานกงสุลใหญ่ฯ (ภาคตะวันออกของอินเดีย) นอกจากนี้ สถานกงสุลใหญ่ฯ ยังให้ข้อมูลแก่ชุมชนไทยเกี่ยวกับบทบาทของสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองกัลกัตตา ในด้านการอพยพคนไทยกลับประเทศในห้วงการระบาดของโรคโควิด-๑๙ ในปี ๒๕๖๓ การให้ความช่วยเหลือด้านกงสุลแก่คณะสงฆ์ที่พำนักอยู่ในรัฐพิหารในช่วงดังกล่าว ทั้งนี้ ในภาวะปัจจุบันที่สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-๑๙ ในประเทศอินเดียค่อนข้างคลี่คลายลงแล้ว และมีผู้แสวงบุญชาวไทยทยอยเดินทางกลับมายังพุทธคยาอย่างต่อเนื่อง สถานกงสุลใหญ่ฯ คาดว่าในอนาคตอันใกล้จะกลับมาดำเนินโครงการส่งข้าราชการจากกระทรวงการต่างประเทศมาประจำชั่วคราว ณ ที่ทำการกงสุล วัดไทยพุทธคยา ในช่วงเดือนตุลาคม-มีนาคม ซึ่งตรงกับฤดูกาลแสวงบุญ เพื่อทำหน้าที่เป็นจุดติดต่อระหว่างคณะผู้แสวงบุญชาวไทยในพุทธคยากับสถานกงสุลใหญ่ฯ รวมถึงช่วยอำนวยความสะดวกและให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นในกรณีที่มีเหตุด่วนและเหตุฉุกเฉิน ซึ่งถือเป็นการขับเคลื่อนการทูตเพื่อประชาชนด้านการกงสุล และเป็นการช่วยส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาและสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของคณะสงฆ์ไทยในดินแดนพุทธภูมิสืบไป